ประชาชนเดือดร้อนที่ไหนจะมีทหารเรืออยู่ที่นั่น
"ประชาชนเดือดร้อนที่ไหนจะมีทหารเรืออยู่ที่นั่น"
จากกรณี พลเรือโทบรรจบ โพธิ์แดง ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 /ผอ.ศรชล.ภาค 1 (อ่าน สอน-ชน) ได้รับแจ้งจาก นายธนกร ถาวรชินโชติ อายุ 45 ปี เจ้าของเรือประมงชื่อลูกสมุทร 22 เรือประมงลากคู่ ขนาด 59.65 ตันกร้อส ยาว 20 เมตร กว้าง 3.20 เมตร ว่าเรือประมงลูกสมุทร 22 ได้ถูกคลื่นลมจากพายุโซนร้อนวิภาถา โถมเข้าใส่จนเรือจมลงบริเวณ แบริ่ง 214 ระยะ 15.5 ไมล์ จากกระโจมไฟแหลมปู่เจ้า อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี จึงสั่งการให้เรือ ต. 270 ออกเรือค้นหาและช่วยเหลือร่วมกับเรือประมงในพื้นที่ จนสามารถช่วยเหลือไต๋เรือและลูกเรือประมง 3 คน (ไทย 1 กัมพูชา 2) ได้อย่างปลอดภัย เหตุเกิดเมื่อ เวลา 21.00 น. ของวันที่ 3 ส.ค.62 ต่อมาเมื่อวันที่ 13 ส.ค.62 ทัพเรือภาคที่ 1 ได้ส่งเรือหลวงแรด พร้อมเจ้าหน้าที่ผูกมัดและลากเรือ ลูกสมุทร 22 มายังพื้นที่ในการกู้เรือ ณ ท่าเรือจุกเสม็ด การท่าเรือสัตหีบ ฐานทัพเรือสัตหีบ ตามที่ได้รับการร้องขอ
และในวันนี้ 15 ส.ค.62 พลเรือโทชุมศักดิ์ นาควิจิตร ผู้บัญชาการฐานทัพเรือสัตหีบ มอบหมายให้ พลเรือตรีสุทิน หลายเจริญ ผอ.การท่าเรือสัตหีบ ฐานทัพเรือสัตหีบ สนับสนุนพื้นที่ในการกู้เรือประมง พร้อมจัดรถเครนขนาดใหญ่ เข้ากู้เรือประมงลูกสมุทร 22 ที่จมอยู่ในน้ำจนเป็นผลสำเร็จ ยังความทราบซึ้งใจให้กับเจ้าของเรือเป็นอย่างยิ่ง
นาวาเอกนพพล นากสวาท ผอ.กองกิจการพลเรือน ทัพเรือภาคที่ 1 ที่ได้รับมอบหมายให้มากำกับดูแลการกู้เรือประมงในวันนี้ได้กล่าวว่า การดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายและแผนงานของผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 ที่ได้รับมอบหมายจาก พลเรือเอกลือชัย รุดดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารเรือ ที่ได้สั่งการไว้ว่า"ประชาชนเดือดร้อนหรือมีภัยที่ไหน ทหารเรือจะต้องเข้าไปให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนและทันท่วงที" ให้สมกับเป็น "กองทัพเรือที่ประชาชนเชื่อมั่นและภาคภูมิใจ"
นายธนกร ถาวรชินโชติ เจ้าของเรือประมงลูกสมุทร 22 กล่าวว่า ต้องขอขอบคุณกองทัพเรืออย่างสุดซึ้ง ที่เข้ามาให้ความช่วยเหลืออย่างรวดเร็วและทันท่วงที จนสามารถช่วยชีวิตไต๋และลูกเรือ รวม 3 คน ได้อย่างปลอดภัย รวมถึงการอำนวยความสะดวกในด้านต่างๆ จนสามารถกู้เรือเป็นผลสำเร็จในครั้งนี้ สมแล้วที่เป็นพี่ใหญ่ทางทะเลและเป็นที่พึ่งของของพี่น้องชาวประมงอย่างแท้จริง
ส่วนสาเหตุของเรือประมงจมในครั้งนี้ มาจากผลพวงของคลื่นลมจากพายุ "วิภา" ที่พัดกระหน่ำจนเรือไม่สามารถต้านอยู่จนน้ำเข้าเรือ และเครื่องสูบน้ำไม่สามารถทำงานสูบน้ำออกจากเรือได้ จนทำให้เรือจมลงในที่สุด ซึ่งนับว่ายังโชคดีที่ไม่มีคนในเรือได้รับอันตรายแต่อย่างใด ต้องขอขอบคุณกองทัพเรือด้วยความจริงใจ ที่ให้การช่วยเหลือในครั้งนี้
: ภาพ/ข่าว กองกิจการพลเรือน ทัพเรือภาคที่ 1