ทนายดังแนะรัฐควบคุมการรับบริจาคทาง Facebook และ Social Media หลังข่าว ลุงแท็กซี่จนไม่จริง
ทนายเดชา โพสต์ลง เพจ ทนายคลายทุกข์ ข้อความว่า #บทเรียนของรัฐในการที่ไม่ควบคุมการรับบริจาคทาง Facebook และ Social Media
การที่รัฐปล่อยให้มีการรับบริจาค กันทาง facebook โดยไม่มีการควบคุมทำให้เป็นช่องทางให้ผู้ที่ไม่สุจริต อาศัย
ความสงสาร และความศรัทธาของประชาชน ได้เงินได้ทองไปเป็นจำนวนมากทั้งที่ไม่ควรได้รับเงินบริจาค
เป็นช่องทางแสวงหาประโยชน์ในทางทรัพย์สินโดยมิชอบด้วยกฎหมาย
รัฐบาลควร แก้ไขกฎหมายขอทาน หรือกฎหมายเกี่ยวกับการเรี่ยไรให้ครอบคลุม การขอทานหรือการขอรับบริจาค
ทาง Social Media โดยด่วน
บางคนเปิด Facebook ขึ้นมา และนำคลิป ของตำรวจมาด่า โดยอ้างว่าตำรวจเหล่านั้นเป็นด่านเถื่อน
หลังจากนั้นเรียกยอดไลค์และรับบริจาคเอาเงินไปใช้เป็นประโยชน์ส่วนตัว โดยสร้างความเกลียดชัง ตำรวจไปทั่วประเทศ
มักเรียกตัวเองว่านักรบกวนด่านสร้างนักรบไปหาเรื่องกับตำรวจทุกท้องที่ทั่วราชอาณาจักร ไม่มีใครทำอะไรได้
#อยากให้ควบคุมการรับบริจาคทางfacebook
จากข่าวก่อหน้านี้กันคนไทยสายบูญ ใจบุญสุนทาน สงสานคนง่าย ใจอ่อน นายสิทธิชัย ใกล้ชิต วัย 72 ปี คุณลุงขับแท็กซี่ ที่ได้รับผลกระทบจากสถานกาณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้ไม่มีนักท่องเที่ยวมาใช้บริการ คุณลุงสิทธิชัย ต้องปรับเปลี่ยนมาขับรถส่งพัสดุ เพื่อหาเงินประทังชีวิต แต่ก็ไม่ดีขึ้น ทั้งเนื้อทั้งตัว มีเงินอยู่แค่ 200 บาท เท่านั้น ซึ่งมันก็ไม่เพียงพอต่อค่าเช่ารถเลย คุณจิราพร ผู้สื่อทีวีดัีง จึงช่วยแชร์เรื่องราวของคุณลุงสิทธิชัย ทำให้มีประชาชนแห่บริจาคช่วยเหลือเป็นอย่างมาก เพียงคืนเดียวได้เงิน 8.3 ล้านบาท ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้
จนความจริงปรากฏ ลุงแท็กซี่เจอเจ้าของอู่แฉ จนไม่จริง
คอมเม้นต์