ซึ้งใจ!! เพื่อชีวิตที่ดีของลูก...แม่ผู้ยอม ‘ปล่อยมือ’ ลูกเพราะรักกับ 44 ปีแห่งการรอคอยของเธอ
เพจ Poetry of Bitch ได้โพสท์เรื่องราวชีวิตที่น่าสนใจของคุณแม่ท่านหนึ่ง โดยได้โพสท์ไว้ว่า
—————
⚫️ ตอนที่ 1
เด็พ: ความรักของแม่
:
1- ปี พ.ศ. 2511 "เหงียน ธิ เด็พ" (Nguyen Thi Dep) หญิงสาวชาวเวียดนาม ทำงานเป็นแม่บ้านในฐานทัพอเมริกันที่เมืองลองบินห์ ประเทศเวียดนาม ความที่พูดภาษาอังกฤษได้ดี ทำให้เธอได้เลื่อนตำแหน่งเป็นโอเปอเรเตอร์
2- ต่อมาเด็พ (เด็พ แปลว่าสวย) พบรักกับทหารอเมริกันหนุ่มชื่อว่า "โจ" หลังคบกันได้ 3 ปี เด็พก็ตั้งท้อง เป็นเวลาเดียวกับที่โจถูกเรียกตัวกลับสหรัฐฯ
3- เนื่องจากการสื่อสารที่ยากลำบากในขณะนั้น ประกอบกับอยู่ในสภาวะสงคราม (สงครามเวียดนาม) ทำให้ในที่สุดเด็พกับโจก็ขาดการติดต่อกันไป
4- ในปี 2515 เด็พคลอดลูกตามลำพัง เธอตั้งชื่อให้ลูกสาวว่า "เหงียน ธิ เฟือง ไม" (Nguyen Thi Phuong Mai) เธอเลี้ยงลูกด้วยความยากลำบากท่ามกลางสงคราม กระทั่งเฟืองไมอายุได้ 3 ขวบ
5- เมื่อสงครามเวียดนามสิ้นสุดลงในปี 2518 สหรัฐฯ ได้ตั้ง "ปฏิบัติการเบบี้ลิฟต์" (Operation Babylift) ขึ้น เพื่ออพยพเด็กลูกครึ่งอเมริกัน-เวียดนาม และเด็กกำพร้าประมาณ 3,000 คนไปอยู่ที่สหรัฐฯ เนื่องจากเกรงว่าเด็ก ๆ จะไม่ได้รับความปลอดภัย
6- เด็พถูกญาติ ๆ โน้มน้าวให้ส่งลูกไปกับปฏิบัติการนี้เพื่อให้ลูกได้มีชีวิตที่ดี ไม่ต้องอดมื้อกินมื้อ และได้มีการศึกษา เพราะแทบมองไม่เห็นอนาคตในเวียดนาม ณ เวลานั้น ทุกคนเชื่อว่าเมื่อส่งตัวเฟืองไมไปแล้ว สักวันก็จะได้กลับมาเจอกันอีก
7- เป็นการตัดสินใจที่ช่างยากลำบาก เธอจะไม่ได้เจอลูกนานหลายปี แต่ลูกจะปลอดภัยและมีชีวิตที่ดี ในที่สุดเด็พก็ตัดสินใจส่งเฟืองไมไปกับปฏิบัติการเบบี้ลิฟต์
8- ก่อนถูกส่งตัวไปสหรัฐฯ เด็ก ๆ ในโครงการจะถูกนำมาอยู่รวมกันที่เนิร์สเซอรี่แห่งหนึ่งในเวียดนาม เด็พไปหาเฟืองไมที่นั่นและพาลูกออกมาเดินเล่น ใช้เวลาวันสุดท้ายด้วยกันอย่างมีความสุข
9- เมื่อเด็พพาเฟืองไมไปส่งที่เนิร์สเซอรี่ เด็กหญิงถามแม่ด้วยความไร้เดียงสาว่า "ทำไมแม่พาหนูกลับมาที่นี่ ทำไมไม่พาหนูไปบ้านกับแม่"
10- เด็พกลั้นร้องไห้ต่อหน้าลูก แต่ข้างในนั้นแตกสลาย เธอโกหกลูกว่าไปห้องน้ำ ได้ยินเสียงลูกกรีดร้องว่า "แม่จ๋า ๆ อย่าทิ้งหนูไป" เสียงของลูกบาดลึกเข้าไปในหัวใจ
11- เด็พไม่เคยลืมช่วงเวลาที่ปวดร้าวนั้น และจำได้เสมอว่า ครั้งสุดท้ายที่เธอได้เห็นหน้าลูก คือวันที่ 26 เมษายน 2518 เวลา 15.30 น. ตอนนั้นเฟืองไมอายุ 3 ขวบ และตัวเธอเองอายุ 26 ปี
12- หลังส่งตัวลูกสาวไปแล้ว เด็พรู้สึกว่าเธอตัดสินใจผิดครั้งใหญ่หลวง เพราะเธอไม่สามารถติดต่อลูกได้อีกเลย ไม่รู้แม้กระทั่งว่าลูกไปอยู่เมืองไหน อยู่กับใคร หรือยังมีชีวิตอยู่หรือไม่
13- เด็พเขียนจดหมายไปหาโจที่บ้านให้ช่วยตามหาลูก แต่จดหมายถูกตีกลับเพราะโจย้ายบ้านไปแล้ว
14- เด็พไม่ยอมแต่งงานใหม่หลังจากนั้น เธอรอด้วยความหวังว่าสักวันเฟืองไมอาจกลับมาเวียดนาม และหากมีอะไรที่เป็นความหวังแม้เพียงริบหรี่ว่าจะทำให้เธอได้เจอกับลูก เธอจะทำทันที
15- ปี 2562 เด็พอายุ 70 ปี แล้ว แต่ไม่เคยเลิกตามหาลูก เธอหวังเพียงว่า ก่อนตายจะได้เห็นหน้าลูกสักครั้ง ขอเพียงแค่ได้รู้ว่าลูกอยู่สุขสบายดี และแม่ไม่ได้ตัดสินใจผิดในวันนั้น เท่านี้เธอก็ตายตาหลับแล้ว
อ่านต่อตอนที่ 2-3 ได้ที่....
https://www.facebook.com/poetryofwanwanat/posts/1392713600931869