ชาวเน็ตแนะ!! หลังไทยมีหนี้ครัวเรือนสูงลำดับต้น ๆ ของโลก ระเบิดเวลาของเศรษฐกิจไทยแล้ว
น่าตกใจเมื่อ คนไทยจำนวนมากยัง “ติดกับดักหนี้” ปัจจุบันประเทศไทยมีระดับหนี้ครัวเรือนสูงเป็นลำดับต้น ๆ ของโลกเมื่อเทียบกับประเทศที่มีระดับการพัฒนาใกล้เคียงกัน โดยประเทศไทยมีหนี้ครัวเรือนต่อ GDP อยู่ที่ร้อยละ 78.7 ซึ่งส่วนหนึ่งอาจเป็นผลมาจากการที่ภาคธุรกิจพยายามกระตุ้นให้ลูกค้าซื้อของฟุ่มเฟือยหรือก่อหนี้จนเกินความจำเป็น เหมือนในกรณีของสินเชื่อเงินทอนที่ผมได้กล่าวไว้ข้างต้น
ด้านชาวพพันทิป พูดเรื่องนี้ว่า หนี้ครัวเรือน ระเบิดเวลาของเศรษฐกิจไทย (วันนี้คุณปลดหนี้แล้วหรือยัง)
ไปเจอบทความ ของ The Standard ที่ไปสัมภาษณ์ ดร.สรา ชื่นโชคสันต์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ฝ่ายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย
แล้วคิดว่าอยากจะแชร์ให้หลายๆท่านมาแสดงความคิดเห็นกัน
ไม่อยากก๊อปมาทั้งดุ้นนะครับ เดี๋ยวจะเป็นการละเมิด เอาเป็นว่าใครสนใจลองไปอ่านกันดู
มี Quote ในตอนเริ่มที่น่าสนใจ และคิดว่าหลายคนอาจจะเห็นด้วย
“คนรวยเพิ่มทรัพย์สิน คนชั้นกลางเพิ่มหนี้สิน โดยเข้าใจว่าเป็นทรัพย์สิน”
หลักๆก็เป็นมุมมองของคนที่ดูภาพรวมทางเศรษฐกิจและการเงินของประเทศ ที่กังวลเรื่องหนี้ภาคครัวเรือนที่พุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ และการผิดนัดชำระหนี้ที่สูงขึ้นเรื่อยๆเช่นกัน โดยมองว่าเป็นระเบิดเวลา ที่อาจจะทำให้เกิดวิกฤตได้
ซึ่งจากที่เห็นในห้องชายคา รัชดา มีการตั้งกระทู้ถามหัวข้อเหล่านี้ทุกวัน วันละหลายกระทู้
เงินเดือนเท่านั้นเท่านี้ จะกู้บ้าน กู้ซื้อรถผ่านมั้ย จะกู้อย่างไรให้ผ่าน
สินเชื่อส่วนบุคคล หนี้บัตรเครดิต บัตรกดเงินสด หนี้นอกระบบ จ่ายไม่ไหว จะทำอย่างไร
บ้าน รถ กำลังจะโดนยึด ทำอย่างไร
จากที่ผมเห็นค่านิยมในสังคม บ้าน/คอนโด รถ โทรศัพท์ เหมือนจะเป็นปัจจัยหลักในการดำรงชีวิตของคนในยุคนี้ไปแล้ว
ซึ่งถ้ามีการวางแผนการเงินที่ดี เป็นหนี้ในระดับที่เหมาะสมกับรายรับ มีเงินสำรองที่มากพอหากเกิดเหตุฉุกเฉินอะไรขึ้น ก็คงจะประคองรอดไปจนผ่อนจบได้
แต่ที่เห็นไม่น้อยคือ รายได้ปริ่มๆ คิดว่าไหว ผ่อนหนี้เกิน 30% ของรายรับ
บางคนผ่อนบ้าน + รถ เป็น 60% ของรายรับ และผ่อนเป็นระยะเวลายาวนาน
ซึ่งเค้าอาจจะไม่ได้คิดว่าในช่วงระยะเวลาหลายปีไปจนถึงหลายสิบปีนั้น
มันสามารถมีอุบัติเหตุทางการเงินเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา เช่น ตกงาน แต่งงาน มีลูกเพิ่ม เจ็บป่วย อุบัติเหตุ คนในครอบครัวมีเหตุให้ใช้เงินเร่งด่วน ฯลฯ
เงินเก็บเงินสำรองก็ไม่มี เพราะเดือนชนเดือน
สุดท้ายก็รูดบัตรเครดิต บัตรกดเงินสด ไปจนถึงหนี้นอกระบบ พยายามหมุนให้รอดรายจ่ายเฉพาะหน้า
แต่จนแล้วจนรอด ก็ยังหมุนไม่ทัน เจอดอกเบี้ยเพิ่มเข้าไป ยิ่งชักหน้าไม่ถึงหลัง จนวิ่งต่อไม่ไหว
ทรัพย์ที่มี บ้าน รถ จะขายมาปิดหนี้ ทำไมขายยากหรือโดนกดราคา ก็เพราะเงื่อนไขของการกู้มันไม่เอื้อ เช่น
บ้านมือสอง กู้ได้ไม่เต็ม ดอกเบี้ยแพงกว่าบ้านใหม่ คนจะซื้อต้องมีเงินสดระดับหนึ่ง
รถมือสอง ดอกเบี้ยแพงกว่ารถใหม่ ไม่มีเซลล์คอยมาอำนวยความสะดวกเรื่องไฟแนนซ์ หลายคนที่จะผ่อน คำนวณไปมา ไปออกรถใหม่ดีกว่า
ดังนั้นจะขายให้เร็ว ขายให้ได้ก่อนโดนยึด ก็ต้องหั่นราคา
บ้าน ลดจนขาดทุน แต่มีก้อนหนี้ค้ำหัวอยู่ จะลดจนต่ำกว่าก้อนหนี้ ก็ปิดหนี้ไม่ได้อยู่ดี
รถ ไปขายเต้นท์ โดนกดจนติดดิน
ข้อเสนอแนะ ในความเห็นของผม
1. เริ่มออม และผ่อนลมก่อนก่อหนี้อย่างน้อย 1 ปี เก็บไว้ในบัญชี เช่นจะผ่อนบ้านเดือนละ 15,000 บาท ก็ต้องมีความสามารถเก็บเงินจำนวนนั้นทุกๆเดือน 1 ปี
2. ลดมาตรฐานของสิ่งที่อยากได้ลง และใช้เงินที่ซ้อมผ่อน เอามาเลือกซื้อของที่เหมาะกับฐานะปัจจุบัน โดยก่อนหนี้ให้น้อยที่สุด อาจจะมองหาของตกรุ่น ของมือ 2 ที่ลดราคา ใช้ไปก่อน
3. เมื่อฐานะทางการเงินดีขึ้น รายได้มากขึ้น เงินออมมากขึ้น จึงค่อยยกระดับราคาของที่ซื้อหามาใช้ แต่ยังรักษาวินัยการออมอยู่เสมอ
4. เริ่มหารายได้จากแหล่งอื่นๆ มาเสริมจากรายได้หลัก เพราะไม่มีอะไรแน่นอน จะเป็นจากงานอดิเรก การลงทุน งานพิเศษ อะไรที่เริ่มจากจุดเล็กๆก็ได้ ไม่แน่วันหนึ่งมันอาจจะกลายมาเป็นรายได้หลักของคุณ (ระวังพวกแชร์ลูกโซ่ หรืออะไรที่รวยเร็วรวยลัด)
5. เมื่อคุณมีหนี้ต่ำกว่าความสามารถในการชำระ มีเงินออม คุณจะมีความสุขในชีวิตขึ้น หรืออย่างน้อยก็ไม่ต้องคอยมาทุกข์ว่า จะหาเงินที่ไหนมาใช้หนี้
ความคิดเห็นที่ 4
ชอบตรงนี้ครับ
คนชั้นกลางเพิ่มหนี้สินโดยคิดว่าเป็นการเพิ่มทรัพย์สิน
ความคิดเห็นที่ 8
ง่ายๆแต่ทำยาก ลดกิเลส ลดความอยาก ก็อยู่รอดปลอดภัย
ทำยากเพราะแวดล้อมพรรคพวกคุยกันแต่ของแพง รุ่นใหม่ เอามาอวดกัน ใครใช้ของเก่า ของถูก ถูกดูถูก เลยยอมเป็นหนี้
แหล่งที่มา: https://pantip.com/topic/39050268