อุทหารณ์!! อาสาสมัครกู้ภัย เมื่อเสียสละเพื่อสังคม แล้วถูกตำรวจจับ เรื่องการการจับสัตว์คุ้มครอง
เตือนใจอาสาสมัครกู้ภัย เมื่อเสียสละเพื่อสังคม แล้วถูกตำรวจจับ
เหตุการณ์นี้ทำให้ผมตัดสินใจเขียนโพสนี้ขึ้นมา เพราะความรู้สึกหดหู่ที่เหล่าผู้เสียสละเพื่อสังคม จะต้องมารับชะตากรรมเช่นนี้
เมื่อน้องอั๋นเจ้าหน้าที่กู้ภัย ต้องถูกตำรวจจับ ในขณะที่กำลังจะนำงูไปปล่อย เพราะงูบางชนิดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง จำพวกเลื้อยคลานในพรบ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าปี 2535
ก่อนหน้านี้น้องอั๋น ได้ถูกเชิญให้ไปร่วมสาธิตให้ความรู้เรื่องงูกับประชาชน ซึ่งงูที่ใช้อบรมคืองูที่ประชาชนแจ้งให้ไปจับ
มาถึงตรงนี้คนที่ทำหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัยต้องทราบเอาไว้ ว่างูที่เราจับนั้น มีงูที่เป็นสัตว์คุ้มครองอยู่ 14 ชนิด และหากจับได้ เราต้องไปลงบันทึกประจำวันกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะในการจับสัตว์คุ้มครอง ต้องถูกกระทำโดยเจ้าหน้าที่ของกรมอุทยานฯเท่านั้น
จุดพีคอยู่ตรงที่ ทางทีมก็พยายามไปลงบันทึกประจำวันกับสถานีตำรวจแห่งหนึ่ง แต่ทางเจ้าหน้าที่ให้ไปแจ้งกับเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ซึ่งพอทางน้องไป ทางอุทยานฯก็ให้ไปแจ้งกับสถานีตำรวจอีก แต่ไม่ทราบเพราะอะไร ทางตำรวจก็ไม่ได้ลงบันทึกให้
ผลสุดท้ายในขณะที่น้องอั๋นกำลังเดินทางเพื่อนำงูไปปล่อย ก็ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับ น้องพยายามอธิบาย แต่ทางตำรวจก็ไม่ฟังคำอธิบาย แม้แต่พยายามแสดงหลักฐาน ทางตำรวจก็ไม่ดูทั้งนั้น แม้แต่ผมพยายามที่จะโทรไปอธิบายแต่ทางตำรวจก็ไม่รับฟังเหตุผลใดใด
ตอนนี้น้องถูกควบคุมตัวไว้ที่สภอ.บ้านหมอ สระบุรี ยังไม่รู้ว่าจะโดนข้อหาอะไรบ้าง เบื้องต้นเห็นใจทั้งคู่ ทั้งน้องที่เสียสละเพื่อสังคม และตำรวจที่ต้องทำตามหน้าที่ แต่อยากให้มีดุลพินิจยอมฟังเหตุผล และดูหลักฐานในการประกอบการตัดสินใจด้วย เพราะไม่ว่ากฏหมายจะเขียนไว้อย่างไรก็ตาม ผมเชื่อว่าที่สำคัญที่สุดคือเจตนา ผู้ใช้ต้องมีดุลยพินิจและมีคุณธรรม
เพราะหากเป็นแบบนี้ กู้ภัยจะกระทำความผิดทั่วทั้งประเทศ ทั้งที่เขาเสียสละช่วยเหลือสังคมมาตลอด และฝากถึงกรมอุทยานฯ ว่าขั้นตอนในการผ่อนผันให้กู้ภัยช่วยจับงูที่เป็นสัตว์คุ้มครอง ในทางปฏิบัติมันทำยากมาก
เพราะนอกจากกู้ภัยต้องไปช่วยจับงูให้แล้ว ยังต้องวิ่งไปลงบันทึกประจำวันอีก มันทำยากเพราะเสียเวลาเสียค่าน้ำมันเขา เลยแทบจะไม่มีใครทำกัน
แล้วในกรณีของน้องอั๋น ทีมงานก็พยายามทำแล้ว แต่ทางเจ้าหน้าที่ไม่ลงบันทึกให้ จนถูกจับ และมีแนวโน้มจะถูกดำเนินคดี ไม่รู้ว่าสุดท้ายจะเป็นอย่างไร แต่ตอนนี้ความรู้สึกของผมแย่มาก ที่ผู้เสียสละ ต้องมารับเคราะห์แบบนี้ครับ
***ปล. สำหรับผู้ที่ไม่เข้าใจ ผมได้อธิบายไปแล้วว่าเห็นใจตำรวจเช่นกัน เพราะนั่นคือหน้าที่ของเขา แต่อยากให้รับฟังคำชี้แจงและหลักฐาน และเจตนาด้วย ไม่ใช่ใส่อารมณ์มาแล้ววางสายใส่ จนสื่อสารกันไม่ได้
กรณีที่เอางูให้ความรู้ น้องไปให้ความรู้กับเยาวชน ซึ่งมีผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทองให้เกียรติรับชมอยู่ด้วย ไม่ได้โชว์เพื่อการค้าการทำกำไรแต่อย่างไร
ประเด็นล่าสุดคือการหลบด่าน เพราะน้องไม่ใส่หมวกกันน็อคครับ ซึ่งก็มีความชอบธรรมพอให้สงสัย และหากพยานหลักฐานไม่ได้เป็นการค้า ก็ควรเอาผิดกรณีนั่นไป ไม่ใช่มาตีคลุมว่าน้องคือผู้ร้ายครับ
เพจล่า