เปิดแหล่งท่องเที่ยวใหม่ชมป่าหินงามอายุกว่า ๑๗๐ ล้านปี
ศรีสะเกษ เปิดแหล่งท่องเที่ยวใหม่ชมป่าหินงามอายุกว่า ๑๗๐ ล้านปีที่วัดไพรพัฒนา เป็นหินทรายแดงหินทรายเหลืองและหินทรายขาวเหมือนกับหินที่ภูกระดึง มีรอยหลุมตะปุ่มตะป่ำที่เกิดจากน้ำทะเลกัดเซาะร่วม 200 ล้านปีตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาด้าน จ.ศรีสะเกษ
เมื่อวันที่ 10 พ.ย. 62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดไพรพัฒนา ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ พระครูโกศลสิกขกิจ หรือหลวงพ่อพุฒ วายาโม ประธานมูลนิธิหลวงปู่สรวง เจ้าคณะอำเภอภูสิงห์ (ธ.) และเจ้าอาวาสวัดไพรพัฒนา ได้นำสื่อมวลชนทุกแขนง ไปเยี่ยมชมป่าหินงาม ซึ่งจัดสร้างขึ้นอยู่ภายในบริเวณด้านข้างศาลาทม วัดไพรพัฒนา โดยภายในบริเวณป่าหินงาม มีการเอานำหินที่แต่ละก้อนมีอายุมากกว่า 170,000,000 ปี มาจัดตกแต่งเป็นสวนหินและมีการจัดสร้างน้ำพุรวมทั้งตกแต่งรอบบริเวณป่าหินงามอย่างสวยงามตระการตา มีพุทธศาสนิกชนที่พากันมากราบไหว้สรีระสังขารของหลวงปู่สรวงที่แม้ว่าจะละสังขารไปนานกว่า 19 ปีแต่ว่าไม่เน่าเปื่อย ได้นำเอาบุตรหลานมาเที่ยวชมป่าหินงามกันอย่างมีความสุข พร้อมทั้งให้บุตรหลานได้ชมและศึกษาธรรมชาติของก้อนหินที่เก่าแก่มากมายภายในสวนหินแห่งนี้ โดยมีการเขียนตัวหนังสือภาษาไทยและตัวหนังสือภาษากัมพูชา เพื่อให้นักท่องเที่ยวทั้ง 2 ชาติไทย – กัมพูชาได้รับทราบด้วยว่า บริเวณนี้ชื่อว่าอย่างไร และมีความเป็นมาอย่างไรด้วย
พระครูโกศลสิกขกิจ หรือหลวงพ่อพุฒ วายาโม ประธานมูลนิธิหลวงปู่สรวง เจ้าคณะอำเภอภูสิงห์ (ธ.) และเจ้าอาวาสวัดไพรพัฒนา เปิดเผยว่า มูลนิธิหลวงปู่สรวง ได้ทำการปรับตกแต่งภูมิทัศน์บริเวณภายในวัดให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวป่าหินงาม โดยบรรดาศิษยานุศิษย์ได้พากันนำเอาหินที่มีอายุกว่าร้อยล้านปี ที่มีอยู่ทั่วไปตามแนวชายแดนไทย – กัมพูชา ซึ่งกรมทรัพยากรธรณีวิทยาได้สำรวจพบว่าหินในจังหวัดศรีสะเกษมีอยู่หลายประเภท เช่น หินภูเขาไฟ หินหลักขัว และหินพระวิหาร หมวดหินพระวิหารจะพบมากที่บริเวณผามออีแดง อ.กันทรลักษ์ อ.ขุนหาญ ที่ช่องสะงำ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ประเทศไทย และที่ อ.อัลลองเวง จ.อุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา เป็นหินบนยอดเขาสูงพนมดงรักทอดยาวจากผามออีแดงถึงช่องสะงำ
พระครูโกศลสิกขกิจ กล่าวต่อไปว่า หินดังกล่าวจะเป็นหินทรายแดง หินทรายเหลืองและหินทรายขาวเหมือนกันกับหินที่ภูกระดึง จ.เลย โดยจะมีรอยหลุมตะปุ่มตะป่ำ ที่เกิดจากการโดนน้ำทะเลกัดเซาะ มีอายุมากกว่า ๑๗๐,๐๐๐,๐๐๐ ปี เนื่องจากมีหลักฐานว่า บริเวณนี้เมื่อหลายร้อยล้านปีที่ผ่านมาเดิมเคยเป็นทะเลมาก่อน โดยได้เอาหินจำนวนหนึ่งนำมาตกแต่งเป็นสวนหย่อมให้สวยงาม แบบเสาหินเฉลียง เพื่อให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวป่าหินงามเชิงศาสนาที่วัดไพรพัฒนา ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ทั้งนี้เพื่อให้บรรดาศิษยานุศิษย์ของหลวงปู่สรวง ที่ไปปฏิบัติธรรมที่วัดไพรพัฒนา และประชาชนทั่วไป ที่เดินทางมาเยือนจังหวัดศรีสะเกษ ได้มาเที่ยวชมความสวยงามของป่าหินงาม รวมทั้งเพื่อต้องการให้ป่าหินงามตรงนี้ เป็นแหล่งทัศนศึกษาของเด็กและเยาวชนคนรุ่นใหม่ ได้มาศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับความเป็นมาของหินประเภทต่าง ๆ อีกด้วย จึงขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนชาวไทยและชาวกัมพูชา ศิษยานุศิษย์ของหลวงปู่สรวง ได้มากราบไหว้ขอพรจากสรีระสังขารที่ไม่เน่าเปื่อยของหลวงปู่สรวงและมาเที่ยวชมป่าหินงามอายุกว่า 170 ล้านปีที่วัดไพรพัฒนา ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งอยู่ติดกับแนวชายแดนไทย – กัมพูชา ด้านจุดผ่านแดนถาวรช่องสะงำ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ โดยเปิดให้ชมได้ทุกวันไม่มีวันหยุดแต่อย่างใด
ศิริเกษ หมายสุข / ศรีสะเกษ