ในอดีตการบูชายัญเป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก มีผู้คนมากมายที่ถูกฆ่าอย่างโหดเหี้ยม เพียงเพื่อตอบสนองต่อความเชื่อ และนี่คือตัวอย่างของความโหดร้ายที่เหยื่อเหล่านั้นต้องเผชิญ

1.สับเป็นชิ้นๆ - ชาวจีน

หนึ่งในราชวงศ์ที่รุ่งเรืองที่สุดอย่างราชวงศ์ซางนั้นมีอายุยาวนานกว่า 500 ปี และเป็นช่วงสมัยแรก ที่ถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์จีนโบราณ ทั้งยังเป็นแหล่งรวมวิธีการบูชายัญอันแสนโหดร้าย ที่ส่วนใหญ่จะเน้นไปที่การฉีกร่างกายออกเป็นชิ้นๆ

เหยื่อมนุษย์ที่ถูกบูชายัญในสมัยราชวงศ์ซางนั้นจะถูกสับเป็นชิ้นๆ, หั่นครึ่ง, ตัดหัว หรือโดนสับจนตาย  การบูชายัญในโอกาสต่างๆนั้นจะใช้เหยื่อที่แตกต่างกันไปมีทั้งเด็กหนุ่ม, เด็กหรือทารก หรือหญิงสาว มีวิธีบูชายัญมนุษย์อันโหดร้ายอีกอย่างน้อย 7 วิธีที่ถูกใช้ในราชวงศ์ซาง และบางครั้งก็มีนักโทษสงคราม และอาชญากรบางคนที่ถูกนำมาบูชายัญเช่นกัน

2.จับห้อยหัวแล้วทุบตีจนตาย - ชาวฮาวาย 

ชาวตาฮิติผู้บุกยึดฮาวายจะฝึกฝนวิธีการบูชายัญอันแสนโหดร้ายในหลายรูปแบบ เหยื่อส่วนใหญ่ มักจะเป็นลูกหลานของชาวพอลินีเซียซึ่งเป็นผู้ตั้งรกรากในฮาวายเป็นอันดับแรก ผู้ถูกบูชายัญ มักจะเป็นนักรบสงคราม หรือเป็นสมาชิกชนเผ่าที่ทำผิดกฏหมายหรือละเมิดข้อห้าม

การบูชายัญนั้นจะมีตั้งแต่การรัดคอ ทำลายกระดูก และควักลำไส้ เพื่อเป็นการบูชา Ka (เทพเจ้าแห่งสงคราม) และ Lono (เทพแห่งการเกษตรกรรม) เหยื่อส่วนใหญ่จะถูกแขวนห้อยหัวแล้วทุบตีจนตาย

3.ฝังทั้งเป็น - ชาวอียิปต์โบราณ

ในยุคทองของอียิปต์โบราณ ฟาโรห์จะถูกฝังไปพร้อมกับรูปจำลองของบริวาร (คนรับใช้และผู้ติดตามคนอื่น ๆ) แต่ฟาโรห์ในยุคแรกๆ จะถูกฝังพร้อมกับบริวารที่มีชีวิตเพื่อเป็นการบูชายัญอย่างหนึ่ง บริวาร 3 คน (บางครั้งก็เป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูง) จะถูกฝังทั้งเป็น เพราะเชื่อว่าฟาโรห์นั้นมีความสำคัญมาก จนต้องการคนแวดล้อมแม้ในชีวิตหลังความตาย

เมื่อยุคสมัยแรกจบลง เหล่าบริวารได้โน้มน้าวให้ฟาโรห์เชื่อว่าพวกเขาจะรับใช้ได้ดีกว่าหากยังมีชีวิตอยู่ และสานต่อปณิธานของฟาโรห์ที่สร้างไว้บนโลก

4.การเผาทารก - ชาวอิสราเอลโบราณ

มีหลักฐานทางโบราณคดีที่ระบุว่าชาวอิสราเอลโบราณจะมีพิธีการเผาเด็กทารก ซึ่งเป็นการบูชายัญที่ทำขึ้น ด้วยผู้ที่บูชาเทพโมรอส เทพเจ้ากระทิงที่เป็นสัญลักษณ์ของพลังอันน่าพิศวงของธรรมชาติ ส่วนใหญ่แล้ว การการบูชายัญเด็กนี้เป็นประเพณีของชาวคานาอันเท่านั้น  ชาวอิสราเอลผู้นมัสการพระเยโฮวาห์ ไม่ได้เข้าร่วมในการบูชายัญนี้แต่อย่างใด

5.เด็กที่ถูกเลี้ยงเพื่อใช้บูชายัญ - ชาวอินคา 

ชาวอินคานั้นนิยมการบูชายัญด้วยเด็ก พวกเขาเชื่อว่าเด็กที่มีสุขภาพดีนั้นเป็นของขวัญที่ดีที่สุด ที่พระเจ้าควรจะได้รับ เด็กๆ จึงถูกบูชายัญเพื่อเป้าหมายในการเพิ่มความมั่งคั่ง เฉพาะเด็กที่สุขภาพดี, แข็งแรง และน่าดึงดูดเท่านั้นที่เหมาะสมสำหรับบูชายัญ การบูชายัญมีทั้งการรัดคอ, ระเบิดศรีษะ หรือการฝังทั้งเป็น เด็กบางคนถูกเลี้ยงอย่างโดดเดี่ยวเพื่อใช้บูชายัญและจะถูกดูแลอย่างดี เพื่อรักษาความสมบูรณ์และคุณค่าของการบูชายัญ

6.แทงที่หัว - ชาวเมโสโปเตเมีย เช่นเดียวกับฟาโรห์ของชาวอียิปต์โบราณ ราชวงศ์ของเมโสโปเตเมียโบราณจะถูกฝังไปพร้อมกับข้าวของ ทั้งหมดของพวกเขา รวมทั้งสมาชิกบางคนของราชวงษ์เช่นทหาร สาวใช้ และคนรับใช้ ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า เหยื่อที่ถูกบูชายัญในสมัยเมโสโปเตเมียจะถูกวางยาก่อนถูกฝัง แต่การค้นพบในเร็วๆ นี้กลับบ่งชี้ว่า การบูชายัญนั้นรุนแรงกว่านั้น เนื่องจากโครงกระดูกที่พบบ่งบอกว่าเหยื่อจะถูกแทงที่หัวก่อนจะถูกฝัง

7.กรีดเปิดช่องท้อง - ชาวแอซแท็ก

การบูชายัญนั้นแพร่หลายในวัฒนธรรมของชาวแอซแท็ก มีคนหลายพันคนที่ถูกยูชายัญอย่างโหดร้าย ด้วยน้ำมือของชาวแฮซแท็ก วิธีการบูชายัญนั้นโหดร้ายมาก บางครั้งเหยื่อจะถูกกระชากหัวใจ ออกมาแล้วบูชาแก่เทพเจ้าแห่งพระอาทิตย์ และวิธีอื่นๆ เช่นการกรีดเปิดช่องท้อง หลังจากเหยื่อ ถูกผลักลงมาจากยอดวิหาร การบูชาเทพเจ้าแห่งฝน"ทลาลอค" จะทำในทุกวันปีใหม่ตามปฏิทินของ ชาวแอซแท็ก โดยใช้เด็กที่กำลังร้องไห้ เพราะเชื่อว่าน้ำตาจะนำฝนมานั่นเอง

8.รัดคอแม่ม่าย - ชาวฟีจี

ชาวฟีจีโบราณ เป็นชนเผ่าพื้นเมืองที่มีนิสัยชอบรัดคอแม่ม่ายอย่างโหดร้ายหลังจากสามีของพวกเธอตาย พิธีกรรมทางศาสนานี้เกิดขึ้นเพราะชาวฟีจีเชื่อว่าผู้หญิงควรตามไปอยู่ร่วมกับสามีแม้จะตายไปแล้ว หลังจาก หัวหน้าเผ่าตาย ภรรยาจำนวนมากมายของเขาก็ถูกรัดคอตายตามไปด้วย แม่ม่ายเหล่านี้จะถูกเรียกกว่า thotho หรือ"พรมของหลุมฝังศพ" และมักจะถูกรัดคอหรืออย่างน้อยก็ยืนดูโดยพี่ชาย/น้องชายของเธอเอง

9.การสังหารหมู่ทาสและนักโทษสงคราม - ชาวดาโฮเมย์ 

การเฉลิมฉลองของชาวดาโฮเมย์นั้นมักจะใช้การบูชายัญทาสและนักโทษสงครามด้วยการตัดหัว เพื่อบูชาเทพแห่งชีวิตและความตาย ซึ่งเหยื่อที่ถูกตัดหัวนั้นมีจำนวนเกือบ 7,000 คนเลยทีเดียว

10.โยนลงหลุม - ชาวมายัน 

ความเคร่งศาสนาของชาวมายันเป็นที่รู้จักดีจากพิธีกรรมอันซับซ้อน หนึ่งในพิธีกรรมนั้นรวมถึงการบูชายัญ อันโหดร้าย เช่นการโยนเหยื่อลงหลุมซึ่งมีน้ำอยู่ข้างล่าง ชาวมายันเชื่อว่าหลุมขนาดใหญ่นี้เป็นหนทางไปสู่ ดินแดนแห่งจิตวิญญาณ ดังนั้นคนส่วนใหญ่จึงถูกผลักลงไปเพื่อเป็นการเสียสละเพื่อพระเจ้า มีบางคนบอกว่าการบูชายัญนั้นเป็นการทำโดยสมัครใจ แต่ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่เห็นตรงกันว่า เหยื่อถูกบังคับอย่างรุนแรงให้ร่วมพิธีกรรม

Cr.ranker