เปิดปฎิกิริยา บอย ปกรณ์ หลัง ชิปปี้ บอกรักกลางวงสื่อ
หลังจากพระเอกหนุ่ม “บอย ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์” รุ่นพี่คนสนิท “ชิปปี้ ศิรินทร์ ปรีดียานนท์” ก็เป็นอีกหนึ่งคนที่ถูกจับตามองความสัมพันธ์ว่ามีทิศทางพัฒนาความสัมพันธ์มากกว่าเพื่อนได้หรือไม่
โดยล่าสุดทั้งคู่ก็ควงกันมาร่วมงาน Siam Paragon Chinese New Year 2020 : The Infinite Prosperity ณ พาร์ค พารากอน ศูนย์การค้าสยามพารากอน ได้ออกมาชี้แจ้งความสัมพันธ์ว่า
บอย : “เอาจริงๆ ผมกับชิปก็มีคนเชียร์เหมือนกัน หมายถึงว่าคนข้างตัว เขาก็เห็นว่าเราดูบุคลิกคล้ายๆ กัน เฮๆ ฮาๆ แต่ยังไม่ได้คิดถึงเรื่องจีบชิปนะ ไม่ได้คิดไปถึงขั้นนั้น เรามองเขาเป็นน้อง (หันไปถามชิปปี้) อยากให้พี่จีบเหรอ (หัวเราะ) ถามว่าผมหวงไหมเวลามีข่าวเขามีผู้ชายมาจีบ ล่าสุดใช่ไหม ที่เขามีข่าวกับคุณฝรั่ง เอาจริงๆ หลายคนอาจจะนึกว่าเอ๊ะ เราสนิทกัน เจอกันตลอด แต่เปล่าครับ ความจริงผมก็ไม่ค่อยได้เจอชิป”
“แต่เราก็ฟอลโลว์เขา เราก็เห็นสตอรี่แหละ ว่าเดี๋ยวเขาก็ไปเที่ยวโน่นนี่ แล้วก็มีเพื่อนต่างชาติ เราก็ไม่ได้ทำไม แต่ล่าสุดเราก็ได้เห็นข่าวเหมือนกัน เรื่องคุณกับคุณฝรั่ง แต่คือเราไม่ได้ถึงขั้นไปตามว่าตอนนี้ชิปมีข่าวอะไรบ้าง แต่ว่าเราก็เล่นโน่นนี่ แล้วมันก็มีหน้าฟีดขึ้นมา ก็เพิ่งทักเขาไปเมื่อวานซืน ว่ามีแฟนฝรั่งไม่เห็นบอกเลย (หัวเราะ) ไม่ได้หวง แต่เราเป็นห่วงมากกว่า ก็แค่ประมาณว่า อ้าว ทำไมมีหนุ่มไม่เห็นบอกกันเลย”
ชิปปี้ : “ไม่ หนูก็บอกพี่บอยว่าก็เป็นเพื่อน ทำไมต้องบอกด้วยหรอว่ามีเพื่อนกี่คน ไม่ได้คบกัน”
บอย : “ก็ข่าวเขาบอกเป็นแฟน มีรูปออกมาเหมือนจีบกันอยู่”
ชิปปี้ : “เราก็ลงกับเพื่อนตั้งหลายคน พี่บอยก็รู้”
บอย : “คือจริงๆ คนเชียร์เยอะ ก็ขอบคุณมากครับ แต่ผมกับชิปคือยังไม่ได้มีความสัมพันธ์ที่คิดกันเกินกว่านั้น แต่คืออย่างที่บอกแหละ เวลาพี่ๆ สื่อถามว่าอนาคตล่ะ ผมก็ตอบไม่ได้ ก็ไม่ได้กั๊ก แต่วันนี้มันไม่มีอะไร ใช่ไหมชิป แล้วตกลงคุณฝรั่ง คุณแม็ก นี่ยังไง”
ชิปปี้ : “เป็นเพื่อนค่ะ แต่ว่าหนูรักพี่บอยมากกว่าทุกคนเลยนะ”
บอย : “(หัวเราะเขิน) คือเราก็รักเขาแบบน้องแหละ จริงๆ อย่างที่ผมบอก เวลามีข่าวเราก็ไม่ถึงขั้นแบบว่าไม่ให้มี อย่ามี เราจะไปห้ามเขาไม่ได้ มันชีวิตเขา แต่ว่าพอถ้าเขามีข่าวอะไรขึ้นมา ก็เป็นห่วงเขาแหละ ก็ต้องถามเขาแหละว่าอะไรยังไง คบกันหรือเปล่า ก็เป็นห่วงเป็นใยความรู้สึกเขา”
ชิปปี้ : “หนูขอแม่แล้วนะพี่บอย ขอแม่ไปเดตกับพี่บอยแล้ว แม่ก็อนุญาตค่ะ หนูพูดจริงๆ”
บอย : “คือแม่เขาไม่เข้าใจหรอก คำว่าไปเดต แม่เขาแค่เข้าใจว่าไปกินข้าว”
ชิปปี้ : “เดตก็คือไปกินข้าวกันไง ไปดูหนัง”
บอย : “เออ ไม่รู้ แต่ของคนไทย เดตมันเหมือนว่าจีบกัน ทีนี้ก็คือวันที่ผมไม่สบาย ชิปก็ไปเยี่ยมใช่ไหม แล้วแม่ก็นั่งอยู่ เขาก็พูดขึ้นมาว่าเนี่ยแม่ หนูพาพี่บอยไปเดตได้ไหม แม่ก็บอกไปสิ คือแม่เข้าใจว่ากินข้าวกันเฉยๆ คือเราก็เฉยๆ เพราะเรารู้จักชิปปี้ดีว่าเขาเป็นคนชอบพูดอะไรแบบนี้ขึ้นมา แบบโพล่งขึ้นมา คือนี่ผมก็ไม่ได้เขิน เวลาผมคุยกับชิปปี้จะเป็นแบบนี้ทุกที คือชิปมักจะพูดอะไรที่ผมตอบไม่ได้ ก็เป็นแบบนี้มานานแล้ว ผมเขินเหรอ”
ชิปปี้ : “พี่บอยเขาปากแข็ง เขาเป็นคนปากแข็ง”
บอย : “ไม่ได้เสียอาการ คือผมก็ยังรู้สึกกับชิปแบบเป็นพี่เป็นน้อง”
ชิปปี้ : “หนูไม่ตื้อค่ะ หนูก็หยอดๆ แบบนี้แหละค่ะ (หัวเราะ)”
บอย : “(หัวเราะ) คือผมรู้ว่าสิ่งที่ชิปพูด เวลาคนที่ดูเขาก็จะว่าแบบโน่นนี่ แต่คือผมรู้จักชิปดี เขาชอบพูดอะไรแบบนี้แหละ เหมือนเขาก็คิดกึ่งหนึ่ง แล้วก็พูดโดยไม่คิดอีกกึ่งหนึ่ง”
ชิปปี้ : “ก็หยอดๆ ไปก่อน (ยิ้ม)”
บอย : “หยอดใคร”
ชิปปี้ : “ไม่รู้ ก็หยอดคนทั่วไป”
บอย : “ไม่มี พูดแบบนี้คนก็กลัวพี่หมดเลย เห็นไหม ถามว่าคิดว่าชิปกำลังแกล้งเราไหม ชิปก็อาจจะไม่ได้แกล้ง (หันไปถามชิปปี้) ชอบพี่เหรอ เอายังไง”
ชิปปี้ : “(หัวเราะเขิน) ก็ไม่ได้ชอบแบบนั้น ก็รักพี่บอยไง”
บอย : “ก็คือแบบเนี๊ยะ ความสัมพันธ์ของเราสองคนเป็นลักษณะแบบนี้ เจอกันก็เออ พี่บอยคิดถึงชิปเปล่า ชิปคิดถึงพี่บอย ก็คุยกัน แต่มันไม่มีอะไรที่เกินไปกว่าพี่น้อง ณ ตอนนี้ แต่ถ้าหายไปก็คิดถึงนะ เราก็คิดถึงเขา เพราะเราก็สนิทกันด้วย แต่ว่าบางทีเขาก็สนิทกับเพื่อนเขา ลืมเราก็มี”