เป็กกี้ รู้ตัวคนร้าย ฉกนาฬิกา โรเล็กซ์ ถึงกับเสียใจหนัก เพราะเป็นคนใกล้ตัว
ไม่มีใครไม่รู้จัก “เป็กกี้ ศรีธัญญา” หรือ “ดรุณี สุทธิพิทักษ์” ที่สร้างชื่อจากการเข้าแข่งขันช่วงหาเงาเสียงในรายการ “กิ๊กดู๋ สงครามเพลง” จนตอนนี้ “สาว เป็กกี้” นั้นมีทั้งงานพิธีกร งานโชว์ตัว ละคร ไม่เว้นแต่ละวัน
ทั้งนี้ทำเอา “สาวเป็กกี้”ถึงกับเดือดจัด หลังโดนมือดีล้วงกระเป๋าฉกนาฬิกา โรเล็กซ์ เรือนหรูไป
โดย”สาวเป็กกี้”ได้โพสต์อินสตาแกรมเป็นภาพนาฬิกาเรือนดังกล่าว พร้อมกับแคปชั่นว่า “เมื่อคืนเป็กไปงานอีเว้น ตอนขึ้นเล่นถอดนาฬิกา Rolex Yacht-Master ll ไว้ในกระเป๋า มีโจรมาล้วงเอานาฬิกาเป็กไป ตั้งแต่ เช้า ถึงตอนนี้ เป็กกำลังเดินเรื่อง อยู่ที่โรงพัก และสถานที่จัดงาน ด้วยน้ำตา #พี่ๆร้านนาฬิกา เห็นใครเอาไปขาย ฝากแจ้งเป็กหน่อยค่ะ #ข้อตัดพิเศษ เพราะข้อมือเป็กเล็กมาก ขอบคุณค่ะ”
และหลังจากนั้นก็เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ห้วยขวาง ซึ่งตอนนี้เจ้าตัวบอกว่าคดีมีความคืบหน้าไปมาก พร้อมข้อความระบุว่า “ขอบคุณสน.ห้วยขวาง ที่ช่วยติดตามเรื่องให้ด้วยความกรุณา วันนี้กลับบ้านนอนก่อน พรุ่งนี้มาใหม่ค่ะ คดีคืบหน้าไปเยอะมาก กราบขอบพระคุณค่ะ”
และได้ภาพจากล้องวงจรปิดที่เห็นผู้ต้องสงสัยอย่างชัดเจน พร้อมแคปชั่นว่า “สายสืบ สน.ห้วยขวาง เก่งมากสุดยอดค่ะ ทำงานดีดี้ #ขออภัยเสียงในคริปอาจไม่สุภาพ ซีนอารมณ์. ขอบคุณ สถานที่จัดงานนะค่ะ มีกล้องทุกจุด และชัดมากๆ”
งานนี้”สาวเป็กกี้”เห็นคลิปถึงกับเดือดและยืนยันว่าจะต้องเอาตัวคนร้ายมาเข้าคุกให้ได้ แถมเหล่าแฟนคลับ พร้อมกับเพื่อนๆในวงการแห่ให้กำลังใจ ขอให้จับคนร้ายมาลงโทษได้โดยเร็ว อีกด้วย
ทั้งนี้ล่าสุดทางด้านเจ้าหน้าที่ก็สามารถจับตัวคนร้ายได้ และต้องทำให้เจ้าตัวถึงกับช็อกเพราะคนก่อเหตุคืออดีตคนขับรถของ”สาวเป็กกี้”เอง
โดยเจ้าตัวได้เปิดใจถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่า “นี่คือเรื่องทั้งหมดยาวหน่อยนะคะอ่านเนื้อข่าว #ตรงผู้ต้องหาให้การแอบเสียใจกับคำให้การของเขาเรื่องโกรธที่โดนหักเงิน #คือหักไป 3 วันนะคะวันที่เขาต้องการหยุดด้วยตัวเองทั้งที่ไม่ใช่วันหยุด (หักที่หยุดไป3วันวางแผนกลับมาขโมยของถ้าหยุด5วันไม่กลับมาฆ่าเลยเหรอ??)
“แล้วที่ให้การว่าไปหาเพื่อนคือ #ปลอมมากแต่งชุดดำไปยืนแอบๆซุ้มๆจน #ภูวดล (ผู้ช่วยเป็ก) เดินผ่านไปเห็นแต่ไม่รู้ว่าใครเพราะเขามีแมสปิดบังใบหน้าแต่ #ภูวดลดันจำภาพพื้นหลังโทรศัพย์เขาได้จึงเข้าไปทักว่า #มาทำอะไร?? เขาตอบ #มากินข้าวกับที่บ้าน (เป็นคำพูดโกหก)และเขากำชับ #ภูวดลว่า #อย่าบอกใครนะว่าพี่มา #โดยเฉพาะพี่ฐาภูวดลก็ตอบครับๆไปด้วยความงงงงแต่ในขณะนั้นก็ไม่ได้สนใจอะไรเพราะการแสดงของเป็กเริ่มแล้วทุกคนมีหน้าที่ต้องทำผ่านเวลาไปจนท้ายโชว์ #คุณฐากูรต้องขึ้นเวทีเพื่อร่วมแสดงด้วย”
“ขณะที่พวกเราทุกคนอยู่บนเวที #ภูวดลก็เห็นเขาอีกครั้งมาโผล่หน้าแบบๆลับๆล่อๆแถวประตูทางเข้าโซนที่แต่ตัวเขารู้ว่าการแสดงเราช่วงไหนปลอดคน (โดยเราห้ามคนนอกเข้าโดยเด็ดขาดเพราะแด๊นเซอร์และเราต้องใช้เปลี่ยนชุด) #ภูวดลเดินไปดูจึงพบว่าเป็นเขาอีกครั้งครั้งนี้เป็นรอบที่ #ภูวดลบอกผิดสังเกตมากเพราะนี้ไม่ใช่ทางผ่านผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องห้ามเข้าแล้วเขาจึงบอก #ภูวดลว่าไปละจะไปเที่ยวต่อแล้วเจอกัน #ภูวดลจึงเย้าไปว่าเจอกันอีกเหรอ?? เมื่อไหร่คับเขาตอบว่าเร็วเร็วนี้ (หมายความว่าถ้ารอดไปได้จะกลับมาขโมยอีกเหรอ??)”
“ผ่านเวลาเป็กจึงทราบว่านาฬิกาหายย้อนดูกล้องวงจรปิดจึงเห็นพฤติกรรมแบบสอดแนมซุ่มดูจงใจวางแผนมาเพื่อฉกทรัพย์แบบคิดมาแล้วแล้วยิ่งตอนไปเจอครั้งแรกที่จับได้เขาไม่ใช่คนที่เป็กรู้จักเลยการพูดจาปฏิเสธแบบเย้ยหยั่นซื้อทองใส่เส้นใหญ่เท่าโซ่ลอยหน้าลอยตาเห็นเขาตอนนั้นแล้วแบบเสียใจปนผิดหวังนี่หรือคือคนที่เป็กไว้ใจตอนที่เขาทำงานกับเป็กทานอะไรเขาก็ทานแบบนั้นอาหารดีเริศแค่ไหนเขาก็ได้ทานไปเจอเพื่อนๆดาราอยากถ่ายรูปอยากเข้าไปใกล้ๆเป็กก็ไม่เคยกีดกันไม่เคยจิกหัวใช้คำพูดหยาบกระด้างกับเขาเลย”
“ข้อดีๆต่างมองไม่เคยเห็นเลยเหรอค่ะ?? จิตของเขามองเห็นแต่จุดไม่ดี #ถ้างานที่นี่ไม่มีอะไรดีสำหรับเขาเขาก็แค่ #ลาออกไปก็เท่านั้นไม่ใช่ #หาเหตุมาทำเรื่องๆชั่วๆ #แล้วหลอกตัวเองว่าเรื่องชั่วๆที่ทำมันถูกต้องการตัดสินใจลงมือของเขาในครั้งนี้ไม่ส่งผลดีต่อใครเลยค่ะพ่อแม่เมียเขาแม้กระทั้งตัวเป็กเองถึงได้ของคืนแล้วก็ใช่จะสบายใจยังคงเศร้าใจเสียดายในการตัดสินใจลงมือของเขาหัวใจที่มืดบอดความมืดมนที่ปกคลุมหัวใจเหตุการณ์นี้ผู้ได้รับผลกระทบต่างอยู่ในห้วงของความเศร้าขอให้ใจทุกดวงที่มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้จงพบความสว่างและมีความสุขสบายใจในเร็ววันไม่ว่าเขาหรือเรา“