เพจ Poetry of Bitch สรุปดราม่า หนิง ปณิตา vs ตร.จราจร

สรุปดราม่า
หนิง ปณิตา vs ตร.จราจร

—————
ตอนที่ 1
หนิง ปณิตา
:
1- “หนิง ปณิตา” ได้โพสต์ในอินสตาแกรมส่วนตัวว่า เช้าวันที่ 21 ต.ค. 62 เธอได้ขับรถตัวเองเพื่อเอาไปเข้าฉากละคร

2- แต่ด้วยความไม่รู้ทาง เธอจึงขับผิดเลนแล้วหักออก เลยเจอตำรวจเรียก ซึ่งหนิงก็ยอมรับว่าตนทำผิดและยินดีชำระค่าปรับ จึงบอกตำรวจไปว่า “เขียนใบสั่งได้เลยค่ะ”

3- แต่ตำรวจคนนี้กลับเดินวนไปมา ไม่เขียนใบสั่งเสียที แล้วยังถามคำถามเธออีกหลายอย่าง รวมทั้งถามว่ารถยี่ห้ออะไร ทั้งที่ท้ายรถก็มียี่ห้อติดอยู่

4- หนิงบอกว่า เธอดูออกว่าตำรวจคนนี้จะเอาเงิน เพราะคนส่วนใหญ่ก็คงจะบอกตำรวจว่า “ขอช่วยหน่อยน้า”

5- แต่เธอไม่ต้องการทำแบบนั้น จึงบอกตำรวจไปว่า “ขอโทษนะคะที่ทำให้เสียเวลา เขียนใบสั่งมาเถอะค่ะ ทำผิดก็ต้องปฏิบัติตามกฎ”

6- หนิงทิ้งท้ายว่า ถ้าตำรวจยกโทษให้เธอเพื่อรับเงิน ก็คงมีคนทำผิดแบบนี้ไปเรื่อย ๆ สังคมก็จะแย่ลง ตำรวจดี ๆ ก็มีเยอะ แต่คนเกลียดตำรวจเพราะ “ปลาเน่าตัวเดียวเหม็นทั้งข้อง”

—————
ตอนที่ 2
ตำรวจจราจร
:
1- ต่อมา “ศูนย์ควบคุมและสั่งการจราจร” ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงและชี้แจงว่า ตำรวจจราจรท่านนั้นคือ ส.ต.ท.ธีรพงษ์ ขาบจันทึก เหตุเกิดที่ ถ.วิภาวดีฯ เส้นเบี่ยงจากทางคู่ขนานที่จะมุ่งหน้าไปรัชโยธิน

2- เวลา 07.14 น. หนิง ปณิตา ขับรถยนต์ยี่ห้อ “มาเซราติ” สีเทา มาและเปลี่ยนช่องทางกะทันหัน โดยฝ่าฝืนเส้นทึบบนทาง ส.ต.ท.ธีรพงษ์จึงเรียกให้หยุด

3- จากนั้นตำรวจขอดูใบขับขี่ แต่หนิงบอกว่าไม่ได้พกมา และได้ยื่นบัตรประชาชนให้ดูแทน ตำรวจจึงแจ้งข้อหาความผิดให้ทราบ

4- จากนั้นตำรวจได้เดินตรวจสอบรอบตัวรถ แต่ไม่ทราบว่ารถยี่ห้ออะไร จึงถามหนิง หนิงก็ตอบ แต่ตำรวจสะกดไม่ถูกจึงเดินไปดูข้อมูลที่แผ่นป้ายวงกลม

5- พอไปดูป้ายวงกลม ตำรวจพบว่ารถของหนิงยังไม่ได้ชำระภาษีประจำปี จึงแจ้งข้อหา “นำรถยนต์ที่ยังไม่ได้ชำระภาษีมาใช้” เพิ่มอีกหนึ่งข้อหา

6- เมื่อเขียนเสร็จตำรวจก็ส่งใบสั่งให้หนิง หนิงก็ขับออกไป โดยตำรวจไม่ได้เรียกรับเงินหรือผลประโยชน์ใด ๆ จากหนิง

7- ต่อมา ส.ต.ท.ธีรพงษ์ได้ทำบันทึกข้อมูลลงในระบบ PTM แต่ระบบแจ้งว่ารถของหนิงเป็นรถยี่ห้อ BMW รุ่น 740Le xDrive pure excellence สีเทา

8- ตำรวจจึงไปตรวจสอบข้อมูลกับระบบ polis อีกครั้ง ข้อมูลยืนยันตรงกันว่าเป็นทะเบียนรถ BMW ไม่ใช่มาเซราติ จึงน่าเชื่อว่า หนิงนำรถที่ยังไม่ได้จดทะเบียนมาใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต

—————
ข้อมูลเพิ่มเติม
:
สำหรับ ส.ต.ท.ธีรพงษ์ ขาบจันทึก เคยเป็นข่าวตามสื่อต่าง ๆ เมื่อปี 2560 เพราะลงโทษนักเรียนที่ไม่สวมหมวกกันน็อคให้ออกกำลังกายแทนการเสียค่าปรับ เนื่องจากไม่อยากให้ผู้ปกครองเดือดร้อน

โดย ส.ต.ท.ธีรพงษ์ บอกว่าได้ผลดีกว่าออกใบสั่ง เพราะไม่เคยเจอเด็กทำผิดซ้ำสอง และตนเชื่อว่า “ใบสั่งในมือสู้ใบสั่งในใจไม่ได้”