ฮ่องกงระส่ำหนัก! เมื่อมหาวิทยาลัยกลายเป็นสนามรบ...ตำรวจเจอยิงธนูปักน่อง
— เมื่อวันอาทิตย์ ........กลุ่มผู้ก่อจลาจลเผาทำลายรถตำรวจฮ่องกงด้วยระเบิดน้ำมัน รวมถึงทำร้ายตำรวจ 2 นายด้วย “ลูกธนู” และ “ลูกบอลเหล็ก” บริเวณนอกมหาวิทยาลัยโพลีเทคนิคฮ่องกง (PolyU) ย่านเกาลูน
รถหุ้มเกราะของตำรวจประจำเขตบริหารพิเศษฮ่องกง (HKSAR) ของจีนถูกขว้างปาระเบิดน้ำมันใส่จนเกิดไฟลุกไหม้กระโปรงหน้ารถ ซึ่งเป็นฝีมือของกลุ่มผู้ก่อจลาจลที่ปิดกั้นการจราจรสู่อุโมงค์ข้ามอ่าวห่งฮัม (Hung Hom) อันเป็นเส้นทางสัญจรหลักสู่เกาะฮ่องกง
นอกจากนั้นตำรวจยังถูกยิงลูกธนูเข้าที่น่องขาซ้ายระหว่างปฏิบัติหน้าที่อยู่ใกล้โบสถ์เกาลูน โรซารีย์ (Kowloon Rosary Church) ขณะที่ตำรวจปราบปรามการจลาจลอีกนายถูกขว้างปาลูกบอลเหล็กเข้าที่กระบังหมวก ทำให้เกิดการบาดเจ็บบริเวณหน้าผากเหนือจมูก
ตำรวจกล่าวว่าสื่อมวลชนกลุ่มใหญ่กำลังรายงานข่าวอยู่ในบริเวณเดียวกันกับที่ตำรวจถูกยิงลูกธนูเข้าใส่ด้วย ดังนั้นการโจมตีจากกลุ่มผู้ก่อจลาจล “สร้างภัยคุกคามร้ายแรงต่อความปลอดภัยของทุกชีวิต ณ พื้นที่ดังกล่าว”
กลุ่มผู้ก่อจลาจลยังคงเดินหน้าก่อเหตุความรุนแรง เพื่อยึดครองถนนหลายสายนอกมหาวิทยาลัยฯ ในวันอาทิตย์ และทำการโจมตีตำรวจหลายครั้งด้วยอาวุธร้ายแรงที่อาจถึงแก่ชีวิต อาทิ ก้อนอิฐ ระเบิดน้ำมัน คันธนู ลูกธนู และลูกบอลเหล็ก
ตำรวจระบุว่าหลังจากกลุ่มผู้ก่อจลาจลเข้าควบคุมพื้นที่บล็อกเอ (Block A) ของมหาวิทยาลัยฯ แล้ว พวกเขาเริ่มขว้างปาวัตถุแข็งและระเบิดน้ำมันด้วยเครื่องยิงขนาดใหญ่ที่ประดิษฐ์ขึ้นเองใส่ตำรวจระหว่างเวลา 17.00-18.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น
รูปภาพและคลิปวิดีโอจำนวนมากเผยให้เห็นถนนสายต่างๆ ใกล้มหาวิทยาลัยฯ แปรสภาพจนเหมือนสนามรบ กองเพลิงผุดพรายบนท้องถนนและสะพานลอยที่เชื่อมมหาวิทยาลัยฯ กับสถานีรถไฟใต้ดินห่งฮัม ทั้งยังมีเสียงระเบิดดังขึ้นหลายครา
การโจมตีด้วยเครื่องยิงขนาดใหญ่เหล่านั้น ซึ่งมีพิสัยการยิงไกลสูงสุด 40 เมตร ก่อให้เกิดภัยคุกคามต่อความปลอดภัยของตำรวจ นักข่าว และเจ้าหน้าที่พยาบาล ที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในพื้นที่ดังกล่าวอย่างร้ายแรง
ตำรวจเตือนว่าเหตุความรุนแรงในมหาวิทยาลัยฯ ได้ยกระดับสู่การจลาจลและชี้ว่ามีการกักเก็บอาวุธอันตรายอย่างเชื้อเพลิงติดไฟจำนวนมากไว้ภายในมหาวิทยาลัยฯ ซึ่งสร้างภยันตรายต่อความปลอดภัยของสาธารณะ
ฉะนั้นตำรวจจึงขอประณามพฤติกรรมความรุนแรงและเตือนผู้ก่อจลาจลหยุดการกระทำผิดกฎหมายทันที พร้อมแนะนำสาธารณชนหลีกเลี่ยงการเดินทางสู่มหาวิทยาลัยฯ และไม่ช่วยเหลือคนเหล่านั้น เพราะอาจเผชิญความผิดฐาน “มีส่วนร่วมในการจลาจล” ได้
ขณะเดียวกันตำรวจแจกแจงว่าอุปกรณ์กระจายคลื่นเสียงความถี่สูง (LRAD) เป็นระบบส่งสัญญาณเตือนกลุ่มผู้ก่อจลาจล มิใช่อาวุธกระจายคลื่นความถี่ต่ำที่สร้างอาการวิงเวียนศีรษะ, คลื่นไส้ หรือหลงทิศทาง เฉกเช่นข่าวลือ
แถลงการณ์อีกฉบับจากโฆษกประจำสำนักงานบริการนันทนาการและวัฒนธรรม (LCSD) กล่าวเรียกร้องประชาชนไม่ทำลายพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ฮ่องกง (Hong Kong Museum of History) ซึ่งตั้งอยู่ติดกับมหาวิทยาลัยฯ
ทั้งนี้ กลุ่มผู้ก่อจลาจลพยายามทำให้การจราจรเป็นอัมพาตทั่วทั้งเกาะฮ่องกงด้วยการวางสิ่งกีดขวาง ก่อกองไฟ และทำลายสิ่งอำนวยความสะดวกทางการคมนาคมขนส่งสาธารณะมานานเกือบสัปดาห์แล้ว