เมื่อแม่เขียนจดหมายฉบับสุดท้ายถึงลูกทั้ง 4 คน
ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Pasuri Tanehira ได้โพสต์รูปภาพ พร้อมข้อความจากจดหมายจากแม่ถึงลูกๆทั้ง 4 ของเขา โดยเรื่องราวดังกล่าวนั้นถูกแชร์ออกไปเป็นจำนวนมาก จดหมายดังกล่าวมีเนื้อหาดังนี้
หากชาติหน้ามีจริงขอเราอย่าได้เจอกันอีกเลยนะลูก สงสารจัง จากท่าน สมพงษ์ นริทร์สุขสันติ นักธุรกิจ อสังหาริมทรัพย์จ.สมุทรปราการ ส่งมาค่ะ เป็นจดหมายจากแม่ถึงลูกทั้งสี่ก่อนจากโลกนี้ไป ” หากชาติหน้ามีจริง ขออย่าให้พวกเราต้องมาเจอกันอีกเลยนะลูกๆทั้งสี่คนของแม่”
เมื่อวันที่ 2 มีนาคมที่ผ่านมา แม่มีอายุครบ 80 ปีระยะเวลาที่ผ่านมา แม่ให้กำเนิดลูกชายถึง 4 คน แล้วยังช่วยพวกลูกๆดูแลเลี้ยงหลานอีก 8 คน ก็เท่ากับว่าในชั่วชีวิตนี้ของแม่ แม่ได้ใช้สองมือของแม่เลี้ยงดูอุ้มชูลูกๆหลานๆทุกคนด้วยความรักถึง 12 คน
แต่ทว่า ตอนนี้ แม่แก่แล้ว แก่จนต้องคอยมองดูสีหน้าของพวกแกเพื่อความอยู่รอดของตัวแม่เอง โดยเฉพาะเมื่อสี่ห้าปีก่อน ตอนที่พ่อของพวกแกเสียไปแล้ว แม่รู้สึกได้ทันทีถึงความรำคาญที่พวกแกปฏิบัติตนต่อแม่ และนับวันยิ่งย่ำแย่เข้าไปทุกที ตอนที่พ่อของพวกแกจากไปใหม่ๆ แม่หวังเหลือเกินว่าจะมีลูกคนไหนสักคนที่จะยื่นมือมารับแม่ไปอยู่ที่บ้าน บอกตรงๆว่าแม่อยากใช้ชีวิตอยู่กับพวกแก จะคนไหนก็ได้แม่ยินดีทั้งนั้น แต่รอแล้วรอเล่า สองเดือนผ่านไป แม่จำต้องทำใจยอมรับสภาพของความเป็นจริง
ไม่มีลูกคนไหนยอมรับแม่ไปอยู่ด้วย เลย โชคยังดีที่พวกแกยังพอมีน้ำใจเหลืออยู่บ้างที่ในเวลานั้นพวกแกทั้งสี่ผลัดเวรมาเป็นเพื่อนแม่ที่บ้านทุกคืน แบ่งกันคนละสัปดาห์ แม่ก็ไม่กลัวอะไรอีกแล้วในตอนกลางคืน แต่คิดดูแล้วแม่ก็มีอายุอยู่มาถึงป่านนี้จะต้องไปกลัวอะไรอีก. แต่สิ่งที่แม่กลัวที่สุดคือความเหงา
ลูกๆของแม่ทุกๆคน พวกแกมาอยู่เป็นเพื่อนแม่ รวมเวลาทั้งสิ้นเป็นเวลา 1 ปี กับ 9 เดือน หรือประมาณ 630 วัน ในฐานะของคนเป็นแม่ รู้สึกขอบคุณในน้ำใจของพวกแกที่มอบให้ในครั้งนั้น. ช่วงแรกๆที่มาอยู่เป็นเพื่อนแม่ ทุกอย่างดูดีมีความเอื้ออาทรให้แม่อยู่บ้าง แต่พอวันเวลาค่อยๆผ่านไป สีหน้าของพวกแกก็แลดูย่ำแย่ลงทุกวัน พอเหยียบเข้ามาถึงบ้านแม่ ไม่มีคำทักทายสักคำ เวลาออกจากบ้าน คำอำลาสักคำก็ไม่มีเช่นกัน แม่เหมือนสิ่งไม่มีชีวิตชิ้นหนึ่งที่ถูกวางอยู่กลางบ้าน บางครั้งก็รู้สึกเหมือนกับว่าพวกแกกำลังเดินเข้าออกโรงแรม แล้วมียายแก่แปลกหน้าที่นั่งมองหน้าพวกแกที่เดินผ่านไปมา เหมือนเราไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ไม่มีความผูกพันกันเลยแม้แต่น้อย
แม่กลัวที่จะทำให้พวกแกรำคาญหรือรังเกียจ แม่ไม่ได้กินข้าวฟรีของพวกแกแม้แต่คำเดียว เสื้อผ้าข้าวของแม่ก็ซื้อเองทุกอย่าง แม้กระทั่งสตางค์แดงเดียวก็ไม่เคยใช้ของพวกแก เพียงแค่พวกแกยอมแวะมาอยู่เป็นเพื่อนแม่บ้าง แค่นั้นแม่ก็รู้สึกเป็นบุญคุณเหลือหลายแล้ว
ถึงแม้แม่จะพยายามวางตัวอย่างระมัดระวังที่สุด ไม่เคยไปยุ่งเกี่ยวชีวิตส่วนตัวของพวกแกเลย แต่พวกแกทุกคนก็ค่อยๆห่างหายจากบ้านแม่ไปทีละคนแบบไม่ต้องมีคำร่ำลา ไม่มีใครแวะมาเยี่ยมเยียนแม่อีก แต่ยัดเยียดเอาความเหงามามอบให้แม่แบบไม่มีความปราณีกันเลย
ชีวิตหลังจากนั้นเป็นต้นมา
แม่รู้ตัวว่าแม่ต้องเดินด้วยเท้าตัวเองทุกฝีก้าว ต้องพึ่งพาตัวเองทุกอย่างด้วยสองมือของแม่เอง มันยากลำบากสำหรับคนแก่อย่างแม่พอสมควร ชีวิตที่เต็มไปด้วยความหงอยเหงาและเศร้าหมองนั้น จะมีอายุยืนยาวไปทำไม ช่วงเวลานี้ แม่รู้สึกแน่นหน้าอกมากขึ้นทุกวัน แม่ไม่ได้บอกใคร แท้จริงแล้วก็ไม่รู้จะหันหน้าไปบอกใคร. แม่หวังเป็นอย่างยิ่งว่า โรคภัยไข้เจ็บจะกรุณารีบนำพาแม่จากโลกนี้ไปในเร็ววัน ถ้าเป็นเช่นนั้นได้ แม่ก็รู้สึกว่าชะตาชีวิตยังคงมีความปราณีต่อแม่บ้าง หลายคืนก่อน แม่ฝันถึงพ่อของพวกแก พ่อยิ้ม บอกกับแม่ว่า “ไปกันเถอะ พ่อมารับแล้ว ไปกับพ่อแล้วแม่จะไม่หงอยเหงาอีกต่อไป”
ตื่นมากลางดึก มองไปบนท้องฟ้าเห็นมีแต่ดาวเต็มฟ้าพระจันทร์ส่องแสงนวลสบายตา ในคืนที่บรรยากาศสงบเงียบเช่นนี้ แม่ฝันถึงพ่อของพวกแก พ่อที่กำลังจะมารับแม่ไป แม่ขอขอบคุณความรักอันแสนอบอุ่นที่พ่อได้มอบให้กับแม่มาทั้งชีวิต มันคือสิ่งที่มีค่าที่สุดสิ่งเดียวในชีวิตนี้ของแม่
แม่รู้ตัวว่ามันคงถึงเวลาแล้ว จึงได้ตัดสินใจเขียนจดหมายฉบับนี้ทิ้งไว้ ความสัมพันธ์ของความเป็นแม่ลูกระหว่างเรามันก็คงใกล้จะจบเต็มแก่แล้ว แม่มีผมขาวอยู่เต็มหัว แม่ขอใช้ผมขาวทุกเส้นบนหัวสาบานว่า แม่รู้สึกขอบคุณและซาบซึ้งถึงการแวะเวียนมาอยู่เป็นเพื่อนแม่ของลูก นอกจากประโยคนี้แล้ว ยังมีคำพูดที่แม่อยากจะบอกกล่าวก่อนตายว่า “แม่เสียใจที่สุดที่ให้กำเนิดพวกแกมาทั้งสี่คน หากชาติหน้ามีจริง ขออย่าให้พวกเราต้องมาเจอกันอีกเลย”
ในฐานะของคนเป็นแม่ แม่คงไม่ใจร้ายพอที่จะสาปแช่งพวกแก แต่แม่กลับหวังว่า ในยามแก่เฒ่าของพวกแกทั้งสี่คน ขอให้ทุกคนจงพบแต่ความสงบสุขในยามชรา คงไม่ถูกลูกๆของพวกแกทั้ง 8 คนทอดทิ้งความผูกพันระหว่างเราก็คงจบลงเพียงเท่านี้ อะไรที่ตั้งใจจะกล่าวก็ได้ถ่ายทอดด้วยความอาดูรออกมาจากใจจนหมดแล้ว ขอให้ทุกอย่างจบสิ้นลงแค่ชาตินี้ชาติเดียว คิดว่ามันก็เกินพอแล้ว จากแม่ หลังจากนั้นไม่นาน คุณแม่ท่านนี้ก็ได้จากโลกนี้ไปจริงๆ บนเตียงตัวเองอย่างสงบ ในมือถือรูปถ่ายที่เคยถ่ายไว้คู่กับสามีเพียงแค่สองคนเท่านั้น
กราบขอบพระคุณท่านสมพงษ่ นรินทร่สุขสันติค่ะ