สงครามล้างโลก...ตอนที่ 2
เจมส์ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง แล้วเขาก็เดินเข้าเครื่องฉายรังสี ซึ่งถูกกั้นเป็นห้องเล็กๆ1.5x1.5เมตร
นี่คือห้องอาบน้ำของของมนุษย์ทดลองและมนุษย์ยุคปีค.ศ.3000อย่างพวกเขา
โดยรังสีจะถูกฉายมาที่ร่างกายทุกส่วนของมนุษย์ เพื่อฆ่าเชื้อ และซ่อมแซมอวัยวะภายนอกและเซลล์กล้ามเนื้อต่างๆให้คงสภาพเดิมตลอดเวลา
เนื่องจากโลกภายนอกไม่ปกติแล้ว เจมส์จึงเลือกสวมใส่เสื้อผ้าที่ถูกออกแบบมาให้ใช้ในสภาพอากาศที่เลวร้ายนอกโลก
เสื้อยืดคอกลม กางเกงทหารลายพลาง สวมทัพด้วยเสื้อทหารอีก1ชั้น
ซึ่งเสื้อผ้าทั้งหมด ถูกสร้างให้ทนต่อแรงกระแทกและสภาพอากาศที่สุดขั้วได้อย่างดีเยี่ยม
เมื่อทุกอย่างพร้อมเต็มที่ เจมส์ก็ได้พาร่างกายของเขาออกมาจากห้องทดลองอีกครั้ง
ครั้งนี้เขาตั้งใจว่าจะขึ้นไปสำรวจบนฝั่งที่อยู่นอกเกาะนี้
“แม่งเอ้ยยย!!มีแต่พังๆทุกลำ”
เขาสบถกับตัวเองเบาๆ พลางเดินสำรวจเรือต่างๆที่จอดพังระเกะระกะ
แน่นอนว่า ทุกอย่างล้วนถูกไฟเผาด้วยอุณหภูมิที่สูง จนพังพินาทแทบไม่มีเค้าโครงเดิมหลงเหลืออยู่
แต่เขาเองก็ยังเชื่อว่าน่าจะมีสักลำที่ถูกคลื่นพลังงานกระแทกจนจมพื้นน้ำเสียก่อนที่พลังความร้อนจะเข้าแผดเผาจนย่อยยับ
“Beep”
ทันใดนั้นก็มีเสียงดังจากเครื่องจับสัญญาณดังขึ้นมา เขาจึงก้มตัวลงต่ำแทบจะนอนราบกับพื้น แล้วยกมือขึ้นมาดู มือขวาของเขา เข้าดึงอาวุธปืนคู่กายยกขึ้นมาระดับสายตา แล้วกวาดสายตาไปทางที่เครื่องตรวจจับสัญญาณรายงานสิ่งที่จับได้
แต่.....ก็ช้ากว่าบางสิ่งที่เขาได้เห็น เพราะสิ่งนั้นส่งสัญาณมาแสกนตัวเขาก่อนที่เขาจะรู้ตัวเสียอีก
“ยินดีต้อนรับ เจมส์”
“ก่อนอื่นต้องแสดงความดีใจอย่างมากที่คุณยังรอดชีวิต”
เจมส์ค่อยๆลุกขึ้นยืน พลางก็ลดอาวุธปืนในมือลง และเก็บเข้าเอวเหมือนเดิม
เพราะสิ่งที่อยู่ตรงหน้าของเขา คือหุ่นยนต์สำรวจที่เขาคุ้นเคยนั่นเอง
ก่อนที่เจมส์จะได้ถามอะไรต่อ เขาก็ถูกโรบอทตัวจิ๋วพาเดินไปอีกฝั่งของเกาะ และเขาถูกพาเดินไปตามช่องหินแคบๆ
สักพักก็พบประตูบานเล็กๆพอที่จะพาตัวเข้าไปได้เท่านั้นเอง
“คุณเจมส์ไปยืนที่ประตูได้เลย เจ้านายรออยู่ด้านในแล้ว”
เสียงจากโรบอทจิ๋ว กล่าวจบโรบอทก็ย้อนกลับขึ้นไปทางเดิม คาดว่าคงจะไปค้นหาผู้รอดชีวิตคนอื่นๆต่อไป
เจมส์จึงเดินมาหยุดอยู่หน้าประตู สักพักประตูนั้นก็ถูกเปิดออก เจมส์จึงก้าวเดินเข้าไปด้านใน ด้านในนี้เป็นทางเดินกว้างประมาณ2เมตร คล้ายๆกับห้องทดลองที่เขาเคยอยู่ทุกประการ
พอเดินลงมาสักพัก ก็พบกับประตูบานใหญ่อีก1บาน เจมส์ก็จะเข้าไปสแกนเพื่อเปิดประตู แต่ยังไม่ทันได้ก้าวไปสแกน
ประตูบานนั้นก็เปิดออกเอง พร้อมๆกับเสียงกล่าวทักทาย
“เข้ามาได้”
เจมส์ย่อตัวลงต่ำ พร้อมกับกระชับอาวุธขึ้นมาอยู่ในท่าเตรียมพร้อม สายตาของเขาสอดส่ายมองเข้าไปด้านใน
เขาพยายามสำรวจอย่างระมัดระวัง เมื่อเห็นว่าน่าจะปลอดภัยดีแล้ว เจมส์จึงค่อยๆคลายความระแวงลงลง
เจมส์ก้าวผ่านประตูเข้ามาด้านใน ห้องนี้มันใหญ่กว่าห้องของเขาเป็นเท่าตัวเลย เป็นโถงใหญ่ และกว้างพอสมควร
ทุกอย่างถูกบรรจงสร้างขึ้นมาอย่างแข็งแรง
ด้านซ้ายมือห่างประตูหลักประมาณ10เมตรเป็นห้องคล้ายๆห้องทดลองหรือห้องทำงานอะไรสักอย่าง
เขาจึงเดินไปหาทันที พอเขาเปิดประตูเข้าไป ก็เจอชายสูงอายุคนหนึ่ง อายุก็น่าจะสัก40ปีเศษ ชายคนนั้นยืนมองเขาอยู่แล้ว เขายิ้มร่า พลางจุ๊ปากเบาๆ