บัวหิมะ ดีจริงๆ หรือ? รวมทุกสิ่งทุกอย่างที่ควรรู้ ก่อนตัดสินใจซื้อ!
หลายๆ คนน่าจะเคยได้ยินชื่อ “บัวหิมะ”กันมานานว่า เป็นหนึ่งในสุดยอดแห่งยาบำรุงกำลังที่ช่วยเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแรง บ้างก็นึกถึงดอกไม้ที่อยู่บนภูเขาสูง หรือเป็นหัวคล้ายๆ กับหัวมันอยู่ใต้ดินมากกว่าที่จะจินตนาการว่า มีบัวหิมะที่เป็นลักษณะรูปร่างแบบอื่นๆ ได้อีก
บัวหิมะคืออะไร?
บัวหิมะสามารถแยกออกได้เป็น 4 ชนิด ที่มี 4 ความหมาย ดังต่อไปนี้
- ครีมบัวหิมะ
ทำมาจากสารสกัดจากธรรมชาติหลายชนิด เช่น การบูร ผงไข่มุก ว่านหางจระเข้ และโสม ซึ่งมาจากประเทศจีนและมีราคาแพง
- บัวหิมะที่เป็นดอก (Snow Lotus)
มักจะเรียกกันว่า “บัวหิมะพันปี” เป็นพืชที่ขึ้นในพื้นที่สูงที่มีอากาศเย็นจัดๆ แถบเทือกเขาอัลไต หรือภูเขาคุนหลุน โดยใช้เวลา 3 ปี จึงจะออกดอกสีขาว หรือเขียวอ่อน
- บัวหิมะที่เป็นผลไม้ หรือบัวหิมะสด (Yacon)
คล้ายหัวมัน มีรสหวานกรอบ เปลือกค่อนข้างบาง ให้พลังงานต่ำ แต่อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุ
- บัวหิมะธิเบต (Kefir)
มีลักษณะคล้ายนมโยเกิร์ตชนิดหนึ่ง ด้วยการทำให้แบคทีเรียและยีสต์รวมอยู่ด้วยกัน เป็นการหมักโดยใช้หัวเชื้อที่เรียกว่า “Kefir grain” ที่มีลักษณะคล้ายกับดอกกะหล่ำ นมที่นิยมนำมาใช้ในการหมักทำโยเกิร์ตคีเฟอร์ ได้แก่ นมแพะ นมโค หรือนมถั่วเหลือง
สรรพคุณของบัวหิมะ
- ครีมบัวหิมะ
มักนิยมใช้ในด้านการรักษาแผลต่างๆ ที่ผิวหนัง โดยเฉพาะแผลพุพองที่เกิดจากไฟไหม้ หรือน้ำร้อนลวก เนื่องจากมีฤทธิ์เย็นและยังสามารถใช้รักษาโรคผิวหนังบางชนิดได้อีกด้วย เช่น แผลอีสุกอีใส เริม รักษาสิว กลาก เกลื้อน ฮ่องกงฟุต แมลงกัดต่อย ผื่นแพ้ และบำรุงผิวให้เปล่งปลั่ง เป็นต้น
- บัวหิมะที่เป็นดอก หรือพืช
ใช้เป็นยารักษาโรค ปรับสมดุลในร่างกาย แก้ไข้ ขับพิษ บำรุงเลือด บำรุงไต แก้ปวดประจำเดือน และแก้ข้ออักเสบ
- บัวหิมะที่เป็นผลไม้
นิยมใช้รับประทานสดๆ เพื่อช่วยบำรุงสุขภาพ ป้องกันการเกิดสิวฝ้า รักษาโรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง ป้องกันโรคมะเร็ง บำรุงหัวใจและหลอดเลือด ลดอาการร้อนใน ช่วยระบายท้อง ป้องกันไม่ให้เป็นนิ่ว ขับพิษในร่างกาย แก้อาการอักเสบ และต้านอนุมูลอิสระ
- บัวหิมะที่เป็นโยเกิร์ต
ช่วยทำให้ผิวพรรณผุดผ่อง ชะลอการเกิดริ้วรอย เสริมสร้างความแข็งแรง เสริมภูมิต้านทานไม่ให้ติดเชื้อง่าย ปรับสมดุลในร่างกายพร้อมช่วยบำรุงหัวใจ ปอด ตับ ไต ลดไขมัน LDL ลดน้ำตาล ลดความเครียด ป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง ช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานดีขึ้น รักษาโรคผิวหนังต่างๆ เช่น กลาก เกลื้อน ผิวหน้าเนียนใส รักษาสิว และกระชับรูขุมขน
รูปแบบผลิตภัณฑ์จากบัวหิมะ
- ครีมบัวหิมะ
มีทั้งผลิตภัณฑ์ในรูปแบบของครีมทาผิวรักษาโรคบนผิวหนังและแบบเครื่องสำอาง เช่น ครีมไข่มุก ครีมรักษาสิว สบู่บำรุงผิว หรือเซรั่ม เป็นต้น
- บัวหิมะประเภทโยเกิร์ต
มีทั้งผลิตภัณฑ์ในรูปแบบของเครื่องสำอาง เช่น ครีมพอกหน้า ครีมอาบน้ำ ครีมบำรุงผิวหน้า บอดี้โลชั่น ทรีทเมนต์ครีม และแบบเป็นหัวเชื้อสำหรับมาหมักเลี้ยงด้วยตัวเอง
ผลข้างเคียงจากการใช้บัวหิมะ
หากรับประทานบัวหิมะคีเฟอร์ในระยะแรกๆ อาจมีอาการท้องไส้ปั่นป่วนได้ เนื่องจากสารสำคัญในบัวหิมะกำลังขับสารพิษออกจากร่างกาย บางรายก็พบว่ามีอาการท้องผูก เนื่องจากรับประทานมากเกินไป บางรายนำบัวหิมะคีเฟอร์มาพอกหน้าก็จะเกิดอาการคัน ด้วยสาเหตุที่สารสำคัญในบัวหิมะกำลังทำงานด้วยการฆ่าเชื้อโรคและช่วยสมานแผลจากสิวที่กำลังเป็นอยู่นั่นเอง
ข้อควรระวังการใช้บัวหิมะ
การเลือกซื้อผลิตภัณฑ์บัวหิมะควรระวังของปลอม หรือลอกเลียนแบบ อีกทั้งยังห้ามใช้บีวหิมะกับแผลเปิด หรือแผลสด หากมีอาการผื่นแดงและคันจะต้องหยุดใช้ทันทีรวมถึงระวังไม่ให้เข้าตา และควรศึกษาวิธีการเก็บรักษาเพื่อช่วยคงประสิทธิภาพของบิวหิมะเอาไว้ เช่น ครีมบัวหิมะ เก็บรักษาโดยการแช่ตู้เย็น ซึ่งแต่ละยี่ห้อหรือแต่ละรูปแบบผลิตภัณฑ์ก็จะมีวิธีการเก็บรักษาที่แตกต่างกันออกไป
นอกจากนี้ผลลัพธ์ของการใช้บัวหิมะยังขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของผู้ป่วยแต่ละราย ทางที่ดีควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้จะดีกว่า ถ้ามีอาการผิดปกติใดๆ เกิดขึ้นก็ต้องหยุดใช้ หรือหยุดรับประทานทันทีเช่นกัน รวมทั้งหากใช้บัวหิมะเป็นระยะเวลานานๆ แล้วยังไม่เกิดผลลัพธ์ที่พึงพอใจ ควรหยุดใช้และกลับไปปรึกษาแพทย์เพื่อขอคำแนะนำและแนวทางการอก้ปัญหาที่ดีที่สุด
คลิปจาก จินตนาการความรู้
ส่วนลด Adidas, โปรโมชั่น Central, โค้ดส่วนลด Super Sports, คูปอง Garmin