"เรียนไปเพื่อ?"
"เรียนไปเพื่อ?"
เราทุกคนต้องลุกขึ้นไปโรงเรียนแต่เช้าและโดนบังคับ ให้ไปเรียนให้สูงที่สุด ไปถึงบ้าง ไม่ถึงบ้าง โดดบ้างเข้าเรียนบ้าง รู้เรื่องบ้าง ไม่รู้เรื่องบ้างปะบ่นกันไป แต่ที่รู้ไปโรงเรียนเพราะได้เจอเพื่อนๆ ได้เล่น ได้เจอสาว ได้เจอหนุ่ม ได้ตังค์กินขนม 5555
แต่เดี๋ยวนี้ยุคสมัยเปลี่ยน ค่านิยมเรื่องการศึกษาเปลี่ยนไป หลายคนอาจบอกว่าเป็นที่ระบบการศึกษาทำให้การศึกษาในประเทศไทยถดถอย ไม่ควรค่าแก่การเรียน ไหนมองว่าไปเรียนตั้งแต่อนุบาลเสียเงินค่าเล่าเรียนมากมาย จบมาเพียงได้เงินเดือนเท่าหยิบมือบ้าง จึงทำให้การเรียนในระบบลดลง
อ้าวๆๆ พอเริ่มเขียนก็เริ่มวิชาการปวดหัวขึ้นมาทันที บทความนี้ เสาวนิจ เองแค่อยากมาแสดงทัศนะเกี่ยวกับการศึกษาของในความคิดตนเอง เพราะ ด้วยการที่มาเรียนต่อแล้วโดนคำถามเหล่านี่ในหัวและเป็นคนหนึ่งที่คิดเสมอ เหมือนข้อความข้างบน เรื่อง เรียนไปเพื่อ? โน้นนั้นนี่ก็ไม่ดีสักกะอย่างจะเรียนให้เปลืองเงินไปทำไม ก่อนมาเรียนต่อ ป.โทก็โดนทัดทานจากคนมากมายจนต้องร้องไห้เพราะหาคำตอบไม่ได้ว่า เรียนไปเพื่ออะไรกัน คิดกันอยู่ 3 เดือนสุดท้ายก็ไม่ได้คำตอบ บอกได้ว่า “ฉันอยากเรียน” “ตอบแบบโง่ ๆ” ไปเพราะเปิดเทอมแล้วยังคิดไม่ออก
ในที่สุด พอเริ่มเรียนก็ได้คำตอบ ว่า
- เราไม่ต้องมองว่า ระบบการศึกษาเป็นอย่างไร แค่เราเรียนจะเอาไปใช้อะไร พอโตขึ้น ทำงานด้วยเรียนต่อเราจึงรู้ว่าเราจะเอาความรู้ไปต่อยอดอะไรและความรู้นั้นไปพัฒนาตัวเองอย่างไรอะไร ไม่ใช่เรียนในกรอบไปวันๆ ท่องจำจนไม่เป็นอันทำอะไร
- เราไม่ต้องมองว่าเราจะจ่ายค่าเรียนไปเท่าไหร่ มันจะคุ้มกับค่าเรียนที่เสียไปหรือป่าว แค่เรามาเรียนตอบ ข้อ 1 ได้เราก็ทำเงินจากการเรียนได้ ถ้าเริ่มเรียนแล้วเรามีเงินเพิ่ม มีช่องทางหาเงินเพิ่ม ก็เรียนไปเถอะ
- เรียนสูงไปทำไม อันนี้ก็ยังตอบเหมือนกันว่า ไม่จำเป็นต้องเรียนสูงคนจบ ป. 6 มีงานดีๆทำ มีเงิน มีอนาคตถมไป ไม่จำเป็นต้องเรียนสูงหากเราค้นพบตัวตนเร็วขึ้น เลือกทำงานที่ใช่และชอบพร้อม ๆ กันคุณภาพชีวิตก็ดีแล้ว เรียนสูงไม่ได้วัดคุณภาพชีวิต แต่ที่เสาวนิจ เรียนเพราะ ตามฝันของพ่อแม่ เชื่อมั่นและศรัทธาว่า ความรู้ที่เราเรียนจะนำมาพัฒนาตัวเองได้ดีไม่เพียงแต่จะเรียนเพื่อคำว่า รายได้ที่ดีขึ้นเท่านั้น
แล้วแต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ทำไปเถอะค่ะ ถามตัวเองว่ามีความสุขกับการทำอะไรก็ทำไปเถอะ เรียนสูงไม่คิดอะไร ชีวิตก็ไม่มีดี เรียนต่ำทำตัวดีชีวิตก็รุ่งเรืองมีคนนับหน้าถือตา นับถือในความเก่งของคุณได้
เสาวนิจ ปากบารา
21/02/63