สงครามล้างโลก: ฝังลึก...สุดใจ...ตอนที่8
6ปีก่อนหน้า..
เจมส์ เอกนัฐ รัตนพงษ์ และ จีด้า กุลธิดา อมรธนากุล ทั้งสองพบกันที่มหาลัย เพราะเรียนอยู่คณะเดียวกัน
ด้วยความชอบอะไรที่คล้ายๆกัน ทั้งคู่จึงตกลงคบกันมาตั้งแต่ขึ้นปีที่2
ช่วงเวลาวันหยุด หรือว่างจากการเรียน ทั้งคู่ก็มักจะชวนกันไปนั่งเล่นริมทะเลเสมอ
“นี่ก็ปีสุดท้ายแล้ว เธอคิดไว้ยังว่าจะต่อโทที่ไหน”
จีด้าเอ่ยถาม ในขณะที่สายตายังคงชื่นชมความงดงามของทะเลที่อยู่เบื้องหน้า
ดวงอาทิตย์ช่วงใกล้ลับขอบฟ้า เปล่ง...แสงสีแดงระเรื่อไปทั่วผืนน้ำ
เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายนิ่งเงียบ หล่อนจึงละสายตามาที่คนรักแทน หล่อนยื่นหน้าเข้าไปใกล้
“ เป็นอะไรอ่ะเธอ เราถามไม่ยอมตอบ เด๋วก็บีบจมูกซะหรอก..นี่แหน่ะ ”
ว่าแล้วก็เอื้อมมือเล็กๆ เรียวงามของเธอขึ้นมาทำท่าทำทาง เพื่อแกล้งคนรัก
เจมส์ จับมือเธอมากุมไว้ แล้วเอียงคอไปซบที่ไหล่ของจีด้า
" เราคงไม่ได้เรียนต่ออ่ะ...ทางบ้านส่งต่อไม่ไหว คิดว่าจะหางานทำเลย เอ้อ!แล้วจีด้าล่ะ คุณพ่อให้เรียนต่อที่ไหนล่ะ "
จีด้าค่อยๆเอียงคอลงซบที่ศรีษะของเจมส์ " อเมริกาอ่ะ ลงวิชาเรียนไว้เรียบร้อยแล้ว "
“ ว้า... ไกลจัง แบบนี้ก็คิดถึงแย่เลยเน้อะ ” เจมส์พูดกระเซ้า
จีด้าก็ตอบว่า " ถ้าคิดถึง ก็คอลกันทุกวันเลยก็ได้นี่นา "
ทั้งคู่หันมาสบตากัน ต่างฝ่ายต่างก็ยิ้มให้แก่กัน แต่ลึกๆ ในใจของทั้งเขาเและเธอ ก็อดหวั่นๆไม่ได้
เจมส์แสดงออกมาทางสีหน้าและแววตาได้อย่างเห็นได้ชัด
ดูเหมือนจีด้าจะมองออก จึงกระเซ้าว่า " ไม่ไว้ใจเค้าหรา... " หล่อนลากเสียงยาวปรี้ด ลอยหน้าลอยตาไปมา
เจมส์ก็กระเซ้าคนรักกลับทันที " อื้มมมม..." จีด้าจึงแกล้งทำตาเขียวใส่เจมส์
“ เช๊อะ!ตัวเอง เห็นเค้าเป็นคนใจง่ายตั้งแต่เมื่อไหร่ ”
แล้วก็แกล้งทำท่าทางกระฟัดกระเฟียดใส่คนรัก พร้อมสะบัดมือออกจากมือของอีกฝ่าย
เจมส์เห็นท่าทางของคนรักก็อดที่จะอมยิ้มไม่ได้ เขาคว้าข้อมือน้อยๆมากุมไว้เช่นเดิม
จีด้าจึงขยับตัวออกห่างนิดหนึ่ง แล้วก็เอนตัวลงนอนที่ตักของเจมส์ ดึงมือของเจมส์มากุมไว้ที่หัวใจ
“เค้า สัญญาว่าจะรักเจมส์คนเดียว และตลอดไป”เจมส์ยิ้มกว้าง และบีบกระชับมือจีด้าเบาๆ
แล้วทั้งคู่ก็หันไปมองดวงอาทิตย์ที่กำลังตกกระทบผืนน้ำ
แสงสีแดงอ่อนทอดตัวลงกับขอบน้ำทะเลสีเข้ม ที่เต้นรับเป็นระลอก
จนตะวันหายลับไปกับผืนน้ำ ความมืดสลัวก็เริ่มต้นขึ้น
………………………………………………………………………………
เมื่อถึงเวลาที่แฟนสาวจะบินไปเรียนต่อต่างประเทศ เจมส์ก็ยังไปส่งเธอขึ้นเครื่องเช่นเดียวกับเพื่อนคนอื่นๆ
ต่างคนต่างก็รับปากกันเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าจะมั่นคงในรักอย่างนี้ตลอดไป
ถึงระยะทางจะอยู่ห่างไกลกันคนละซีกโลก แต่ด้วยเทคโนโลยีที่มี มันกลับทำให้คนทั้งสองไม่ได้รู้สึกว่าอยู่ห่างกันแต่อย่างใด แต่...จากความห่างไกลกันด้วยระยะทาง เมื่อเวลาผ่านพ้นไป มันกลับกลายเป็นความเหินห่าง
การติดต่อสื่อสารต่างๆของทั้งคู่ เริ่มลดน้อยลงเรื่อยๆ ด้วยปัจจัยที่กล่าวมาข้างต้น
จีด้าเริ่มตีตัวออกห่างเจมส์ เพราะเธอพบรักใหม่กับชายอีกคนที่อยู่ระแวกใกล้เคียงกัน
เจมส์เริ่มรับรู้ได้ในการเปลี่ยนไปของคนรัก เขาจึงคาดคั้นความจริงจากปากของจีด้า
ในที่สุด จีด้าก็เลือกผู้ชายคนใหม่ที่ดูดีมีชาติตระกูล และผู้ใหญ่ของทั้งสองฝ่ายก็เห็นดีเห็นงามด้วย จีด้าขอให้เจมส์อย่าได้ติดต่อเธออีกเลย เพราะเธอไม่อยากทำให้คนรักใหม่ของเธอเกิดความไม่สบายใจ
ถึงวันที่จีด้าเรียนจบและบินกลับมาเมืองไทย เจมส์ก็ทราบข่าวจากเพื่อนๆ เขาก็แอบไปรอรับด้วยเช่นกัน
เขาแค่...อยากเห็นหน้าของคนรัก แม้จะเป็นครั้งสุดท้ายเขาก็ยอม
จีด้า เดินออกมาพร้อมคนรักใหม่ ท่ามกลางเสียงยินดีปรีดาจากบรรดาญาติๆของทั้งคู่
เจมส์ยืนมองคนรักอยู่ห่างๆ ไม่!แม้แต่จะกล้าเดินเข้าไปทักทายด้วยซ้ำ
เขาเดินทางกลับบ้านด้วยดวงใจที่แตกสลาย เขากลับมานั่งที่ชายทะเลจุดเดิมอีกครั้ง
เป็นจุดที่ครั้งหนึ่งมันเต็มไปด้วยความสุข แต่ ครั้งนี้ มันกลับทวีความทุกช์เพิ่มมากขึ้น
“เรายังเหมือนเดิมทุกอย่าง แต่..ทำไมเขาไม่เหมือนเดิมวะ”เจมส์นั่งรำพึงรำพันในใจอยู่คนเดียว
การเลิกรากันในครั้งนี้ แน่นอนว่ามันไม่ใช่แค่...การโบกมือร่ำราแล้วเดินจากกันไปเฉยๆ
สำหรับเขาแล้วนั้น...มันเป็นการแตกหัก!! แตกหัก ตรงกลางแก่นที่เรียกว่า....หัวใจ
และมันได้ทิ้งบาดแผลเอาไว้ เป็นบาดแผลที่...ฝังลึก
และรัดตรึงเขาไว้ด้วยคำว่า...เราจะรักกันตลอดไป...
เวลาเปลี่ยน คนก็เปลี่ยนเช่นกัน เราเติบโต เราเรียนรู้ ความคิดเปลี่ยน เรามีความเปลี่ยนแปลงทุกเสี้ยววินาที
แต่..สิ่งหนึ่ง ที่ไม่เปลี่ยนเลย นั่นก็คือ ...ใจ…
โดยเฉพาะเจมส์ ใจ..ของเขาไม่เคยเปลี่ยนไปเลย
เขาหยิบจี้ที่จีด้าเคยมอบให้ก่อนจะไปเรียนต่อ เขาเองก็มอบจี้แบบเดียวกันนี้ให้คนรักไว้เช่นเดียวกัน
มันคือสิ่งเดียวที่เขามีอยู่ในตอนนี้ มันเป็นจี้รูปหัวใจเล็กๆที่สลักคำว่า[จีด้า]อยู่ตรงกลาง
เขามองดูจี้อย่างละเอียด “จี้ของเขาคงไม่มีค่าพอที่จะเก็บไว้ จีด้าคงทิ้งมันไปแล้วกระมัง”
เขาจึงควรทิ้งมันด้วย พอคิดแบบนั้น เขาก็เงื้อมือทำท่าจะขว้างทิ้งลงทะเล แต่..สุดท้ายเขาก็ทิ้งมันไม่ลง
ก็มันคือสิ่งเดียวที่เขามีนี่นา! จะทิ้งทำไม เก็บไว้เป็นอนุสรณ์ไม่ดีกว่าเหรอ เขาฉุกคิดขึ้น จึงเอาจี้แขวนคอไว้อย่างเดิม คืนนั้นทั้งคืน เจมส์ไม่ได้กลับห้องแต่อย่างใด เขาขอปล่อยตัวปล่อยใจดื่มด่ำกับความเจ็บปวด และซึมซับบรรยากาศเดิมๆไว้ให้มากที่สุด...