ยังวุ่นไม่เลิก!
ยังวุ่นไม่เลิก! รักษาการเจ้าอาวาสวัดหลวงพ่อเงินบางคลานไวยาวัจกรเข้าแจ้งความวัตถุมงคลและเงินกว่า 40 ล้านถูกยักยอกทรัพย์
วัดหลวงพ่อเงินบางคลานต้นเหตุเกิดจากกิเลสของมนุษย์ ที่ไม่กลัวบาป บุญ คุณ โทษ ไม่ยำเกรงกฎหมาย เหิมเกริมเพราะมีนักการเมืองบางคนหนุนหลัง ล่าสุดรักษาการเจ้าอาวาส มอบอำนาจให้ไวยาวัจกรเข้าแจ้งความที่ สภ.โพทะเล เหตุตรวจสอบบัญชีพบทั้งวัตถุมงคลและเงินในบัญชีอันตรธานหายไป รวมมูลค่ากว่า 40 ล้านบาทเศษ
วันที่ 18 พ.ย. 2562 เมื่อเวลา 15.00 น. พระครูพิสุทธิวรากร รักษาการเจ้าอาวาสวัดหิรัญญาราม หรือ หลวงพ่อเงินวัดบางคลาน ได้มอบอำนาจให้ นายพร ปั้นเพ็ง อายุ 67 ปี อยู่บ้านเลขที่ 16 หมุ่ 5 ต.บางคลาน อ.โพทะเล จ.พิจิตร ซึ่งเป็นไวยาวัจกร วัดหิรัญญาราม หรือ วัดหลวงพ่อเงินบางคลาน หอบหลักฐานเข้าแจ้งความที่ สภ.โพทะเล โดยได้เข้าพบกับ พ.ต.อ.วิสุทธิ์ คลายแสง ผกก.สภ.โพทะเล ที่รับเรื่องแจ้งความร้องทุกข์ด้วยตนเองพร้อมทั้งให้ ร.ต.อ.มินทร์ มิชสิงหธ์ รอง สารวัตรสืบสวน สภ.โพทะเล เป็นผู้รับแจ้งความลงบันทึกประจำวัน โดย นายพร ปั้นเพ็ง ไวยาวัจกร ได้ทำเป็นหนังสือร้องทุกข์ยื่นให้กับพนักงานสอบสวน โดยมีเนื้อหาสาระถึงเหตุที่ต้องมาแจ้งความ ว่า ได้รับมอบหมายตรวจสอบการจัดสร้างวัตถุมงคลหลวงพ่อเงินพุทธโชติ รุ่น 55 มหาบารมี พบความผิดปกติของการจัดสร้างวัตถุมงคลรุ่นดังกล่าวที่ใช้งบประมาณในการจัดสร้างในคราวนั้น 31 ล้านบาทเศษ นำไปจัดสร้างวัตถุมงคล 123,729 ชิ้น และซื้อกล่องใส่พระ มีการเบิกเงิน 20 ล้าน ออกจากบัญชีของวัดหิรัญญาราม อ้างเหตุผลว่า เป็นเงินทดรองจ่าย จากนั้นก็ได้นำวัตถุมงคลจำนวน 93,729 ชิ้น ออกจำหน่ายไปได้ 74,606 ชิ้น ซึ่งได้เงินเป็นจำนวน 68 ล้านบาทเศษ จึงทำให้ยังคงเหลือวัตถุมงคลอีกประมาณ 49,424 ชิ้น นำไปจัดทำชุดนำฤกษ์จำนวน 500 ชุด ชุดละ 15 ชิ้น หรือ 7,500 ชิ้น จำหน่ายชุดละ 14,999 บาท แต่เมื่อตรวจสอบกลับไม่พบรายละเอียดในการนำเงินที่จำหน่ายวัตถุมงคลชุดนำฤกษ์เข้าบัญชี ซึ่งเป็นเงินประมาณ 7 ล้านบาทเศษ ส่วนวัตถุมงคลที่เหลือจากชุดนำฤกษ์อีกประมาณ 13,578 ชิ้น ปรากฏว่าพบเหลือมีจริงอยู่เพียง 20 ชิ้น หายไป 13,558 ชิ้น มูลค่าประมาณ 11 ล้านบาทเศษ กลับหาไม่เจอและไม่มีคำชี้แจงจากผู้ที่เกี่ยวข้อง
และจากการสอบบัญชีรายรับรายจ่ายวัตถุมงคลและบัญชีทางการเงินโดยสรุป มีรายรับ 68 ล้านบาทเศษ จ่ายค่าจัดสร้างเป็นเงิน 11 ล้านบาท เศษ จ่ายคืนเงินสำรองจ่ายที่อ้างว่านำไปจัดทำวัตถุมงคล 20 ล้านบาท ทำให้เงินคงเหลือที่จะต้องนำส่งวัดอีกจำนวน 57 ล้านบาท ปรากฏว่าตรวจสอบข้อเท็จจริงมีการนำส่งเงินเข้าวัดเพียงแค่ 30ล้านบาทเศษ ดังนั้น ยอดเงินจึงหายไป 26 ล้านบาท เงินได้จากการจำหน่ายชุดนำฤกษ์อีก 7 ล้านบาทเศษ และวัตถุมงคลมูลค่า 11 ล้านบาท เป็นเงิน 43 ล้านบาทเศษ ได้อันตรธานหายไป จึงเป็นเหตุให้ต้องเข้าแจ้งความดังกล่าว
สำหรับผู้ที่จะต้องเป็นผู้ชี้แจงในคราวนี้ก็คงจะหนีไม่พ้นพระครูวิสิฐสีลาภรณ์ ซึ่งเป็นอดีตเจ้าอาวาสวัดหิรัญญาราม หรือ วัดหลวงพ่อเงินบางคลาน ที่เป็นผู้รับผิดชอบกิจการของวัดในช่วงที่เป็นผู้มีอำนาจเบิกจ่ายเงิน ครอบครองวัตถุมงคล ซึ่งหลังจากที่พนักงานสอบสวนรับเรื่องแจ้งความร้องทุกข์แล้วก็จะได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อจะหาว่าใครกันแน่ที่จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบหรือผู้กระทำผิดจากเหตุการณ์ดังกล่าวข้างต้น
สิทธิพจน์ พิจิตร