ศึกษาความเชื่อหลังความตายของอียิปต์ จากจิตรกรรมฝาผนัง
ในคอลัมน์ที่แล้ว เจ้าของโพสต์พาไปดูความยิ่งใหญ่และลักษณะภายในที่แท้จริงของ "พีระมิด" กันแล้ว (https://board.postjung.com/1159276) ต่างกับที่คิดไว้เยอะเลยใช่ไหมคะ ในคอลัมน์วันนี้ต่อจากครั้งที่แล้ว จะขยายความต่อเรื่องความเชื่อหลังความตายของอียิปต์โบราณ โดยเรียนรู้ผ่านจิตรกรรมภาพวาดฝาผนัง
ในปัจจุบันนี้ หากเราจะสื่อสารกันหรือบันทึกประวัติศาสตร์ เขียนเล่าเรื่องราว คงใช้"ตัวอักษร" กัน แต่หากย้อนไปยุคโบราณที่ยังไม่มีการใช้ตัวอักษร ผู้คนยุคนั้นที่อยากบันทึกหรือบอกเล่าเรื่องราวคงอาศัย "รูปภาพหรือภาพวาด" ตามสถานที่ต่าง ๆ เช่น ตามผนังถ้ำ สลักบนหินต่าง ๆ ซึ่งรูปภาพเหล่านั้นก็เป็นวิวัฒนาการขั้นต้นของตัวอักษร ตัวอักษรแบบแรกของโลก คือ "อักษรคูนิฟอร์ม" ก็เป็นอักษรรูปภาพเช่นกัน
ทีนี้มาเข้าเรื่องกันเกี่ยวกับความเชื่อของชาวอียิปต์ผ่านรูปภาพกันบ้าง อียิปต์โบราณมีความเชื่อในเทพเจ้าหลายองค์ การกระทำทุกอย่างเกิดจากเทพเจ้าบันดาลทั้งสิ้น นับถือผู้ปกครองเป็นตัวแทนของเทพเจ้า เทพเจ้าสูงสุดหรือสุริยเทพคือ "เร" แปลว่า ดวงอาทิตย์ ดังนั้น
"จึงมีความเชื่อว่าผู้ที่ตายจากไปแล้วจะกลับมาเกิดใหม่ เหมือนดวงอาทิตย์ที่ตกลับขอบฟ้าไปแล้วจะกลับขึ้นมาใหม่"
การวาดภาพบอกเล่าเรื่องราวก็เป็นเพียงภาพที่เกิดจากจินตนาการของอียิปต์ยุคโบราณ ภาพของจริงอาจเลือนรางไปตามกาลเวลากว่าหลายพันปี แต่มีภาพบางส่วนที่พอจะหาได้มาให้ชมกันค่ะ (สามารถเรียนรู้ได้อย่างละเอียดที่พิพิธภัณฑ์ลักซอร์ ประเทศอียิปต์)
เทพเจ้าเร เป็นเทพเจ้าสูงสุด เทพเจ้าแห่งความอมตะ มีดวงอาทิตย์บนหัว ใบหน้าเป็นเหยี่ยว (ขวา)
เทพเจ้าอามุนเร มีขนนกบนหัว ใบหน้าเป็นมนุษย์
เทพโอซิริส มีหนวด มีเครา ถือแส้และหัวตะขอ พิพากษาว่าใครจะได้ขึ้นสวรรค์หรือไม่
เทพเจ้าไอซิส มเหสีของโอซิริส ผู้ปกป้องกษัตริย์และโอรส
เทพเจ้าฮาเทอร์ ธิดาเทพเร เป็นเทพแห่งความรัก เทพแห่งศิลปะและดนตรี มีความเป็นแม่
เทพเจ้าฮอรัส บุตรของโอซิริส ศีรษะเป็นเหยี่ยว เทพแห่งท้องฟ้า
เทพอานูบิส เทพแห่งความตาย ศีรษะเป็นสุนัข ต้อนรับผู้ตาย ช่วยนำทางวิญญาณของคนตายเดินทางไปยังแดนมรณะ และปกป้องร่างกายไม่ให้เน่าเปื่อย
สัญลักษณ์อังก์ (ที่ถือในมือ) เป็นสัญลักษณ์แห่งความตาย
จากรูป ชาวอียิปต์เชื่อว่าเมื่อตายแล้ว วิญญาณออกจากร่างมัมมี่ เทพอานูบิส ซึ่งเป็นเทพแห่งความตาย มีศีรษะเป็นสุนัข จะต้อนรับวิญญาณ มีหน้าที่ดูแลศพไม่ให้เน่าเปื่อย จากนั้นเทพีไอซิสมารับวิญญาณ และพานั่งเรือพาไปแดนมรณะซึ่งมีเทพเจ้าโอซิริส เทพเจ้าแห่งแดนมรณะ เป็นผู้ตัดสินว่าใครจะได้ไปสู่สรวงสวรรค์ มีตุลาการซึ่งเป็นผู้ช่วยอีก 42 คน วิญญาณจะต้องให้การตามความสัตย์จริง
จากนั้นเทพอานูบิส นำหัวใจไปชั่งกับตาชั่งแห่งความสัตย์ที่ด้านหนึ่งเป็นขนนก (ตามรูปข้างบน) หากหัวใจเบากว่าขนนกถือว่าคนคนนั้นเป็นคนดี วิญญาณนั้นก็จะกลายเป็นวิญญาณแห่งเทพโอซิริสและจะได้ไปเกิดใหม่เป็นนิรันดร์ แต่หากหัวใจหนักกว่าขนนกหรือเป็นคนชั่ว ก็จะไปเกิดใหม่เป็นสัตว์สกปรก
จากรูปข้างบน บนโลกมนุษย์นั้น เมื่อศพถูกทำเป็นมัมมี่แล้ว จะมีการเคลื่อนย้ายศพคืนญาติ กลุ่มสาว ๆ ขวามือคือนางร้องไห้ มีหน้าที่รับจ้างร้องไห้ตามงานศพ และมีการแบกหามสิ่งของเครื่องใช้ต่าง ๆ ที่ใช้ในพิธีด้วย ก่อนจะนำศพไปบรรจุลงโลงขนาดเท่าตัวและนำไปใส่โลงที่ทำจากหินแกรนิตอีกชั้นที่มีการสลักอักษรเฮียโรกลิฟฟิกไว้
วันนี้ก็เป็นการบอกเล่าเรื่องราวจากรูปภาพที่วาดไว้เมื่อหลายพันปีก่อน จริงๆในไทยรูปภาพเรื่องราวๆต่างๆในอดีตก็บอกเล่าเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ได้เป็นอย่างดี อยู่ที่ว่าจะหยิบยกเรื่องไหนเอามาพูดคุยกัน ^^ ถ้าใครตามอ่านปรัมปรากรีก หรือดูภาพยนตร์หลายๆ เรื่องจะเห็นว่าพิธีกรรมความเชื่อเกี่ยวกับความตายจะมีความคล้ายกัน เช่น มีเทพเจ้าแห่งความตาย หรือ เทพฮาเดส มีหมาสามหัว "เซอร์เบอรัส" คอยเฝ้าประตูทางเข้า เป็นต้น ความเชื่อเหล่านี้ก็มีความคาบเกี่ยวและมีลักษณะที่คล้ายคลึงกันอยู่ทีเดียว