กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 5 จับกุมคดีแก๊งคนเวียดนามลักทรัพย์ในงานเทศกาลลอยกระทง!!
ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี, พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เรื่องการควบคุมกำกับดูแลชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักอาศัยหรือเข้ามาเพื่อท่องเที่ยวในประเทศไทย โดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร. มอบหมายให้ สตม. ดำเนินการตรวจสอบชาวต่างชาติที่มีหมายจับตำรวจสากล หรือพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน หรือเป็นลักษณะการกระทำผิดเข้าข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ
สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดย พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม., พล.ต.ต.พรชัย ขันตี รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ภาณุวัฒน์ ร่วมรักษ์ ผบก.อก. สตม., พล.ต.ต.ชำนาญ ชำนาญเวช ผบก.ตม.5, พ.ต.อ.เอกกร บุษบาบดินทร์ รอง ผบก.ตม.5, และ พ.ต.อ. วิฑูรย์ เดโช ผกก.สส.บก.ตม.5 ร่วมแถลงข่าว ดังนี้
ด้วยห้วงวันที่ 9-12 พ.ย.62 เป็นห้วงจัดงานวันลอยกระทง หรืองานประเพณียี่เป็งจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวและร่วมงานเทศกาลดังกล่าวเป็นจำนวนมาก ขณะเดียวกันก็ได้มีแก๊งมิจฉาชีพแฝงเข้ามาปะปนก่อเหตุอาชญากรรม โดย เมื่อวันที่ 10 พ.ย.62 เวลา 18.00 น. นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น แจ้งว่าขณะที่ตนและครอบครัวเดินเที่ยวงานลอยกระทงอยู่บริเวณถนนมูลเมืองต่อเนื่องถนนประตูท่าแพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ อยู่นั้น ได้สำรวจพบว่ากระเป๋าสตางค์ซึ่งมีเงินสดและบัตรอิเล็กทรอนิกส์อยู่จำนวนหนึ่งหายไป จึงได้แจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่ ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่ ได้ประสานเจ้าหน้าที่สืบสวน กก.สส.บก.ตม.5 ร่วมกันสืบสวนติดตามคนร้าย โดยสืบสวนจากกล้องวงจรปิดพบบุคคลต้องสงสัยมีลักษณะคล้ายเป็นชาวต่างชาติสัญชาติเวียดนาม จึงได้สืบสวนและตรวจตามโรงแรมที่พักย่านใกล้เคียงที่เกิดเหตุ และโรงแรมที่พักย่านที่ปรากฏข้อมูลตามกล้องวงจรปิด จนกระทั่ง เมื่อวันที่ 11 พ.ย.62 เวลา 12.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสามารถจับกุมคนต่างด้าวสัญชาติเวียดนามที่ก่อเหตุได้ จำนวน 2 คน ดังนี้
1.. MR.DO DINH อายุ 32 ปี สัญชาติ เวียดนาม
2. MR.HA VAN อายุ 39 ปี สัญชาติ เวียดนาม
พร้อมของกลางทรัพย์สิน จำนวน 12 รายการ ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ดังกล่าว เคยถูกดำเนินคดีลักทรัพย์และถูกบันทึกรายชื่อเป็นบุคคลต้องห้ามเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร (Black list) แล้ว ซึ่งครั้งนี้จากการให้ปากคำทราบว่าทั้งสองรายได้ลักลอบเข้ามาในราชอาณาจักรทางช่องทางธรรมชาติ จึงถูกจับกุมดำเนินคดี โดยกล่าวหาว่า “เป็นคนต่างด้าวหลบหนีและเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันลักทรัพย์หรือรับของโจร และร่วมกันใช้บัตรหรือมีไว้ใช้ซึ่งบัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ” นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่ ดำเนินคดี
สตม.ขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการอาชญากรรมตาม พ.ร.บ.ตรวจคนเข้าเมือง พ.ศ.2522 และกฎหมายที่มีโทษทางอาญาเกี่ยวข้อง และให้บริการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน รวมทั้งดำเนินการตรวจสอบชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศชาติ หากประชาชนท่านใด พบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เลขที่ 507 ซ.สวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178 หรือที่ www.immigration.go.th จักขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่ง!!
ทีมงานประชาสัมพันธ์ ฝ่ายอำนวยการ5 :พ.ต.ต.หญิงพัชรี ศรีเผือก สว.ฝอ.5 บก.อก.สตม.:สายด่วน 1178!!