น้ำพริก อาหารรสแซ่บบบ
น้ำพริก มห้ศจรรย์ของกินรสแซ่บ
ในศาสตร์หมอแผนไทย การยับยั้งสารอนุมูลอิสระที่ใช้ในในศาสตร์การแพทย์ แผนไทยนั้น วิธีการที่ร่างกายสามารถ ทำกิจกรรม ๓ ประการดังต่อไปนี้ได้ปกติ ๑. กินได้ ๒. ถ่ายได้ ๓. นอน โดยไม่ต้องพึ่งตัวช่วยใดๆก็ตามมาทำให้ธุระ พวกนั้นได้เสร็จ หากจำต้องพึ่งพาอาศัยแสดงว่า กายนั้นผิดปกติ ก็ ต้องหาเหตุที่ทำให้เปลี่ยนไปจากปกตินั้น ไม่ใช่ไปพึ่งยาถ่าย ยานอนหลับ โน่นเป็นปลายเหตุ เพราะเหตุว่าหากไม่แก้กัน ที่ตัวการก็จะเปลี่ยนไปจากปกติอยู่ร่ำไป ไฟย่อยแล้วก็ระบบการสรุปยเป็นวัสดุใน การย่อยของอาหารเพื่อเปลี่ยนเป็นพลังงานให้กับ ร่างกาย ระบบการสรุปยนั้นวิชาแพทย์ไทยแจงว่า เป็น เรื่องของรูปธาตุดินหรือปถวีธาตุ วิชาแพทย์ไทยยังแจงถัดไปว่า ปถวี "อันตคุณัง" ซึ่งก็คือระบบการสรุปย และก็ "อันตัง" เป็นระบบ การขับถ่ายจากการสรุปยนั้น เมื่อระบบย่อยปฏิบัติงานจำต้องอาศัยปิตตัง (น้ำ ย่อย) อันมาแต่ว่าชูนัง (ระบบตับ) ปฏิบัติงานผสานกัน ไปให้ระบบหลายครั้งดำเนินการปกติ กำเนิดเป็นปริณามัคค (ไฟย่อย) ความร้อนสำหรับการเผาผลาญของกิน เมื่อกำเนิดความร้อนในระบบก็จะกำเนิดโกฎฐาสยา- วาตา (ลมในไส้) ช่วยผสมรวมทั้งขับระบบ ไฟย่อยทำให้พวกเรากินได้ ทำให้พวกเราถ่ายได้ ถ้าเกิดกินได้/ถ่ายได้ปกติ การนอนก็จะดี ขึ้น แม้กระนั้นจำต้องปราศจากความเครียดหรือความวิตกมาเยี่ยม รวมทั้งถ้าเกิดไฟย่อยหย่อนยานลงน้อยไป ระบบการสรุปยการ เผาผลาญของกินก็จะไม่สมบูรณ์ ทำให้กินได้น้อย การสรุปยก็ไม่ดี
ของใหม่ "น้ำพริก" ของชาวไทย ก็เลยเกิดขึ้น เป็นเครื่องจิ้มในมื้อของกิน เนื่องจากว่าน้ำพริกมีรสร้อนช่วยก่อไฟ ย่อยทำให้การเผาผลาญอาหาร ดี รับประทานแนมไปพร้อมมื้อของกิน ทำให้เจริญอาหาร ท้องไส้สบาย ช่วยในการย่อยของกินให้ธรรมดา แถมมี เครื่องจิ้มเป็นผักสดเพิ่มกากใยอาหาร เข้าไปอีก ช่วยระบบการขับถ่าย มีวิตามิน เกลือแร่ ครบบริบูรณ์ในสำรับน้ำพริก
หากกินได้/ถ่ายได้ปกติ การนอนก็จะดียิ่งขึ้น แต่ว่าจำเป็นต้อง ปราศจากความเครียดหรือความ ตื่นตระหนกมาเยี่ยม น้ำพริกรับประทานคู่กับปลาทอด ปลาย่าง หมูหวาน แนมด้วยผักสุดหรือผักลวกราดหัวกะทิ น้ำพริกมีรสชาติอันเผ็ดร้อน เป็นสิ่งใหม่ ที่สร้างสรรค์ขึ้นมาได้สอดคล้องกับลักษณะภูมิอากาศใน พื้นที่ น้ำพริกเป็นของกินที่สายสมในประเทศที่ สายลม (เมืองไทย) ในวิชาแพทย์ไทยบอกว่า รสร้อนนั้นช่วย กระจัดกระจายกองลมอันเกิดขึ้นจากลมฟ้าลมฝนในประ- เทศที่ลมมรสุมนี้ แล้วก็ในวิชาแพทย์ไทยนั้นแจงว่า เมื่อเข้า วัยชรา เริ่มตั้งแต่แก่นับได้ ๓๐ ปีไปแล้ว ไฟราตุๆในกายนั้นจะเริ่มหย่อนยานลงตามสังขารหมวด ไฟย่อยจะถอยลง ไฟอุ่นร่างกายจะถอยตาม
จากวัยกึ่งกลางซึ่งเป็นวัยที่ไฟ วัยที่ความ ร้อน สู่วัยไฟถอยหมดไฟ แล้วก็เมื่อไฟถอยลมก็ ถอยตามกำเนิดอาการทางลม จะเริ่ม.. - ของกินไม่ย่อย - ให้ท้องเฟ้อจนถึงเฟ้อ - มีเรอหรือกระทั่งเรอเปรี้ยว - จะกีดกัน - จะป่วยหนักเนื้อป่วยหนักตัว เพราะเหตุว่าลมหย่อนยาน จากไฟหย่อนยาน - จะเมื่อยไปตามเนื้อเรียกตัว - ความรวดเร็วแคล่วคล่องว่องไวจะถอยลงตาม เป็นวัยที่จำเป็นต้องรับประทานยาลงข้างหลังทานข้าว เพื่อช่วยจุด ไฟย่อยไปช่วยในการย่อยของกิน ช่วยทำให้ลมเคลื่อนเจริญ ลมไหลดี โลหิตไหลเวียนดีตามลมให้เลือดลมดี ของกินรสร้อนยอดเยี่ยมสมกับวัย เมื่อไฟย่อยดี ไฟอุ่นกายย่อมดีตาม ไฟที่ความเสื่อมถอยไปจะชะลอเป็นที่สุด
น้ำพริกรสร้อนมากจัดจ้าน ก็เลยเป็นของกินชะลอวัย ด้วยเหตุนี้ ผู้ที่เป็นโรคเรื้อรัง ผู้ที่เป็นโรคติดเตียง คน ที่ไม่อยากอาหาร คนติดเกม คนติดโลกโซเชียล คนทำงานที่ทำการติดเก้าอี้ กลุ่มนี้เป็น ผู้ที่เคลื่อนน้อย อาการทางลม จะผุด หรือเปล่าผุดวันนี้วันหลังผุด แน่ๆ น้ำพริกเป็นยาสำหรับท่าน "น้ำพริก" สิ่งใหม่เพื่อ การรอวัย เป็นของกินของคน ใจกล้าแล้วก็รักในรสที่เข้มขั้น สม กับคู่รักสุขภาพที่จริงจริง น้ำพริกนั้นรับประทานดีในสองขณะ...
หนึ่งเข้ายามฟ้ายามฝน - สองเข้ายามเย็นแดดร่มลมตก น้ำพริกช่วยกระจัดกระจายกองลมดีนักแล แถมยังช่วย ย่อยให้สบายท้องเตียนโล่งโปร่ง ของกินจะถูกย่อยได้อย่างมีคุณภาพเปลี่ยนไปเป็น พลังงานเพื่อเลือดเนื้อร่างกาย น้ำพริกนั้นมีเป็นสิบเป็นร้อยแนวทางปรุง แม้กระนั้นมองเห็น นิยมกันแต่ว่าน้ำพริกกะปิที่เป็นของหมักของดอง น้ำพริกไม่เข้าเวรปก็ยังมีอีกมากเท่าไรนัก อย่างเช่น น้ำพริกข่า น้ำพริกชายหนุ่ม น้ำพริกอ่อง น้ำพริกผักชี น้ำพริกกุ้งแห้ง น้ำพริกพริกไทย น้ำพริกตาแดง น้ำพริกกากหมู น้ำพริกขโมย น้ำพริกเผา น้ำพริกมะขามแฉะ น้ำพริกตะไคร้ น้ำพริกมะเด่น น้ำพริกคั่วทราย น้ำพริกผัดหมู น้ำพริกข้าวตังหน้าตั้ง น้ำพริกประเทศพม่า 9ฯ
ขอยกตัวอย่างน้ำพริกเป็นยาสักขนาน "น้ำ- พริกตะไครั้" เหมาะกับคนเกลียดชังกลิ่นรสของ กะปี ทำเก็บไว้ได้นาน เพราะเหตุว่าผ่านความร้อนด้วย การผัด มีโปรตีนจากกุ้งแห้ง มีคุณประโยชน์ของตะไคร้ มีรสกลมกล่อมละมุนละไมครบรสเผ็ด-เค็ม-เปรี้ยว-หวาน ใช้เผ็ดจากพริกขี้หนูและก็พริกชี้ฟ้า จำเป็นต้องสีแดง แค่นั้น สีจะได้งาม เนื่องจากว่ากับกุ้งแห้งที่สีแดง แล้วก็ใช้หอมแดงซอกซอยที่สีแดง ตะไครซอกซอย พริกไทย เม็ดหอม" ตำพริกรวมทั้งพริกไทยให้รอบคอบยิบ ต่อจากนั้น และก็ตามด้วยตะไคร้และก็หอมแดงที่ตรอกไว้ ตำให้ละ เอียดเหมาะ ใส่เกลือเข้าไปหน่อยจะได้ตำได้นัว ขึ้น ใส่กุ้งแห้งปัน คลุกเคล้าจนเข้ากัน เทน้ำมันลงกระทะแต่ว่าน้อย ร่อนน้ำมันให้ทั่ว กระทะ เอาน้ำพริกที่ตำลงคั่ว ขาดเค็มใช้เกลือ เอา หวานตัดเค็มนิด แต่งรสเปรี้ยวด้วยน้ำมะขามแฉะ คั่วต่อจนถึง แห้งสนิทดี เก็บเข้ากระปุกกินได้นานวัน วิชาเภสัชศาสตร์ของแพทย์ไทยนั้น กล่าว ถึงคุณประโยชน์ของตะไคร้ไว้ว่า "ช่วยบำรุงรักษาธาตุและก็ไฟธาตุ ช่วย แก้อาการเบื่อของกิน ช่วยขับ น้ำดีมาย่อยอาหาร ช่วยลดอาการ ท้องเฟ้อแน่นเฟ้อ น้ำพริกนั้นมากับเครื่องจิ้มเครื่องแนม น้ำพริกถ้าเกิดรับประทานกับผักตั้มน้ำกะทิจำต้องแนมด้วยปลาฟ ไม่ใช่ปลาทู แม้กระนั้นถ้าเกิดรับประทานกับผักดองจำต้องแนมด้วยหมู น้ำพริกนั้นรับประทานดีในสองตอน เวลา...หนึ่งเข้ายามฟ้ายามฟน สองเข้ายามเย็นแดดร่มลมตก หวาน ถ้าเกิดรับประทานกับผักผัดน้ำมันจำต้องแนมด้วยปลาย่าง หรือไข่เค็ม โน่นเป็นศิลป์สำหรับเพื่อการดื่มน้ำพริกของชาวไทย ที่ทำให้การกินนั้นครบรสอย่างอร่อย วัยหมดไฟจำต้องเพิ่มด้วยไฟ เพิ่มด้วยของกิน ย่อมดีมากยิ่งกว่าเพิ่มเติมด้วยยา เสมือนที่ฮิปโปโปเตมัสรเครดีสเคยบอกไว้เมื่อนานมา แล้วว่า... "ต้องใช้ของกินเป็นยารักษาโรค และก็ ให้อาหารเป็นยาของท่าน" ชะลอวัยให้แก่ซ้ำด้วยน้ำพริก ก่อไฟย่อยให้ลุก โพลง ไฟที่ชีวิตจะลุกตาม จะได้ไม่ดับมอดเร็ว พวกเราชาวไทยสามารถดื่มน้ำพริกได้ทุกๆวัน ใน ๓๐ วันโดยไม่ซ้ำกันเลยวันใดวันหนึ่ง แต่ว่าจะดื่มน้ำพริกก็จำเป็นต้องรับประทานให้ถูกกับภาวะ อากาศ ถ้าหากเข้าร้อนให้รับประทานรสไม่จัดมากมาย ถ้าเกิดเข้าลมให้ รับประทานรสจัดได้ หากเข้าหนาวให้น้นที่รสเปรี้ยว ขอยกตัวอย่างน้ำพริกตามฤดูกาล ดังต่อไปนี้ หน้าร้อน ทุกน้ำพริกที่รสไม่จัด ดังเช่นว่า น้ำพริก อ่อง น้ำพริกชายหนุ่ม น้ำพริกเผา ทุกน้ำพริกที่รสจัดได้ ดังเช่น น้ำพริก หน้าฝน กะปี น้ำพริกตาแดง น้ำพริกขี้กา หน้าหนาว ทุกน้ำพริกแม้กระนั้นจะต้องแต่งรสไม่จัดและก็ มีรสเปรี้ยวนำ ยกตัวอย่างเช่น น้ำพริกมะดัน น้ำพริกมะม่วงซอกซอย ขอชูแนวทางปรุงสามน้ำพริก สำหรับสามมื้อตาม ลักษณะอากาศ เอามาปรับใช้เสียใหม่ เพื่อคนรุ่น ใหม่คงจะบริโภคได้สมช่วงที่แปรไป จะรับประทานนำพริกก็จะต้องรับประทานให้ถูก กับลักษณะอากาศ ถ้าหากเข้าร้อน ให้รับประทานรสไม่จัดมากมาย หากเข้าลมไท รับประทานรสจัดได้ ถ้าหากเข้าหนาวให้เน้นย้ำ ที่รสเปรี้ยว
มื้อเซ้า ข้าวเหนียวปั้นจี-น้ำพริกชายหนุ่ม - ข้าวเหนียวแผ่เป็นทรงกลม ชุบไข่เป็ดแล้วก็ค่อยนำไปย่าง - นำข้าวจีมายัดใสน้ำพริกชายหนุ่มรวมทั้งแตงร้าน ม้วนเป็นทรงกลมยาว - ตัดเป็นชิ้นพอดิบพอดีคำ 269 ข้าวทอด-ไส้น้ำพริกอ่อง - ข้าวสารเก่าหุง - นำน้ำพริกอ่องขยำรวมอาหารกระทั่งนัวถูกกัน - ปั้นเป็นก้อนกลมชุบไข่แล้วก็ผงขนมปังฉาบ - นำไปทอดจนกว่าจะเหลืองงาม
มื้อกลางวัน น้ำพริกผัดหมูบด แบบคนวัวราช ของเดิมของจริงนั้นเป็นน้ำพริกผัดที่ใช้น้ำกะทิแทน น้ำมัน อร่อยหอมหวานมันกว่ากันมาก ยุคเก่านั้นน้ำมันหายากกว่ามะพร้าว แม้กระนั้นคน เวลานี้ใช้น้ำมันผัดแทนน้ำกะทิ เพราะว่าคุ้นน้ำมันมากมาย กว่าน้ำกะทิ ทำให้ไม่เคยรู้อรรถรสของของกินยุคเดิม กันอีกแล้ว เครื่องตำน้ำพริกครกนี้มี หอมแดงกระเทียม ไทย ข่า ตะไครั้ ทั้งหมดทั้งปวงเอามาซอกซอยใบมะกรูดฉีก พริก นำพริกไทยมีเป็นสิบเป็นร้อย ขนาน สมารถยนต์กินได้ทุกวี่ทุกวันเป็นเดือน โดย ไม่ซ้ำกันสักนำพริกเดียว แห้งบางชง แล้วลงคั่วในกระทะพอให้น้ำมันหอม ระเหยส่งกลิ่นหอมออกมา แล้วลงครกตำกระทั่ง ละเอียด เอาเนื้อหมูติดมันมาสับละเอียด (ห้ามหมูบด) นำลงรวนกับหางกะธุระนหมูสุกพักไว้ก่อน แล้วต่อจากนั้นเอา หัวกะทิลงกระทะลำพัง [url=https://lordofgambling.com] สล็อต[/url] กระทั่งแตกน้ำมัน ถึงเอาเครื่อง ตำลงผัดกับกะธุระนหอมคลุ้ง ค่อยใส่หมูรวน ผัดต่อ จนกระทั่งแห้ง แต่งรสเผ็ดนำ เค็มตาม หวานด้านหลัง ตักลงถ้วย โรยใบมะกรูดซอกซอย ใบผักชีลาวซอกซอย เสริมสวย รับประทานกับผักราดกะทิ แนมกับปลาทอดเป็น อร่อยบิน ทำเก็บเข้ากล่องแช่ตู้แช่เย็นเก็บได้นาน ถ้าหากเบื่อข้าว จะเอาไปทำเป็นไส้แซนวิซ ไว้ห้องครัว- ซอง หรือเอาไปผัดกับเส้นสปาเก็ตตี้ เส้นมะกะโรนี ก็อร่อยไปอีกในลัษณะหนึ่ง มื้อเย็น น้ำพริกพริกไทยสด มี พริกไทยสด หอม กระเทียมไทย กลีบเล็ก พริกชี้ฟ้าสามสี กุ้งแห้ง นำกุ้งแห้งและก็เกลือเม็ดลงตำ แล้วตาม ด้วย หอม กระเทียม พริกชี้ฟ้า ตำเพียงพอหยาบคาย แล้วนำพริกไทยสดลงบุ๋มจนถึงทั้งสิ้นถูกกัน แล้วพักไว้ นำไปผัดโดยใช้น้ำมันหมู ผัดกับหมูสามชั้นแค่พอสุก
ต่อจากนั้นนำน้ำพริกลงผัด แต่งรสเพียงแค่เค็มหวาน แค่นั้นเพียงพอ น้ำพริกไทยมีเป็นสิบเป็นร้อยขนาน สามารถ กินได้ทุกวี่วันเป็นเดือน โดยไม่ซ้ำกันสักน้ำพริกเดียว รวมทั้งน้ำพริก เป็นยาแล้วก็เป็นยาช่วยชะลอวัย พวกเรา สามารถเอาน้ำพริกมาแปรเป็นของใหม่ตามสมัย ยุคได้อีก เอาไปทำเป็นแซนวิช เป็นแฮมเบอร์เกอร์ เป็นสปาเก็ตตี้ เป็นผัดมะกะโรนี ได้อีกนานาประการ มนู อยู่ที่จะคิดประดิษฐ์กันไป ผู้ใดกันไม่ต้องการแก่เร็ว ก็ทดลองหาน้ำพริกมากิน โดยไว ให้ไว รับประทานทุกเมื่อเชื่อวันได้ยิ่งดี หรือขั้นต่ำ ดื่มน้ำพริกให้ได้สักสามถึงสี่ครั้งต่ออาทิตย์ดีต่อ สุขภาพแน่ๆ โดยยิ่งไปกว่านั้นคนเป็นโบราณโรค เป็น เป็นมาเรื้อรัง ตัวอย่างเช่น โรคเบาหวาน ไขมัน คนทำงานติด เก้าอี้ คนติดเกม ติดโลกโซเชียล ดีต่อท่านนักแล https://lordofgambling.com