เรื่องเล่า มากกว่าการขาย (บ้าน)
มากกว่าการขาย (บ้าน)
กริ๊งง กริ๊งง ฉันหันไปมองเบอร์ที่โชว์ขึ้นบนหน้าจอมือถือ พี่สุชาติ
"สวัสดีค่ะ พี่สุชาติ"
"พี่ พี่น้อยเองค่ะ เมียพี่สุชาติ จำได้ไหม พี่สุชาติเสียแล้วค่ะ พี่เก็บของ เลยเจอเบอร์น้องชมพู่"
"พี่สุชาติ เสียแล้วเหรอคะ เสียใจด้วยนะคะ เป็นอะไรเสียเหรอคะ พี่สุชาติดูแข็งแรงออก"
"เส้นเลือดสมองแตก นอนร.พ.อยู่พักนึงจ๊ะ"
นับเป็นข่าวช็อคสะเทือนใจทีเดียว ไม่ชินสักที เวลาที่รู้ว่าคนที่เคยพูดคุยไม่อยู่อีกต่อไปแล้ว โดนเฉพาะคนที่เคยเป็นลูกค้าจะรู้สึกโหวง ๆ ทุกที
เมื่อตอนเข้าไปทำงานขายบ้านใหม่ ๆ พี่สุชาติเป็นลูกค้ากลุ่มแรก ๆ ของฉัน บ้านพี่สุชาติอยู่หมู่บ้านชัยพฤกษ์ ต้องเข้าไปในซอยลึกพอสมควร คุยกันนานหลายเดือนทีเดียวกว่าพี่เขาจะใจอ่อน ยอมให้เอาบ้านมาขาย พอบอกพี่ ๆ ในออฟฟิศ พี่เขาบอกขายยากนะ พี่ยังขายไม่ได้เลย
บ้านหลังนี้สนุกมีประสบการณ์แปลก ๆ เยอะ เรื่องแรกเลยคือ ข้างบ้านหลังที่ติดกันเป็นคนทรง มีตำหนัก เป็นผู้หญิงอายุพอควรอยู่กับลูกสาว ที่มีโอกาสรู้เพราะวันหนึ่งมีพราหมณ์ใส่ชุดขาว ผมยาวมวยผมไว้บนหัว มากับภรรยาเพื่อมาขอดูบ้าน พี่สุชาติและพี่น้อยมาด้วย เพราะเอากุญแจบ้านมาให้ พี่น้อยเป็นคนให้ข้อมูลว่าถ้าคนนี้ซื้อก็ดีนะ สองบ้านคงคุยกันสนุก เพราะเป็นคนทรงกับพราหมณ์ดูดวง
เสียดายไม่ได้มีการซื้อขายจากการดูบ้านในวันนั้น เพราะอาชีพพราหมณ์ไม่อยู่ในลิสต์ของการปล่อยกู้ของธนาคาร
บ้านหลังนี้อยู่ไกลกับบ้านที่ฉันพักอยู่มากพอสมควร ต้องใช้เวลาในการเดินทางถึงเกือบสองชั่วโมงทีเดียว เป็นบ้านที่มีคนขอดูมาก เพราะขนาดพื้นที่เยอะ บ้านก็อยู่ในทำเลหลังมุมด้านนอกติดซอย แต่แปลกไม่สามารถปิดการขายได้สักที อาจด้วยทำเลของหมู่บ้าน บ้านในด้านนี้มีบ้านร้างอยู่เยอะ เลยดูน่ากลัวไปบ้าง ในบ้านมีต้นโพธิ์อยู่ต้นหนึ่ง พี่สุชาติฟันทิ้งหลายรอบ เมื่อกลับมาดูบ้านทีไร ต้นโพธิ์ก็แตกกิ่งขึ้นใหม่ทุกครั้ง และลูกค้าที่มาดูบ้านก็ชอบติเรื่องต้นโพธิ์นี้
ผ่านไประยะหนึ่งพี่สุชาติตัดสินใจยกเลิกการขายบ้าน เพราะเบื่อและอยากเก็บไว้ให้ลูกดีกว่า รถไฟฟ้าก็กำลังจะมาในอนาคต ว่าไงว่าตามกัน เราจึงหยุดการพูดคุยกันไปเพราะยุติการขายบ้านแล้ว
พี่น้อยขอร้องให้ช่วยขายบ้านหลังใดหลังหนึ่งก็ได้ให้ จะหลังเดิมหรือหลังที่พี่น้อยอยู่ก็ได้ เพราะพี่น้อยเป็นแม่บ้านเลี้ยงลูกมาตลอด คอยรับส่งลูก เมื่อหมดหัวหน้าครอบครัวก็ลำบาก เงินประกันชีวิตที่ได้มาก็คงมีให้ใช้ได้อีกไม่นาน
ฉันตกลงดำเนินการขายบ้านให้พี่น้อยทั้งสองหลัง วันที่ไปเดินดูบ้านที่พี่น้อยพักอาศัยฉันรู้สึกอึดอัด ไม่ค่อยสบายใจ รีบเดิน รีบถ่ายรูปและรีบกลับ จะเป็นแบบนี้อยู่บ้างนาน ๆ ที กับบ้านบางหลัง หาคำตอบไม่ได้ว่าเพราะอะไร จนเลิกใส่ใจกับความรู้สึกแบบนี้ไปนานแล้ว
ในระยะเวลาไม่นานฉันปิดการขายบ้านที่ชัยพฤกษ์ได้ รอบนี้ปิดการขายได้เร็ว แม้ลูกค้าจะต่อราคามาเยอะ และต้องให้พี่น้อยเจรจากับข้างบ้านให้รื้อคอมเพรสเซอร์แอร์ที่ติดล้ำเข้ามาในบ้าน รวมไปถึงรางรับน้ำฝนที่ยื่นเกินเข้ามาด้วย ฉันต้องร่วมไปเจรจากับพี่น้อยด้วย เพราะพี่น้อยไม่ถูกกับข้างบ้าน เจรจาขอร้องให้เขาทำโดยจะช่วยค่าใช้จ่ายในการรื้อรางระบายน้ำฝนให้ และฉันช่วยพี่น้อยด้วยส่วนหนึ่ง ถึงจะเกิดการซื้อขาย
งานต่อมาของฉันคือขอเงินมัดจำจากคนซื้อในยอดที่เยอะพอสมควร เพื่อนำเงินนั้นไปชำระค่าส่วนกลางของหมู่บ้านที่ติดค้างไว้เป็นสิบปี ไปด้วยกันอีกเหมือนเดิม ฉันก็ไปให้ทั้ง ๆ ที่จะปฏิเสธก็ได้ แต่ฉันเข้าใจพี่น้อยคงเคว้งคว้าง ลูกถึงแม้จะเรียนมหาวิทยาลัยแล้ว แต่คงยังไม่อาจเป็นที่พึ่งให้พี่น้อยได้
ในวันนัดโอนบ้าน วันนั้นพี่น้อยร่าเริงขึ้นมาก เงินหลายล้านที่เอาเข้าบัญชีคงช่วยให้พี่น้อยและลูกพ้นสภาวะฝืดเคืองไปได้อีกนาน ระหว่างรอเจ้าหน้าที่ทำงานเราก็นั่งคุยกันไปเรื่อย ๆ พี่น้อยปรึกษาฉันว่าจะทำธุรกิจอะไรดี เพราะกลัวว่าถ้าไม่หาอะไรทำเงินจะหมด ฉันก็รับฟังและตอบคำถามของพี่น้อยไปนิดหน่อย เพราะดูแล้วพี่เขาคงแค่อยากได้คนฟังมากกว่า
ก่อนจะแยกกันขึ้นรถเพื่อกลับบ้าน พี่น้อยหันมาขอบใจฉันด้วยสีหน้าอิ่มเอิบแต่มีน้ำตาคลอเบ้า สีหน้าและแววตาแบบนี้แหล่ะ ที่ทำให้การทำงานของฉันมีความหมาย มีค่า และมีความสุข
ความสุขที่มากกว่าเงินทอง คือ ความสุขที่รู้ว่าความสามารถในการทำงานของเราสามารถช่วยคนได้ด้วย ทำให้รู้ว่าตัวเราเองมีคุณค่าขนาดไหน
อักษราลัย
22 เมษายน 2563
fb.me/gooddaywithcandy