ชวนไปเป็นคน"จรจัด"ด้วยกัน
ในวาระขึ้นศักราชใหม่และขึ้นทศวรรษใหม่พร้อมกันด้วย ชีวิตคนเราควรจะเริ่มต้นแสวงหาสิ่งใหม่ ๆคงจะดีกว่า ดังนั้นถึงเวลาหรือยังที่จะขายทิ้งคฤหาสน์ใหญ่โตราวกับปราสาทราชวังและคอนโดมิเนียมหรูหราราคาแสนแพงใจกลางเมือง อันวุ่นวาย สับสน ซ้ำซาก น่าเบื่อหน่าย เต็มไปด้วยมลพิษทางอากาศและทางทัศนียภาพ เพื่อไปแสวงหาความสันโดษ ความสดชื่นแจ่มใส ความตื่นตาตื่นใจ อากาศบริสุทธิ์ ท่ามกลางธรรมชาติที่ยังพอจะหลงเหลืออยู่บ้าง ก่อนที่มันจะไม่หลงเหลืออยู่อีกต่อไป เดินทางไปต่างถิ่นต่างแดนเรื่อย ๆไปอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง คือไปเป็นคนจรจัดนั่นเอง
หลายคนคงเคยศึกษาว่าในสมัยพุทธกาลเจ้าชายสิทธัตถะได้ทอดพระเนตรเห็นเทวทูตทั้ง 4 คือ คนแก่ คนเจ็บ คนตาย และสมณะ ซึ่งเกิดจากการเนรมิตของเทพยดา ที่ทำให้พระองค์ทรงเบื่อหน่ายในกามสุข จึงเสด็จออกบรรพชา จนตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า
เปล่าเลยมิได้ชักชวนให้ออกบวชหรือปลีกวิเวกไปบำเพ็ญตนเป็นฤาษี ชีไพร ตามป่า ดง พงไพร แต่อย่างใด แต่ด้วยความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีการสื่อสาร ทำให้เราสามารถใช้ชีวิตได้อย่างเป็นอิสระโดยไม่ยึดติดอยู่กับที่อีกต่อไป ไม่ว่าจะอยู่ที่ใดเราสามารถติดตามข่าวสาร หาความบันเทิงจากการดูหนัง/ฟังเพลง ซื้อ/ขายสินค้า ติดต่อเพื่อนฝูง/ญาติสนิท/มิตรสหาย ทำธุรกรรมทางการเงิน และอื่น ๆผ่านทางการสื่อสารไร้สายได้ทุกขณะ เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วทำไมเรายังต้องอาศัยอยู่บ้านหลังเดิม ในที่เดิม ๆ ทำไมเราไม่พาบ้านเดินทางไปกับเราด้วย ปัจจุบันเราสามารถพาบ้านเดินทางไปกับเราได้และกำลังได้รับความนิยมขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งจะทำให้เราสามารถเป็นคน"จรจัด" โดยไม่ต้องนอนกับดิน กินกับทรายเช่นเดียวกับคนจรจัดในสมัยก่อน นั่นคือเราดัดแปลงรถยนต์ให้เป็นบ้านเคลื่อนที่ เคลื่อนไปทุกที่ที่เราต้องการ เราอาจจะได้รับการขนานนามใหม่ว่า "บุปผาชนในยุคการสื่อสารไร้สาย"
***ฮิปปี้ (Hippie/hipster) หรือ บุปผาชน เป็นกลุ่มคนที่รัก อิสระเสรีภาพ ดำเนินชีวิตที่เรียบง่าย แต่งกายที่ไม่ต้องภูมิฐาน ฟุ้งเฟ้อ หรือยึดติดกับสิ่งของราคาแพง ที่เกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกา ช่วงต้นทศวรรษ 1960 ***
อ้างอิงจาก: https://youtu.be/UOyS_Js1xiw
https://youtu.be/UG8QnjT57UY
https://youtu.be/JRaVfhyFOB8