Ford V Ferrari หนังรถซิ่งโคตรดีแห่งปี คุณภาพแซงแหกโค้งจัดเต็มสิบกระโหลก (ไม่สปอยส์)
#FordVFerrari หนังโคตรดีแห่งปี คุณภาพแซงแหกโค้งหนังเกือบทุกเรื่องที่ดูมาในรอบปี โหดสัสจัดเต็มสิบกระโหลก
Ford v Ferrari (A++++++ 10/10)
.
คุณพระคุณเจ้า!! บ้าไปแล้ว!!!
Ford v Ferrari คือหนึ่งในหนังม้ามืดที่ยกให้เป็น1ในหนังที่ดีที่สุดในปีนี้ อยากปรบมือให้ผู้กำกับและหนังดังๆหลังดูจบ ระหว่างพิมพ์นี่คือเพิ่งเดินออกจากโรง น้ำตาไหลพรากอาบแก้ม อินจนรู้สึกเหมือนอกจะแตก ร่างจะระเบิดออกมายังไงอย่างงั้นเลย เดี๋ยวขอพิมพ์ความรู้สึกเป็นข้อๆไว้ ตามนี้
.
1. นี่คือหนังรถแข่ง ที่ไม่ได้มีดีแค่รถแข่ง แต่เต็มไปด้วยพลังอัดแน่นสะเทือนอารมณ์ ลุ้นระทึกจนนั่งแทบไม่ติดเบาะ ทั้งฉากในสนามแข่ง รวมถึงฉากเหตุการณ์มากมายที่อยู่นอกเกม ไม่มีอะไรละความสนใจเราไปจากจอได้เลยสักนาทีตั้งแต่วินาทีที่หนังเริ่มยันหนังจบ
.
2. พลังแห่งการเล่าเรื่องด้วยภาพยนตร์เรื่องนี้ กลั่นเป็นความรู้สึกตื้นตัน รู้สึกกับมันจนน้ำตาไหลออกมาเอง ทั้งที่ไม่ใช่ซีนที่ใครพูดอะไร แต่เป็นซีนที่โคตรทรงพลังหลังพวงมาลัย ระหว่างรถแข่งวิ่งไปด้วยความเร็ว จนหนังถ่ายออกมาแล้วเหมือนรถแข่งและคนไม่ได้อยู่ตรงนั้นอีกแล้ว แต่มีคำถามเกิดขึ้นมา เหมือนกับเรารู้สึกได้ล่องลอยไปในห้วงอากาศที่ไม่มีTime&Spaceมาจำกัดตัวตน เราไม่รู้สึกว่ากำลังดูคนอยู่บนเบาะหลังรถซิ่งอีกต่อไป เออมันทำให้เรารู้สึกไปขนาดนั้นได้ไงวะ เก่งมากกกก เราถามตัวเองในห้วงที่รู้สึกได้อยู่กับตัวเองในขณะที่ตัวละครก็ได้โมเม้นท์สงบนิ่งกับใจตรงนี้เหมือนกันว่า
"เราเกิดมาเพื่ออะไร? เราเกิดมาเพื่อทำสิ่งใด? และ ตรงไหนคือที่ทางที่ใช่สำหรับเรา"
แน่นอนว่าคำตอบทั้งสามคำถามเกิดขึ้นในซีนเดียวที่ทำเราน้ำตาไหลพรากไม่หยุด และน้ำตาไหลไปกับหนังเรื่อยๆจนหนังจบ
.
3. นี่คือหนังที่มีประเด็นไม่ใช่เรื่องรถแข่งและสะท้อนความอยากได้อยากมีของมนุษย์ การเอาชนะกัน ความโลภ การเมืองในองค์กร การที่เห็นว่าในองค์กรขนาดใหญ่ คนแบบไหนคือคนที่ถ่วงความเจริญ หรือที่ร.6 เคยกล่าวไว้ว่าเป็นพวก "โคลนติดล้อ"
.
4. หนังได้เล่าในพาร์ทครอบครัว และมิตรภาพของเหล่าตัวเอกได้ดีมาก ทำให้เห็นว่าอะไรที่ดูเป็นไปไม่ได้ ถ้ามีTeam Playerที่ดี ต่างฝ่ายต่างช่วยสนับสนุนและผลักดันความสามารถกันออกมา อาจทำให้ทั้งทีมขับเคลื่อนไปอยู่ในจุดที่ไกลกว่าที่คิดก็ได้
.
5. สำหรับคนมีฝัน และถ้าไม่ได้ทำฝัน ต้องไปทำอะไรสักอย่างที่ไม่ใช่ตัวเองเพื่อมีชีวิตอยู่รอดไปวันๆ แล้วลึกๆอยากลงแดงตายๆไปซะ ควรได้ดูเรื่องนี้ เชื่อว่าต้องได้อิมแพคบางอย่างแน่นอน
.
6. นี่คือหนังอีกเรื่องที่มีบทดีที่สุดในรอบปี
.
7. นี่คือหนังประเด็นรถแข่งที่ดีที่สุด ทรงพลังที่สุดนับจาก Rush เมื่อปี 2013 หรือเมื่อเกือบ7ปีที่แล้ว
.
8. นี่คือหนังที่ดีที่สุดในชีวิตการทำหนังของผู้กำกับ เจมส์ แมนโกล (สำหรับเราคือดีกว่าเรื่อง Logan ที่แกกำกับประมาณ x 10 เท่าตัวของเรื่องนั้น)
.
9. ในพาร์ทนักแสดง คริสเตียน เบล กับ แมท เดมอน กลับมาท๊อปฟอร์มมากๆ เล่นกันโคตรดีแบบกินกันไม่ลง ที่สำคัญคือน้องโนอา จุ๊บส์ นักแสดงเด็กจากWonderในบทแจ๊ค วิล กับเรื่อง Honey Boy ได้ถ่ายทอดบทบาทตัวเองในเรื่องนี้ออกมาได้อย่างมีออร่าจับมากๆ น้องมีอนาคตไกลแบบรุ่นพี่อย่าง เอซา บัตเตอร์ฟิลด์ / ทิมมี่ ชาลาเมต / ลูคัส เฮดจีส ได้เลย
.
10. นี่คือหนังที่อยากให้ทุกคนได้ดู ในการแข่งขันชิงดีชิงเด่น เราทึ่งมากที่ได้เห็นชอตน้ำใจนักกีฬาจากคนที่เราไม่คาดคิดว่าจะทำ หนังมีเซอร์ไพรต์มาเสิร์ฟให้เรื่อยๆ ได้รู้จักความดุดันเคี่ยวเข็ญจากทั้งฝั่งฟอร์ดและเฟอรารี่มากขึ้น จากปกติไม่ได้อินอะไรกับรถแข่ง แต่ซีนในเรื่องนี้ มีบางซีนลุ้นแทบหัวใจวาย เขียนมาขนาดนี้ ไปดูเถอะ โคตรคุณภาพคับจอ ทั้งตัวหนัง ผู้กำกับ บท นักแสดง เอาไปเลย 10 เต็ม เข้าวินTop10หนังดีที่สุดในรอบปีแน่นอน
.
คำเตือน ออกโรงมาระวังอารมณ์ค้างแบบเราล่ะ
#บิ๊กรีวิวหนัง #หนังโคตรดี #หนังแห่งปี #FordVFerrari #มีซ้ำแน่นอน
ฝากทิ้งท้ายด้วยหนังสั้น + รีแอคชั่นตัวอย่างมู่หลาน เผื่อใครอยากดูไปพร้อมๆกับเรานะฮะ