กวาดล้างอาชญากรรมและกวดขันจับกุมคนต่างด้าว
"BIOMETRICS สุดยอด! พ.ย.62 รวบอีก 9 คดี รวม 9 ราย!!
ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เรื่องการควบคุมกำกับดูแลชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักอาศัยหรือเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร.มอบหมายให้ สตม. โดย พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. ดำเนินการตรวจสอบชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ หรือกลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่เข้ามาแฝงตัวอยู่ก่อเหตุกับคนไทยหรือชาวต่างชาติ โดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด
สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดย พล.ต.ต.ชูฉัตร ธารีฉัตร รอง ผบช. สตม.พร้อมด้วย พล.ต.ต.วีรพล เจริญศิริ ผบก.ตม.2 และ พ.ต.อ.เกติ์ฉกาจ นิลประดับ รอง ผบก.ตม2 ได้ร่วมกันแถลงข่าวการระดมกวาดล้างอาชญากรรมและกวดขันจับกุมคนต่างด้าวที่เข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย หรือ ที่มีพฤติกรรมจะเข้ามากระทำความผิดทางอาญา หรือ ก่อความเดือดร้อนวุ่นวายให้บังเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม
ทั้งนี้ พล.ต.ต.วีรพล เจริญศิริ ผบก.ตม.2 ได้รับรายงานจาก พ.ต.อ.เพลิน กลิ่นพยอม ผกก.กก.สส.ปป.บก.ตม.2 ว่าในห้วงระหว่างเดือน พ.ย.62 กองกำกับการสืบสวนปราบปราม กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2 มีผลการจับกุมคดีสำคัญๆ จำนวน 9 ราย กล่าวคือ
รายที่ 1 เมื่อวันที่ 5 พ.ย.62 เวลาประมาณ 21.15 น. จับกุมชายชาวเม็กซิโกใช้หนังสือเดินทางของผู้อื่นเพื่อขอรับการตรวจลงตรา โดยผู้โดยสารเดินมากับเพื่อนสัญชาติเดียวกันลักษณะเป็นกรุ๊ปทัวร์ รวมทั้งสิ้น 11 คน เริ่มท่องเที่ยวตั้งแต่ประเทศเม็กซิโก มากรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมืองบาร์เซโลนา ประเทศสเปน และจะเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย 5 วัน ก่อนจะมีกำหนดการเดินทางกลับประเทศเม็กซิโกในวันที่ 11 พ.ย.62 เมื่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายตรวจลงตรานำหนังสือเดินทางตรวจสอบกับระบบ Biometrics ปรากฏว่าระบบแจ้งเตือนผู้โดยสารมีใบหน้าตรงกับภาพในหน้าข้อมูลส่วนบุคคลเพียง 20 เปอร์เซ็นต์ สารภาพกับเจ้าหน้าที่กองกำกับการสืบสวนปราบปรามฯ ว่า ต้องการมาเที่ยวทัวร์กับเพื่อนๆ แต่ไม่มีหนังสือเดินทางจึงต้องใช้หนังสือเดินทางของผู้อื่นในการเดินทาง เจ้าหน้าที่กองกำกับการสืบสวนปราบปรามฯ จึงจับกุมในข้อหา “ใช้หนังสือเดินทางของผู้อื่นโดยมิชอบในประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้อื่นหรือประชาชน” และนำตัวส่ง พนักงานสอบสวน สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อดำเนินคดีต่อไป
รายที่ 2 เมื่อวันที่ 7 พ.ย.62 เวลาประมาณ 20.30 น. จับกุมชายชาวจีน ใช้หนังสือเดินทางของผู้อื่นเพื่อขอรับการตรวจลงตรา โดยผู้โดยสารเดินมาจากประเทศโมร็อคโคกับแฟนสาว เพื่อท่องเที่ยวในประเทศไทย เมื่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายตรวจ ลงตรานำหนังสือเดินทางตรวจสอบกับระบบ Biometrics ปรากฏว่าระบบแจ้งเตือนผู้โดยสารมีใบหน้าตรงกับภาพในหน้าข้อมูลส่วนบุคคลเพียง 20 เปอร์เซ็นต์ สารภาพกับเจ้าหน้าที่กองกำกับการสืบสวนปราบปรามฯ ว่าตนทำงานอยู่ในประเทศโมร็อคโคโดยใช้หนังสือเดินทางเล่มดังกล่าวซึ่งเป็นของญาติ เจ้าหน้าที่กองกำกับการสืบสวนปราบปรามฯ จึงจับกุมในข้อหา“ใช้หนังสือเดินทางของผู้อื่นโดยมิชอบในประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้อื่นหรือประชาชน” และนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อดำเนินคดีต่อไป
รายที่ 3 เมื่อวันที่ 13 พ.ย.62 เวลาประมาณ 18.00 น. จับกุมชายไม่ทราบชื่อสกุล และสัญชาติที่แท้จริง โดยเจ้าหน้าที่ กก.สส.ปป.บก.ตม 2 (ชป.1) ได้ออกตรวจความเรียบร้อย บริเวณเคาน์เตอร์ออกบัตรโดยสาร B10 พบว่ามีบุคคลต่างด้าวถือหนังสือเดินทางพิรุธต้องสงสัย จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าพนักงานตรวจคนเข้าเมือง ขอตรวจสอบหนังสือเดินทางและเอกสารการเดินทาง ซึ่งจากการสอบถามบุคคลต่างด้าวดังกล่าว ยอมรับว่าตนมีความประสงค์จะเดินทาง ออกนอกราชอาณาจักรไปยังกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ โดยสายการบิน BRITISH AIRWAYS เที่ยวบินที่ BA10 เพื่อต่อเครื่องไปยังกรุงมาดริด ประเทศสเปน โดยสายการบิน BRITISH AIRWAYS เที่ยวบินที่ BA7065 โดยได้นำถือหนังสือเดินทางประเทศอิสราเอล แสดงให้เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมดู และเมื่อตรวจสอบความถูกต้องของหนังสือเดินทางเบื้องต้น พบว่ามีลักษณะแตกต่างจากหนังสือเดินทางประเทศ อิสราเอลที่แท้จริง เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แจ้งให้ผู้ถูกจับทราบว่าจะต้องถูกจับในข้อกล่าวหา “ปลอมและใช้หรือมีไว้ซึ่งหนังสือเดินทางของปลอม (หนังสือเดินทางประเทศอิสราเอล (ปลอม)) ในการเดินทางระหว่างประเทศ” จึงได้ร่วมกันจับกุมตัว พร้อมของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
รายที่ 4 เมื่อวันที่ 22 พ.ย.62 เวลาประมาณ 00.30 น. จับกุมชายชาวบังคลาเทศใช้หนังสือเดินทางของประเทศแคนาดาปลอม โดยเจ้าหน้าที่ กก.สส.ปป.บก.ตม 2 (ชป.3) ได้ออกตรวจความเรียบร้อยพบผู้โดยสารลักษณะต้องสงสัยเดินทางมาจากประเทศจีน โดยเที่ยวบิน Shanghai Airlines เที่ยวบิน FM853 กำลังจะขอรับการตรวจอนุญาตเข้าราชอาณาจักร โดยผู้โดยสารแสดงหนังสือเดินทางประเทศแคนาดาให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเมื่อตรวจสอบความถูกต้องของหนังสือเดินทางเบื้องต้น พบว่ามีลักษณะแตกต่างจากหนังสือเดินทางประเทศแคนาดาที่แท้จริง โดยชายคนดังกล่าวสารภาพว่าตนเป็นชาวบังคลาเทศ ได้หนังสือเดินทางปลอมมาจากนายหน้าชาวปากีสถานชื่อ นายโมฮัมหมัด โดยจ่ายเงิน 1,200,000 บังคลาเทศ หรือ 426,000 บาทไทย ให้กับนายหน้าคนดังกล่าว เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แจ้งให้ผู้ถูกจับทราบว่าจะต้องถูกจับในข้อกล่าวหา “ปลอมและใช้หรือมีไว้ซึ่งหนังสือเดินทางของปลอมฯ (หนังสือเดินทางประเทศแคนาดาปลอม)” และนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อดำเนินคดีต่อไป
รายที่ 5 และ 6 เมื่อวันที่ 22 พ.ย.62 เวลาประมาณ 20.30 น. จับกุมชายชาวโมร็อคโค 2 ราย ใช้วีซ่าสวิสปลอม เพื่อเดินทางไปประเทศสเปน โดยเจ้าหน้าที่ กก.สส.ปป.บก.ตม 2 (ชป.1) ได้ออกตรวจความเรียบร้อย พบผู้โดยสารกำลังเช็คอินกับสายการบินกาตาร์ โดยผู้โดยสารแสดงหนังสือเดินทางประเทศแคนาดาให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเมื่อตรวจสอบความถูกต้องของ วีซ่าสวิสเบื้องต้น พบว่ามีลักษณะแตกต่างจากวีซ่าที่แท้จริง โดยชายทั้ง 2 คน สารภาพว่า มีญาติทำงานอยู่ที่ประเทศสเปน ตนเองไดติดต่อนายหน้าชาวโมร็อคโค ชื่อ นายนาบิล เป็นผู้ดำเนินการและเสียค่าดำเนินการเป็นเงิน 4,000 ยูโร (คิดเป็นเงินไทย 133,000 บาท) เพื่อเดินทางไปลักลอบทำงานกับญาติ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แจ้งให้ผู้ถูกจับทราบว่าจะต้องถูกจับในข้อกล่าวหา “ปลอมและใช้แผ่นปะตรวจลงตราปลอม (วีซ่าในกลุ่มประเทศยุโรป)อันใช้ในการตรวจลงตราสำหรับการเดินทางระหว่างประเทศ” และนำตัวส่ง พนักงานสอบสวน สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อดำเนินคดีต่อไป
รายที่ 7 จับกุมคนต่างด้าวลักษณะคล้ายชาวจีนทราบในภายหลังคือ ชาวไต้หวัน จำนวน 1 ราย ใช้หนังสือเดินทางปลอม โดยเมื่อวันที่ 24 พ.ย.62 เวลาประมาณ 07.10 น. จับกุมคนต่างด้าวลักษณะคล้ายชาวจีนทราบในภายหลัง คือ ชาวไต้หวันใช้หนังสือเดินทางไต้หวันปลอม เพื่อเดินทางออกไปกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แจ้งให้ผู้ถูกจับทราบว่าจะต้องถูกจับในข้อกล่าวหา “ใช้หรือมีไว้เพื่อใช้ซึ่งหนังสือเดินทางปลอมฯ (หนังสือเดินทางไต้หวัน)” โดยนำตัวชาวจีนส่ง พนักงานสอบสวน สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อดำเนินคดีต่อไป
รายที่ 8 จับชาวจีน 1 ราย ใช้หนังสือเดินทางปลอม โดยเมื่อวันที่ 26 พ.ย.62 เวลาประมาณ 02.00 น. จับกุมชายชาวจีน ใช้หนังสือเดินทางประเทศจีนปลอม เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แจ้งให้ผู้ถูกจับทราบว่าจะต้องถูกจับในข้อกล่าวหา “ปลอมและใช้หรือมีไว้ซึ่งหนังสือเดินทางของปลอมฯ (หนังสือเดินทางประเทศจีน) ในการเดินทางระหว่างประเทศ” โดยนำตัวชาวจีนส่ง พนักงานสอบสวน สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อดำเนินคดีต่อไป
รายที่ 9 เมื่อวันที่ 27 พ.ย.62 เวลาประมาณ 17.00 น. จับกุมชายไม่ทราบชื่อสกุล และสัญชาติที่แท้จริง ใช้หนังสือเดินทางประเทศฟิลิปปินส์ปลอม เดินทางมาจากประเทศบราซิล เปลี่ยนเครื่องที่เมืองแอดิสอาบาบา ประเทศเอธิโอเปีย เพื่อเข้ามายังประเทศไทย เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมตรวจสอบความถูกต้องของหนังสือเดินทางประเทศฟิลิปปินส์เบื้องต้น พบว่ามีลักษณะแตกต่างจากหนังสือเดินทางประเทศ ที่แท้จริง เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แจ้งให้ผู้ถูกจับทราบว่าจะต้องถูกจับในข้อกล่าวหา “ใช้หรือมีไว้เพื่อใช้ซึ่งหนังสือเดินทางปลอมฯ (หนังสือเดินทางประเทศฟิลิปปินส์ปลอม)” และนำส่ง พนักงานสอบสวน สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
การจับกุมการกระทำความผิดข้างต้นเป็นผลจากความร่วมมือระหว่างหน่วยงานในสนามบิน โดยเฉพาะการให้ความรู้แก่หน่วยงานที่เป็นเครือข่ายประชาคมของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งได้กำหนดให้มีการประชุมประชาคมข่าวเป็นประจำทุกเดือน โดย กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2 เป็นเจ้าภาพ และมีหน่วยงานต่างๆ เช่น การท่าอากาศยานหรือ AOT กลุ่มธุรกิจการบิน หรือAOC ศุลกากร ปปส. หน่วยงานตำรวจต่างๆ เช่น ตร.ท่องเที่ยว สันติบาล ตร.ปส. สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เข้าร่วมประชุม
สตม. ขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม.มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดในด้านต่างๆ รวมถึงการเฝ้าระวังบุคคลทั้งสัญชาติไทยและสัญชาติอื่นๆ ที่มีหมายจับและมีเดินทางเข้า-ออกประเทศไทย หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เลขที่ 507 ซ.สวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178หรือที่ www.immigration.go.th จักขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่ง!!
ทีมงานประชาสัมพันธ์ ฝ่ายอำนวยการ5 :พ.ต.ต.หญิงพัชรี ศรีเผือก สว.ฝอ.5 บก.อก.สตม.:สายด่วน 1178!!
พืชที่มีพิษร้ายแรงเทียบเท่าพิษงูเห่า
'ฮุนเซน' ควันออกหู หลังลาวฉวยโอกาสขายของตัดหน้า แย่งสัมปทานจีน
ชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีด
2569 ตรงกับเป็นปีนักษัตรอะไร สีนำโชค พร้อมปีชง
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย
แคปซูลกาลเวลา 1,700 ปี การค้นพบหลุมศพโรมันที่ "สมบูรณ์แบบ" ในฮังการี
10 อันดับเมืองที่มีมลพิษสูงสุดกรุงเทพฯ
เกาหลีใต้และญี่ปุ่น เจอคลื่นความหนาวเย็นรุนแรงและพายุหิมะถล่ม การเดินทางชะงักทั่วเมือง
🔍 ถอดรหัสปี 2568! คนไทยค้นหาอะไรบน Google มากที่สุด สะท้อนภาพสังคมแห่งปี
พบเครื่องบิน "โบอิ้ง 737" ที่หายไป 13 ปี ถูกจอดทิ้งกลางสนามบิน
พบกองอาเจียนข้างตัว นัทปง ก่อนเสียชีวิต ตำรวจได้กั้นพื้นที่เพื่อตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง
แบงก์เขมรปิด ฮุน โต! เผ่นหนี ลูกค้าถอนเงินไม่ได้
พบเครื่องบิน "โบอิ้ง 737" ที่หายไป 13 ปี ถูกจอดทิ้งกลางสนามบิน
แคปซูลกาลเวลา 1,700 ปี การค้นพบหลุมศพโรมันที่ "สมบูรณ์แบบ" ในฮังการี
“นานา ไรบีนา” เพิ่งพ้นคุกก็เจอดราม่าซ้อน—เพื่อน (เคย) รักแห่ออกมาสวนแรง
🔍 ถอดรหัสปี 2568! คนไทยค้นหาอะไรบน Google มากที่สุด สะท้อนภาพสังคมแห่งปี
"ฮุนเซน" เงินหมด ทหาร BHQ คู่ใจทรยศ แอบซบอก "สมรังสี"
ประวัติ หลวงปู่ทวดดำ แห่งเขาคอหงส์ อำเภอหาดใหญ่จังหวัดสงขลา
พริกขี้หนูหอมสุพรรณ>สมบัติจากพื้นถิ่น>สู่มรดกทางเกษตรของชาติ
เรามาคุยกันเกี่ยวกับ สถานการณ์ตอนนี้จาก ของตลาดโลก กับ การเจรจาการค้าสหรัฐ-จีน และมติเฟด คุณคิดว่าจะ เป็นแบบไปในทิศทางไหน
จับกุม “กชพร” สาวโบรคเกอร์ของหมอบุญได้แล้ว หลังหลบหนีจากไทยตั้งแต่ ก.ย. 67










