ล่องแพอาถรรพ์
ถ้าพูดถึงจังหวัดกาญจนบุรี กิจกรรมที่นักท่องเที่ยวนิยมเป็นอันดับต้นๆ คือการล่องแพซึ่งเป็นการ พักบนแพหลังใหญ่แล้วมีเรือลากไปตามน้ำบางแพก็มีดนตรีให้บันเทิงกัน บางแพก็ไม่มีแล้วแต่นักท่องเที่ยว ว่าจะชอบแบบไหนซึ่งโดยมากแพที่เมืองกาญจน์มักจะลากไปผูกไว้กลางน้ำให้นักท่องเที่ยวนอนค้างคืน แล้วค่อยลากเข้าฝั่งในตอนเช้า และบ่อยครั้งที่เรามักได้ยินคนที่เคยไปล่องแพจะเจอกับเรื่องแปลกๆ หลอนๆ
บอส ได้เคยชวนกลุ่มเพื่อนสมัยเรียนมหาวิทยาลัยไปเที่ยวกันทริปนั้นไปกันทั้งหมดสิบห้าคนจึงเลือกใช้บริการบ้านแพหลังใหญ่ซึ่งแบ่งเป็นสองส่วนคือส่วนซ้ายมือเป็นลานโล่งให้นั่งเล่นสังสรรค์รวมทั้งโดดเล่นน้ำได้และส่วนที่สองซึ่งเชื่อมติดกันเป็นบ้านแพที่ใช้นอนและมีครัวเล็กๆอยู่ตรงกลางระหว่างบ้านแพทั้งสองหลัง ช่วงที่แพลากออกไปส่วนใหญ่จะอยู่ที่บ้านแพซ้ายมือที่เป็นลานโล่งบ้างเล่นไพ่บ้างดีดกีตาร์ร้องเพลงกันรวมถึงมีการดื่มเหล้าด้วย สำหรับคนที่ทำอาหารเป็นก็ไปช่วยกันเตรียมอาหารที่จุดทำครัว ตอนนั้นเป็นเวลาเกือบห้าโมงเย็นขณะที่บอสกระโดดน้ำเล่นกับเพื่อนอีกสองสามคนก็ เขาก็ได้พบกับเรื่องประหลาดจังหวะที่กระโดดน้ำลงไปก็รู้สึกว่าขาไปถูกกับหัวของใครสักคนด้วยความตกใจจึงดีดตัวขึ้นมาแล้วมองซ้ายมองขวาก็ไม่เจอใครเพราะคนที่เล่นน้ำด้วยกันยังนั่งอยู่บนแพและแช่ขาในน้ำ เท่านั้น บอสรีบถามคนที่นั่งบนแพว่ามีใครลงไปดำน้ำเล่นหรือเปล่าเพราะเมื่อกี้เหมือนกระโดดไปโดนหัวใครก็ไม่รู้ บอสรีบขึ้นจากน้ำและเดินไปนั่งกินเหล้าในใจก็ยังคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้น
สำหรับเพื่อนๆ ที่นั่งหย่อนขาลงน้ำก็คิดว่าบอสอำเล่นเลยไม่ได้คิดอะไรจนกระทั่งแสงอาทิตย์ลับฟ้าทุกคนร่วมกันทานอาหาร และนั่งดื่มกันต่อตอนนั้นเป็นเวลาประมาณสองทุ่มเพื่อนในกลุ่มคนหนึ่งได้ไปยืนฉี่ที่ท้ายแพตะโกนเรียกคนบนแพให้รีบไปดูเพราะเห็นเงาดำเหมือนคนยืนอยู่ที่ริมฝั่งพอทุกคนไปดูก็ไม่พบอะไรต่างก็บอกว่าเมาจนตาฝาดแต่คนที่ตะโกนเรียกนั้นยืนยันว่าเห็นจริงๆ พอทุกคนกลับมานั่งกินต่อ บอสจึงเดินไปฉี่ที่ท้ายแพบ้าง คราวนี้เจอเองเต็มๆเพราะในขณะที่ยืนฉี่อยู่ก็ต้องตกใจเพราะมีเงาดำสูงใหญ่ปรากฎอยู่ที่ข้างต้นไม้ความสูงของเงาดำนั้นพอๆกับความสูงของต้นมะพร้าวลักษณะที่เห็นไม่ใช่คนแน่ๆ
บอสตกใจรีบวิ่งกลับมาหาเพื่อนๆ ด้วยหน้าตาตื่นพอบอสเล่าให้ทุกคนฟังต่างก็ตกใจแต่ยังไม่ทันได้พูดอะไรกันก็ได้ยินเสียงคนตกน้ำดังตู้มพร้อมกับเสียงของเพื่อนผู้หญิงตะโกนบอกว่าออยตกน้ำ ซึ่งออยเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวที่ไม่ดื่มเหล้าแน่นอนว่าไม่ได้เมาแล้ว โดดน้ำเล่นแน่ พวกผู้ชายสามสี่คนวิ่งไปแล้วกระโดดลงไปตรงจุดที่เพื่อนชี้ แต่ตอนกลางคืนแบบนั้น กระแสน้ำแรงมาก จึงพยายามเอาไฟฉายส่องและมองหาออยกระแสน้ำที่พัดเข้าแพแต่แปลกมากเพราะเพื่อนๆที่ยืนลุ้นบนแพกลับเจอร่างของออยไปโผล่กลางน้ำในสภาพนอนคว่ำหน้าจึงรีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่บอสและเพื่อนผู้ชายที่ยังอยู่บนแพรีบคว้าห่วงยางแล้วกระโดดลงไปช่วย พอดึงร่างของออยขึ้นมาบนแพได้ก็ทำการผายปอดจนกระทั่งออยได้สติ
จังหวะนั้นเจ้าหน้าที่ก็มาถึงพอดีจึงได้นำออยส่งโรงพยาบาล จนออย ปลอดภัยดีแล้วได้เล่าให้เพื่อนๆ ฟังว่าตอนนั้นออยกำลังจะก้มตัวล้างมือข้างแพแต่เหมือนมีมือโผล่มาจากน้ำ แล้วกระชากร่างของออยลงไปอย่างเร็ว มารู้ตัวอีกทีก็อยู่บนแพแล้ว พอเพื่อนๆได้ยินแบบนั้นก็พากันกลัวไม่กล้ากลับไปที่แพจึงรออยู่ที่โรงพยาบาลจนกระทั่งเช้าก็กลับไปเก็บของและเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ บอสเชื่อว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นไม่ใช่เรื่องปกติแน่อาจเป็นผีหรือสิ่งลี้ลับที่จ้องจะเอาชีวิตของคนที่มาเยือนหรืออาจเป็นอาถรรพ์ตัวตายตัวแทนที่จ้องจะเอาชีวิตของใครสักคนไปแทนที่ก็เป็นได้เพราะเหตุการณ์คนไปล่องแพแล้วจมน้ำเสียชีวิตก็มีให้ได้ยินบ่อยๆ ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ครั้งนั้นบอสก็เข็ดกับการไปนอนแพไปเลย
สำหรับใครที่กำลังจะไปเที่ยวและมีแผนจะลงไปนอนบนแพต้องระวังให้มากๆ เพราะหากตกน้ำตกท่าในตอนกลางคืนก็ไม่รู้ว่าจะโชคดีรอดตายเหมือนออยหรือเปล่ามีพี่เจ้าหน้าที่คนหนึ่งแนะนำว่าถ้าจะให้ดีเมื่อไปถึงเมืองกาญจน์ควรไปไหว้พระและขอพรที่ศาลหลักเมืองก่อนเพื่อจะได้คุ้มครองให้ปลอดภัยตลอดการท่องเที่ยวยังไงก็เชื่อไว้บ้างก็ดีจะได้สบายใจจะได้ไม่ต้องเสียใจในภายหลัง