หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

17 เคล็ดลับที่นักการตลาดเผยเกี่ยวกับการเพิ่มยอดขายในร้านค้าปลีก ที่คุณจะซื้อโดยงงๆ

โพสท์โดย warrior B

นอกจากสินค้าและบริการที่ดีแล้ว การตลาดนั้นก็น่าสนใจไม่แพ้กัน และนี่คือบทความที่ให้ความรู้จากนักการตลาดที่ชื่อ Pavel ที่มีประสบการณ์ทำงานในแผนกการตลาดของบริษัทต่างๆ มาหลายปีเขามีเทคนิคดีๆหลากหลายอย่าง เพื่อให้ผู้คนซื้อสินค้ามากกว่าที่เขาต้องการ และในที่สุดเขาก็ต้องการเผยความลับที่นักการตลาดอย่างพวกเขาทำ

“ฉันจะเปิดเผยความลับสักสองสามข้อที่นักการตลาดมืออาชีพสอนให้ฉัน เพื่อให้คุณประหยัดเงินและซื้อของน้อยลง”

1. สาเหตุที่เรามักจะได้ของตัวอย่างฟรีจากร้านค้า

© Kontrolnaya zakupka / youtube

คุณมักจะเห็นหนุ่มสาวหน้าดียืนแจกสินค้าต่างๆฟรี เช่น ไส้กรอกแบบต่างๆ และสิ่งของอื่น ๆ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ไม่ได้ทำให้คุณรักสินค้าตัวใหม่ๆเหล่านี้

แต่ในความเป็นจริงผู้ที่ถูกเสนอให้ลิ้มลองอาหารได้ฟรี มีเหตุผลหลักๆอย่างเดียวคือทำให้คุณรู้สึกว่าถูกบังคับให้ซื้อ ยกตัวอย่างเช่น เมื่อได้รับของขวัญที่ไม่คาดคิดจากเพื่อนของคุณ คุณมักจะซื้อของขวัญให้แก่พวกเขา และนี่คือการใช้หลักการเดียวกัน

และทั้งหมดเป็นเพราะผู้บริโภครับรู้ใช้รู้สึกได้ดีกว่าเหตุผล

2. ความมหัศจรรย์ของตัวเลข

© Orlando Parque Notícias / Instagram

ผู้ค้าปลีกจะเขียนป้ายราคา“ 99 บาท” แทนที่จะเขียน“ 100 บาท” บนป้ายเพื่อรู้สึกว่ามันถูกกว่า นอกจากนี้การไม่ใช้ตัวเลขกลมๆ ทำให้เรามั่นใจมากขึ้น แต่มันเป็นความมหัศจรรย์ของตัวเลขที่สมองของเราชอบที่สุด อย่างเลข 9  อย่างไรก็ตามตัวเลข 7, 5 และ 4 ก็ใช้ได้ดีเช่นกัน

ตัวอย่างเช่น ในการเพิ่มการขายนั้นคุณอาจวางของที่ต้องการขายไว้ใกล้ๆกับสินค้าที่มีเลข (เลขที่ไม่น่าดึงดูด) เช่น 1, 2, 3, 6 หรือ 8 สมองของเราจะเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีป้ายราคาเป็นตัวเลข (เลขที่น่าสนใจ) คือ 4, 5, 7 และ 9 แม้ว่าจะมีราคาสูงกว่าสินค้าของคู่แข่ง

3. กระจกในซูเปอร์มาร์เก็ต

© Depositphotos © Depositphotos © Depositphotos

คุณเคยสังเกตไหมว่ามีพื้นผิวที่ขัดมันอยู่หลายที่ที่สามารถสะท้อนของตัวคุณในซูเปอร์มาร์เก็ต? ที่ทำให้คุณมีโอกาสชื่นชมตัวเอง ตัวอย่างเช่นกระจกบนชั้นวางของผักและผลไม้นั้น มันวางไว้เพื่ออะไรบางอย่าง จริงๆแล้วมันช่วยให้เราเห็นผลิตภัณฑ์ได้ดีขึ้นและเพื่อขยายพื้นที่ที่เรามองเห็นด้วยสายตา แต่กระจกมีจุดประสงค์ที่มากกว่านั้น

กระจกในร้านค้าทำให้เราเดินช้าลง เมื่อคุณหยุดดูเงาของคุณซึ่งมักเกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัว คุณมีแนวโน้มที่จะใส่ใจกับสินค้าที่ตั้งอยู่ใกล้กับกระจกและมีโอกาสสูงที่คุณจะต้องการซื้ออะไรแถวๆนั้น

4. คำพูดที่มีความหมายว่าเพิ่มขึ้นบนบรรจุภัณฑ์

© Depositphotos

หากแพคเกจสินค้า อย่างเช่นซอสมะเขือเทศหรือมายองเนสที่คุณชื่นชอบมีขนาดใหญ่ขึ้นและเขียนบอกว่า “เพิ่มขึ้น 20%” นั่นไม่ได้หมายความว่าปริมาณของผลิตภัณฑ์ภายในบรรจุภัณฑ์เพิ่มขึ้น บางครั้งอาจมีตัวอักษรขนาดเล็กๆกำกับอยู่ (หรืออยู่ในด้านหลังของบรรจุภัณฑ์) มีคำอธิบายเช่น “มีรสชาติดีขึ้นมากกว่าเดิม 20%” หรือ “มีความสุขเพิ่มขึ้น 20%”

นักการตลาดที่ใช้กลอุบายนี้ที่อาจดูสมเหตุสมผล (ทันทีที่เห็นครั้งแรก) และเพื่อเพิ่มราคาสินค้าขึ้นเล็กน้อย โดยไม่ต้องเพิ่มต้นทุนการผลิต นี่เป็นเพราะลูกค้าไม่ค่อยอ่านข้อมูลทั้งหมดในด้านหลังของผลิตภัณฑ์และไม่เคยดูย่อหน้าที่เขียนขึ้นเพื่ออธิบาย

5. สิ่งที่ไม่ชอบใจเป็นตัวกระตุ้นการซื้อที่ดีที่สุด

© Depositphotos

บ่อยครั้งที่บรรจุภัณฑ์ของผลิตภัณฑ์รวมถึงโฆษณาแสดงให้เราเห็นข้อความที่ระบุว่าผลิตภัณฑ์สามารถแก้ปัญหาใด ๆก็ได้ อย่างเช่น คุณมีแนวโน้มที่จะเลือกซื้อครีมที่บรรจุภัณฑ์เขียนว่าชะลอความแก่ มากกว่าครีมที่บอกแค่ว่าให้ความชุ่มชื้น

อย่างที่ฟังดูแปลกๆ สิ่งที่เรารู้สึกรำคาญทำให้เกิดความอยากซื้อมากกว่าสิ่งที่ทำให้เราพอใจ หมายความว่า ผลิตภัณฑ์ที่ระบุว่าสามารถต่อสู้กับปัญหาของเรา หรือช่วยเราหลีกเลี่ยงปัญหาเหล่านั้นจะเป็นที่ต้องการสูง และทั้งหมดนี้เป็นเพราะสมองของเราเลือกที่คำพูด (ไม่ใช่ส่วนประกอบ)

6. ผู้ขายและผู้ซื้อมีศัตรูตัวเดียวกัน

© ve_russia.food / instagram © kofeynya_astoria / instagram

เราจะเป็นเพื่อนกับใครสักคนได้ ถ้าเราชอบคนแบบเดียวกัน หรืออยู่กับพวกเขาได้ถ้าเราไม่ชอบคนคนเดียวกัน และความคิดเดียวกันนี้ก็สามารถนำไปใช้ในการขายได้ นักการตลาดพยายามหาศัตรูร่วมกันกับผู้บริโภคในสินค้าของตนเพื่อทำให้พวกเขาซื้อ

ตัวอย่างเช่น ผู้ผลิตหลายรายรู้ว่าคุณต้องการกินขนมมากแค่ไหนเมื่อคุณกำลังลดน้ำหนัก นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้พวกเขาผลิตอาหารหรือขนมที่มีแคลอรี่ต่ำที่ยังคงมีน้ำตาลจำนวนมาก เพราะในกรณีนี้แคลอรี่ที่สูงเป็นศัตรูตัวเดียวกันกับคุณและนักการตลาดและเป็นเรื่องง่ายที่จะต่อสู้พวกมัน มีสินค้าที่แคลอรี่ต่ำอย่างที่คุณต้องการ

7. คำที่ชวนเชิญ

© Depositphotos

มีคำมากมายที่นักการตลาดใช้เพื่อทำให้คุณต้องการซื้อผลิตภัณฑ์ คุณมักจะเห็นป้ายราคาสีแดงขนาดใหญ่ในซูเปอร์มาร์เก็ตที่เขียนว่า “ราคาเพียง 99 บาท”

คำพูดที่เชิญชวน พร้อมกับป้ายลดราคา มันทำให้สมองของเราคิดว่าระหว่างผลิตภัณฑ์ที่เขียนว่าราคา “99บาท” กับอีกอันเขียนว่าราคา “เพียง 99 บาท” อันหลังจะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจกว่า

8. ไม่ได้หมายความว่าถูกกว่า

© _serdyukov7 / instagram

โปรดจำไว้เสมอว่าไม่มีอะไรได้มา “ฟรี” เมื่อมีสินค้าที่บอกว่าแถมฟรี แสดงว่าของมันรวมราคาไว้อยู่แล้ว ซึ่งหมายความว่าบางครั้ง หมากฝรั่ง 5 อันในแพ็ค (ซื้อ 4 แถม 1 ฟรี) ไม่ได้ทำให้คุณจ่ายน้อยลงกว่าการซื้อหมากฝรั่ง 5 อัน

บ่อยครั้งที่มีโปรโมชั่นสำหรับสินค้าเดียวกันตั้งอยู่ในส่วนต่างๆ ของร้านเพื่อให้ลูกค้าไม่สามารถเปรียบเทียบได้มากนัก

9. สินค้าที่ทำให้เราเพลิดเพลินเครื่องมือสำหรับการขาย

©

Ishan Silva / instagram © tasty_tania / instagram

นักการตลาดไม่เพียงแต่สร้างวลีให้กับแบรนด์และทำโฆษณาที่โด่งดังเท่านั้น แต่พวกเขายังมีส่วนร่วมในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ตัวอย่างเช่นพวกเขารู้ว่าความกรอบของผลิตภัณฑ์จะทำให้คุณหยุดกินไม่หยุดหลังจากกินไปแล้วครึ่งแพ็ค ในขณะที่อาหารที่มีเนื้อสัมผัสแบบครีม สร้างภาพลวงตาว่ามีแคลอรี่ต่ำเพราะมันละลายในปากของคุณ และสมองของเรารับรู้ว่ามันเป็นอาหารว่าง คุณจะไม่ทันรู้ตัวด้วยซ้ำว่ากินอะไรมากไปเท่าไรแล้ว

10. น้ำลายไหลมีผลต่อการรับรู้รสชาติของผลิตภัณฑ์

© Depositphotos © Depositphoto

เช่นเดียวกับช็อคโกแลตและซอสต่างๆ เนยจะเพิ่มการหลั่งน้ำลายและช่วยให้คุณจินตนาการถึงรสชาติของสินค้าได้ดียิ่งขึ้น นั่นคือเหตุผลที่สินค้าที่มีส่วนประกอบดังกล่าวมักดูน่าสนใจและดูน่าอร่อยสำหรับเราแม้ว่าเราจะมองจากแพคเกจเท่านั้น

11. สีของกล้วยที่ทำให้เราอยากซื้อ

© Depositphotos

ผู้ขายกล้วยรู้ว่าผลิตภัณฑ์นี้สีจะทำให้คุณรู้สึกว่ามันสดและต้องการซื้อ ซึ่งสีของกล้วยที่ดู “สด” มีสีเหมือน “ดอกดาวเรือง”ที่มีผู้คนชื่นชอบ

12. การฉีดน้ำทำให้คุณเห็นผลิตภัณฑ์สดใหม่

© Depositphotos © Depositphotos

เพื่อให้ผักและผลิตภัณฑ์ดูสดใหม่บนชั้นวาง ในเดนมาร์กจึงมีติดตั้งเครื่องพ่นน้ำอัตโนมัติขนาดเล็กในแผง หยดน้ำเล็กๆ ที่ดูเหมือนน้ำค้างและสมองของเราจะรับรู้ว่าสิ่งนี้เป็นสัญลักษณ์ของความสดใหม่ของผักและผลไม้ ร้านค้าหลายแห่งในปัจจุบันใช้การฉีดน้ำด้วยมือเพื่อจุดประสงค์เดียวกันนี้

13. คุณมีแนวโน้มที่จะจ่ายเงินสำหรับบรรจุภัณฑ์มากกว่าสำหรับผลิตภัณฑ์

© svyatoy.istochnik / instagram © svyatoy.istochnik / instagram

ในปัจจุบันมีสินค้ามากมายไม่เพียงแต่จะแข่งขันกันด้วยปริมาณและองค์ประกอบของสินค้าแล้ว แต่การออกแบบบรรจุภัณฑ์ก็สำคัญด้วย เช่น ในการจัดขวดน้ำธรรมดาๆไว้กับขวดมีรูปร่างที่ไม่เหมือนใครและสดใสเพื่อให้คุณและลูกๆ ของคุณให้ความสนใจและรู้สึกอยากซื้อมัน

การเปลี่ยนแปลงบรรจุภัณฑ์มักจะนำไปสู่การเพิ่มขึ้นของต้นทุนของผลิตภัณฑ์อย่างไรก็ตามองค์ประกอบและคุณภาพยังคงเหมือนเดิม ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดผู้คนก็พร้อมที่จะจ่ายเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเพราะออกแบบใหม่ๆ

14. การวางสินค้าในที่พิเศษ

© alena831103 / instagram

งบประมาณการโฆษณาของผู้ผลิตส่วนใหญ่จะรวมถึงสถานที่จัดวางผลิตภัณฑ์ในร้านค้า เพื่อให้คุณสังเกตเห็นสินค้าได้อย่างง่ายดายและต้องการซื้อมันอย่างเช่น ยอดขายของผลิตภัณฑ์ที่อยู่บนชั้นวางแบบพิเศษจะสูงกว่ายอดขายของผลิตภัณฑ์เดียวกันที่อยู่บนชั้นวางปกติ 20%

ในบางครั้งผู้ค้าขายก็ไม่ได้วางของไว้เพื่อให้แผงดูไม่โทรม เคล็ดลับนี้อาจทำลายความต้องการของผู้ซื้อที่มีศักยภาพ

15. ผลิตภัณฑ์หัวรถจักร

© Depositphotos

เมื่อคุณมาที่ร้านค้าสินค้ายอดนิยมมักจะอยู่ที่ริมชั้นวางของ นักการตลาดเรียกมันว่า ผลิตภัณฑ์หัวรถจักร เพื่อดึงดูดความสนใจของคุณจากสินค้าใกล้เคียง ตัวอย่างเช่น มันเกิดขึ้นเมื่อคุณหาแชมพูที่คุณชื่นชอบและค่อยๆมองมันต่อไปเรื่อยๆ

โดยปกติเมื่อไม่มีผลิตภัณฑ์หัวรถจักร (สินค้ายอดนิยม)เหลืออยู่บนชั้นวาง สินค้าที่ตั้งอยู่ข้างๆ อาจจะใช้เวลาในการขายหลายสัปดาห์ นั่นเป็นเหตุผลที่คนงานในซูเปอร์มาร์เก็ตดูรอบคอบว่ามีที่ว่างบนชั้นวางหรือไม่ พวกเขายังคงเคลื่อนย้ายผลิตภัณฑ์และวางไว้ในลำดับที่ถูกต้องเพื่อให้คุณหลงทางกับตัวเลือกมากมายและอยู่ในร้านนานขึ้น

16. กลุ่มที่ถูกจับคู่

© Depositphotos © Depositphotos

เมื่อวางสินค้าในร้านค้าพวกเขาจะใช้หลักการจับคู่อย่างเช่น ชาและกาแฟอยู่ด้วยกันกับขนมหวาน และไส้กรอกอยู่กับซอสมะเขือเทศ มันหมายถึงการทำให้คุณซื้อสินค้าเพิ่มอีกหลายรายการ แม้ว่าคุณจะมาร้านค้าเพื่อซื้อสินค้าอย่างเดียว เช่นยาสีฟัน แต่คุณจะจำได้ว่ามันถึงเวลาที่คุณต้องเปลี่ยนแปรงสีฟันเก่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื่องจากมี “ส่วนลดที่น่าสนใจในวันนี้!”

17. ลูกพี่ใหญ่กำลังเฝ้าดูคุณ

© Depositphotos © videonabludenie_barnaul22 / instagram

บางที่มีกล้องไว้ไม่ใช่เพื่อดูการโจรกรรม ต้นทุนของผลิตภัณฑ์ในร้านค้านั้นรวมราคาพิเศษไว้ในกรณีที่พวกมันถูกขโมย แตกหัก หรือกินทันที อยู่แล้ว อันที่จริงแล้วกล้องมีความจำเป็นเพื่อให้เจ้าของผลิตภัณฑ์สามารถสังเกตเห็นพฤติกรรมของลูกค้า

มีแม้กระทั่งอุปกรณ์พิเศษที่ตรวจสอบอุณหภูมิของร่างกายและจับอารมณ์ความรู้สึกของผู้คน เมื่อพวกเขากำลังดูผลิตภัณฑ์บางอย่าง ข้อมูลนี้จะถูกรวบรวมและวิเคราะห์เพื่อทำความเข้าใจว่า อะไรมีผลต่อการตัดสินใจในการซื้อของของลูกค้าหรือไม่ซื้อผลิตภัณฑ์บางอย่าง นอกจากนี้ยังช่วยในการค้นหาจุดซื้อขายที่ดีที่สุดในร้านอีกด้วย

ขอบคุณเนื้อหา และสามารถติดตามเพิ่มเติมได้ที่: https://www.btwinmylife.com/2019/11/18/marketer-retail/
ขอบคุณเรื่องราวดีๆจาก brightside
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
warrior B's profile


โพสท์โดย: warrior B
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
20 VOTES (5/5 จาก 4 คน)
VOTED: ไอ้ตัวซวย, zerotype, นมเล็กหลบไปนมใหย่คุม, โดนแมวตบ
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
คู่รักแต่งงาน 10 ปี พร้อมลูกสามคน ผลตรวจ DNA ทำภรรยาช็อกถึงขั้นจะอ้วก!‘กันต์ กันตถาวร’ เคลื่อนไหวแล้ว ชาวเน็ตแห่ถล่มไลก์ หลังเห็นโพสต์นี้
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
‘กันต์ กันตถาวร’ เคลื่อนไหวแล้ว ชาวเน็ตแห่ถล่มไลก์ หลังเห็นโพสต์นี้เอาแล้วๆ เอาแล้ว ผู้เสียหายรวมตัวกันแล้ว ใครเสียหายจากบริษัทดาราดัง ต้องเข้ามาที่นี่ไม่เอา'เวทนามาร์เก็ตติ้ง'!'อี้ แทนคุณ'จี้สอบมูลนิธิช้าง'แสงเดือน'แบบนี้ก็ได้ ! พี่หนุ่ม กรรชัย ถูกขู่ผ่านข้อความขณะอ่านข่าว
กระทู้อื่นๆในบอร์ด Review, HowTo, ท่องเที่ยว
ความงดงามของภูเขาไกรลาส สวรรค์บนโลกมนุษย์ที่สัมผัสได้จริง"เปดรา ดา กาเวีย" ภูเขาหินมหึมาแห่งริโอเดอจาเนโร จุดชมวิวและเซลฟี่วัดใจคนกล้าอานน์ซี (Annecy) เมืองน่ารักๆ ในฝรั่งเศสงานอาร์ตสุดหลอน "บอลลูนยักษ์รูปหัวมนุษย์" ลอยกลางกรุงโตเกียว
ตั้งกระทู้ใหม่