แม่ลูกสาม เผยเหตุผลทำไมต้องล่าสัตว์กินเอง แม้เจอกระแสต่อต้านรุนแรงถึงชีวิต
เป็นเรื่องราวที่ชวนให้ใช้วิจารณญาณจริงๆ กับเรื่องของคุณแม่ลูก 3 ท่านหนึ่ง ผู้ชื่นชอบการออกป่าล่าสัตว์ด้วยไรเฟิลคู่ใจ พร้อมแชร์ภาพลงโซเชียลมิเดียจนหลายคนเริ่มทนไม่ไหว ร่อนจดหมายขู่ฆ่ากันมากมาย
ก่อนหน้านี้ ลูซี โรส หญิงสาววัย 29 ปีทำงานเป็นช่างทาสีบ้านสลับกับเลี้ยงลูก จนกระทั่งมาพบกับแฟนหนุ่มนามว่าชาร์น ผู้ซึ่งมีงานอดิเรกล่าสัตว์ เลยทำให้เธอหลงรักการล่าสัตว์ไปด้วย บ่อยครั้งที่เธอและชาร์นมักจะพากันออกไปล่าสัตว์ตามป่าเขา ส่วนใหญ่จะเป็นการล่าหมูป่าแต่ก็มีล่ากวาง ชามัวร์ เลียงผา แพะป่า กระต่ายและวัลลาบี นำเนื้อมาแล่เป็นชิ้นๆ เอาไปแช่ตู้เย็นเพื่อมาประกอบอาหาร
ถ้าหากเธอล่าตามปกติมันก็คงจะไม่เกิดเรื่อง แต่ด้วยความที่เธอชอบโพสต์รูปผลงานการล่าของตัวเองลงโซเชียลมิเดียอยู่เป็นประจำ ทำให้ชาวเน็ตพากันเดือดดาลเป็นอย่างมากต่อการกระทำของเธอ กล่าวหาว่าเธอเป็นปิศาจร้ายและไม่สมควรเรียกตัวเองว่ามนุษย์ ก่อนจะจัดการถล่มคอมเมนต์สาปแช่งทุกโพสต์ของเธอ หนักข้อไปถึงขั้นส่งจดหมายขู่ฆ่าเธอและครอบครัวกันเลยทีเดียว
แต่ถึงอย่างนั้น ลูซีก็หาได้สนใจคำก่นด่าสาปแช่งเหล่านั้นแต่อย่างใด โดยเธอให้เหตุผลที่ชอบล่าสัตว์มากินว่า ตัวเธอไม่ชอบเนื้อสัตว์ที่มาจากโรงงาน หรือมาจากการเพาะเลี้ยงเป็นปศุสัตว์เลยออกมาล่ากินเอง เพราะเธอเชื่อว่าเนื้อสัตว์เหล่านี้มาจากธรรมชาติ 100% ไม่ผ่านการปรุงแต่งจากโรงงานใดๆทั้งสิ้น และพวกมันก็มีชีวิตอยู่ดีมีสุขในป่าเขา สภาพจิตใจมันเลยดีว่าพวกสัตว์ที่เลี้ยงในโรงงานที่ต้องถูกกดขี่และทารุณ ซึ่งสภาพจิตใจของสัตว์นั้นส่งผลต่อเนื้อที่จะนำมารับประทานอย่างมาก แถมล่าสัตว์กินเองยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายเรื่องอาหารอีกด้วย
จากที่เธอพูดมานั้นก็มีเหตุผลอยู่ไม่น้อย แต่ถึงอย่างนั้นชาวเน็ตก็ยังไม่สนใจอยู่ดี เนื่องจากเหตุผลของเธอมันฟังไม่ขึ้นและเดินหน้าเรียกร้องให้เธอหยุดงานอดิเรกอันโหดร้ายทารุณนี้เสีย แต่ดูท่าแล้วน่าจะเสียแรงเปล่าเพราะเธอมีความสุขกับการล่าสัตว์มาก และยืนยันว่าจะทำแบบนี้ต่อไปเพราะเธอรับเนื้อสัตว์จากโรงงานไม่ได้จริงๆ...