คุณนายลัดดา เจ้าของ ลัดดาแลนด์ เฉลยความจริง ที่ถูกปิดมานาน
เชื่อว่าหลายๆ คน คงจะต้องรู้จักบ้านลัดดาแลนด์ กันอย่างแน่นอน เพราะสถานที่แห่งนี้ก็ได้มาสร้างทำเป็นหนังที่ทำเอาทุกคนหลอนจนขนหัวลุกจนเป็นที่ติดตาและรู้จักถึงความเฮี้ยนของดวงวิญาณในสถานที่นั้นเลยทีเดียว วันนี้สยามนิวส์ เลยจะมาพาทุกคนย้อนกลับไปเมื่อ 30 กว่าปีก่อนเชื่อว่าทุกคนต้องรู้จักสวนดอกไม้เมืองหนาวที่โด่งดังมากอย่าง "ลัดดาแลนด์" ที่มีสวนกล้วยไม้ที่ใหญ่ มากๆ มีทั้งช้างให้นั่ง มีรถม้า มีรถไฟเล็ก การแสดงฟ้อนรำต่างๆ มีค่าบัตรด้วยน่าจะ 8 บาทหรือ 10 บาทนี่แหละในช่วงนั้น ทำให้หน้าหนาวทุกปีจะมีคนขึ้นมาเที่ยวเยอะมาก "เจ้าของคือ คุณนายลัดดา"
"ลัดดาแลนด์" ถือเป็นสถานที่ยอดฮิตของวัยรุ่นสมัยนั้นจะไปออกเดทกันเพราะมีความเชื่อว่า คู่ไหนไปอธิฐานขอความรักกับต้นไทรหน้าลัดดาแลนด์แล้วคู่นั้นจะได้รักกันไปตลอดชีวิต และในส่วนหมู่บ้านนั้นทั้งหมดล้วนเป็นคนที่มีฐานะดีทั้งนั้นที่เข้าไปอยู่เรียกว่า"หมู่บ้านเศรษฐี" แต่เรื่องราวสยองขวัญเกิดขึ้น เมื่อมาเกิดบ้านหลังหนึ่งโดนคนร้ายฆ่าตายยกบ้าน
จุดเริ่มต้นเกิดจากตรงนี้เพราะคนที่อยู่ใกล้ๆกับบ้านหลังนี้ บางทีก็ได้ยินเสียงร้องไห้ บ้างก็ได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือ หรือบางครั้งก็ได้ยินเสียงหัวเราะ และที่เจอกันจนอยู่ไม่ได้คือ คนแถวนั้นจะเห็นครอบครัวที่ตายนั้นบางทีก็ออกมายืนหน้าบ้าน ออกมารดน้ำต้นไม้ คนที่ผ่านไปมาโดนหลอกทุกคน ทำให้ตอนเที่ยงคืนจนถึงเช้าไม่มีใครที่จะกล้าออกจากบ้านเลย
ยิ่งนานวันเข้าความาเฮี้ยนยิ่งหนักขึ้นมาหลอกถึงบ้าน คนแถวนั้นอยู่ไม่ไหวเลยพากันย้ายออกกันไปเกือบหมด ทำให้แถวนั้นกลายเป็นบ้านร้างเยอะแต่ยังมีบ้านอีก 3 หลังที่ยังไม่ไปไหนและ 1 ใน 3 หลังนั้นเจ้าของเป็นฝรั่งไม่ค่อยได้อยู่จะบินมาเที่ยวเฉพาะฤดูหนาวเพราะเป็น สถานที่ท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อมาก เลยจ้างเด็กสาวพม่ามาเฝ้าบ้านแต่ผ่านไปไม่นานก็มีโจรมาขึ้นบ้านหลังนั้นฆ่า เด็กสาวคนนั้นแล้วหมกศพไว้ในห้องเก็บของใต้บันได กว่าจะมาพบก็ผ่านไปเกือบ 2 เดือน และที่มาพบได้เพราะบ้านที่ยังเหลืออยู่ใกล้ๆกันได้กลิ่นเหม็นเน่า โชยออกมาจากในบ้านแต่ก็ไม่ได้สงสัยเพราะยังเห็นเด็กสาวคนนี้ยังคงมานั่งอยู่ ที่ระเบียงหน้าบ้านทุกวัน จนวันหนึ่งทนไม่ไหวเลยบอกว่าให้ทำความสะอาดเพราะอาจจะมีหนูตายแค่นั้นแหละ เด็กสาวหันหน้ามาแบบเละๆเลยไปแจ้งความและแจ้งให้เจ้าของบ้านทราบเปิดเข้าไป ดูเลยพบ แต่ถึงจะพบแล้วเด็กคนนี้ก็ยังคงนั่งอยู่เดิมทุกวัน แต่ถ้านั่งธรรมดาไม่มายุ่งคงจะดีเห็นคนนั้นบอกว่าบางทีก็มายืนมองที่หน้าต่างตอนนอนกลางคืนด้วย เลยย้ายออกไม่เสียดายบ้าน
แต่ความเฮี้ยนความหลอนยังไม่หมดเท่านั้น เพราะมันยังมีความจริงบางอย่างที่ยังไม่ถูกเปิดเผยและถูกปิดตายไปกับ "ลัดดาแลนด์" ก็คือ..
1. มีคู่รักคู่หนึ่งที่รักกันมากและมาอธิฐานขอให้ความรักสมหวังกับต้นไทรแต่ แล้วพ่อแม่ฝ่ายหญิงไม่ยอมรับฝ่ายชายทั้งสองเลยมาแควนคอตายคู่กันที่ใต้ต้น ไทรนั้น?เขาบอกว่าทุกวันที่ทั้งคู่ผูกคอตายวนมาจนครบรอบ(ซึ่งผมก็ไม่รู้ วันไหน) คนแถวนั้นจะเห็นทั้งคู่ห้อยโตงเตงพร้อมกับส่งยิ้มมาให้
2. ช่วงก่อนที่จะสร้างสวนสาธารณะนี้เสร็จ ตอนที่ขุดหลุมเพื่อที่จพทำบ่อน้ำได้พบกับโครงกระดูกอยู่แต่ไม่ยอมเปิดเผยให้ทราบกัน 3. เมื่อ 10 กว่าปีก่อนสถานที่แถวนั้นเป็นที่เปลี่ยวเลยมีการนำศพคนตายที่ถูกปล้น หรือถูกข่มขืนมาทิ้งไว้ที่นั้นที่รู้อย่างน้อยๆก็ 8 ศพแต่ที่ไม่รู้อีกน่าจะเยอะ
4. มีหญิงสาวและหญิงขายบริการหลายที่ทำแท้งแล้วนำซากเด็กไปทิ้งไว้ในสระน้ำนั้นเป็นจำนวนมากหลายคนบอกว่ามากกว่า 100 เลยทีเดียว
5. มีขี้ยาคนหนึ่งพี้ยาเกินขนาดแล้วเกิดช็อคตายคาศาลาที่ริมสระน้ำนั้นกว่าจะมี คนมาพบก็เน่าหมดแล้ว แต่เขาบอกว่าที่ช็อคเพราะโดนเอาไปเป็นตัวตายตัวแทนมากกว่า เพราะกัญชายังเหลืออยู่ข้างๆศพอีกเยอะเลย
6. มีการนำศาลพระภูมิรวมถึงตุ๊กตาสะเดาะเคาระห์มาทิ้งไว้เป็นจำนวนมากจนทาง เทศบาลมารื้อไปทิ้งไว้นอกเมือง แต่ไม่เคยทำได้สำเร็จเพราะถึงจะย้ายไปไกลแค่ไหนวันรุ่งขึ้นก็จะกลับมาที่ เดิม
7. มีหญิงสาวที่มาขอความรักกับต้นไทรแล้วผิดหวังในความรัก เลยมากินยาฆ่าแมลง ตายใต้ต้นไทรหน้าหมู่บ้านโดยที่ทิ้งจดหมายไว้สั้นๆว่า ? จะอยู่ข้างๆเธอตลอดไป?
จึงเป็นลือกันว่าที่มีดวงวิญญาณทั้งหมดนี้จะสิ่งอยู่ในตุ๊กตาสัตว์ที่วางไว้อยู่มากมายในพื้นที่นั้น จึงเป็นความสยองขวัญสั่นประสาท ที่ถูกเล่าต่อกันมา
แหล่งที่มา: https://cipatha.com/news/3650/