นี่คือสิ่งที่คุณต้องเจอ เมื่อคุณเป็นทหารราบ และถูกส่งไปรบในสงครามโลกครั้งที่ 1
เมื่อคุณเป็นทหารราบและถูกส่งไปรบในสงครามโลกครั้งที่ 1 ในแนวรบด้านตะวันตก
- ชีวิตคุณจะค่อยๆเริ่มเปลี่ยนไปตั้งแต่วันแรกที่ก้าวเท้าเข้าสู่สนามเพลาะ เนื้อตัวของคุณจะยังสะอาดอยู่แต่เมื่อคุณต้องอยู่และอาศัยในสถานที่แบบนี้ความสะอาดจะค่อยๆลาจากคุณไป
- สนามเพลาะส่วนใหญ่ไม่มีที่ให้นอนแบบเหยียดยาวได้ วิธีที่จะนอนในสนามเพลาะก็คือ การใช้พลั่วสนามหรือมือเปล่าขุดผนังสนามเพลาะเข้าไปให้มีพื้นที่ขนาดพอตัว และนำตนเองเข้าไปนั่งพิงหลังอยู่ภายในนั้น โดยปกติแล้วทหารจะใช้วิธีการนั่งหลับอยู่ในนั้น แต่บางกรณี ทหารก็ต้องออกแรงขุดผนังสนามเพลาะเข้าไปและทำเป็นห้องขนาดใหญ่สำหรับนอน ซึ่งต้องออกแรงช่วยกันทำหลายคนรวมถึงต้องมีอุปกรณ์สำคัญอย่างท่อนไม้และแผ่นไม้ในการสร้างห้องเหล่านี้ขึ้นมา
- เมื่อฝนตกลงมาก็ถึงเวลาที่คุณจะต้องใช้ชีวิตอยู่กับมัน สนามเพลาะจะกลายเป็นร่องน้ำหรือเต็มไปด้วยโคลน เมื่อเดินเท้าไปมาในสนามเพลาะก็หนีไม่พ้นที่เราจะต้องเดินลุยน้ำลุยโคลน และคุณกับเพื่อนทหารจะต้องช่วยกันใช้ทุกอย่างที่มีในการระบายน้ำออกไป หม้อสนาม ถัง หรือแม้กระทั่งพลั่ว วิดน้ำออกไปจากสนามเพลาะให้หมด หรือหาทางสร้างทางระบายน้ำออกไป
- ขณะเดียวกัน เมื่อหิมะตกลงมา งานก็เข้าอีกครั้ง มันก็คล้ายๆกับการวิดน้ำแต่เป็นการโกยหิมะออกไปจากร่องทางเดินในสนามเพลาะ
- สนามเพลาะเป็นสถานที่ที่จะทำให้เท้าของคุณมีปัญหา ด้วยความชื้นและเย็นรวมทั้งการเดินลุยน้ำย่ำโคลน สิ่งที่ตามมาก็คือโรคภัยต่างๆ ที่มากับการลุยน้ำและโคลน อาการเท้าเปื่อย และน้ำกัดเท้า หรือโรคที่เกิดกับเท้าอื่นๆ
- นอกจากการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับเพื่อนทหารแล้ว คุณจะพบกับแขกไม่ได้รับเชิญที่มาป่วนการนอนกลางดินกินกลางทรายของคุณ หนู เห็บ หมัด หรือ แมลงและแมงอื่นๆเช่น ตะขาบ แมงมุม แมงป่อง ก็จะมาอาศัยอยู่กับคุณด้วยในทุกๆพื้นที่ของสนามเพลาะ โอกาสที่คุณจะถูกสิ่งมีชีวิตพวกนี้กัดมีสูงกว่าการถูกยิงเสียอีก
- งานขุดสนามเพลาะจะเป็นงานที่ไม่มีวันสิ้นสุดตราบใดที่คุณยังต้องอยู่ในสนามเพลาะนั้น เพราะสนามเพลาะอาจจะถูกถล่มด้วยปืนใหญ่ข้าศึกจนทำให้ได้รับความเสียหาย หรือ การขุดแนวสนามเพลาะเชื่อมกับแนวทหารที่อยู่ข้างเคียงหรืออยู่ด้านหลัง นอกจากนี้ยังมีการขุดแนวสนามเพลาะไปข้างหน้าเข้าสู่พื้นที่ไร้การครอบครอง ระหว่างแนวทหารฝ่ายตนเองและแนวทหารข้าศึก เพื่อใช้ในการสังเกตการณ์หรือก่อกวนข้าศึก
- ลืมการนอนพักผ่อนอย่างเต็มที่ไปได้เลย เพราะคุณมีหน้าที่ต้องไปเข้าเวรยาม ซึ่งการเข้าเวรของทหารแต่ละคนจะแตกต่างกันไปตามหน้าที่ และโทษของการหลับยามหรือละทิ้งหน้าที่ทหารแต่ละชาติจะมีบทลงโทษแตกต่างกันออกไป แต่โดยส่วนใหญ่มักจะเป็นการลงโทษที่รุนแรงมากเพราะการเข้าเวรยามเป็นหน้าที่สำคัญในการเป็นหูเป็นตาและคอยแจ้งเตือนถึงภัยคุกคามจากฝ่ายตรงข้าม ชีวิตเพื่อนทหารด้วยกันขึ้นอยู่กับความรับผิดชอบและสามัญสำนึกของทหารที่เข้าเวรยาม
- แม้จะอยู่ในสนามเพลาะของตนเอง แต่คุณยังมีโอกาสจะเสียชีวิตได้เสมอแม้จะยังไม่ทันได้บุกเข้าตีข้าศึกก็ตาม การเดินไปมาในสนามเพลาะตนเองคุณต้องระมัดระวังเสมอและคำนึงเอาไว้ว่า หัวของคุณอาจจะกำลังถูกศูนย์เล็งของปืนซุ่มยิงข้าศึกส่องอยู่ และมันพร้อมจะถูกระเบิดจนกะโหลกเปิดมันสมองกระจายด้วยคมกระสุนที่ยิงออกมา นอกจากนี้ในบางครั้งข้าศึกอาจส่งหน่วยกล้าตายเข้ามาก่อนกวนสนามเพลาะ ด้วยการอาศัยความมืดคืบคลานเข้ามาจนถึงระยะขว้างระเบิดมือ หลังจากนั้นระเบิดมือจะถูกดึงสลักและขว้างเข้ามาในสนามเพลาะ นอกจากนี้อาวุธวิถีโค้งอย่างปืน ค. สนามเพลาะ หรือแม้กระทั่งปืนใหญ่สนาม ก็ยังสามารถสังหารคนที่อยู่ภายในสนามเพลาะได้ ด้วยการใช้กระสุนแตกอากาศเหนือสนามเพลาะ ส่งสะเก็ดระเบิดลงมาสังหารทุกคนที่อยู่ในแนวสนามเพลาะ หรือกระสุนปืนใหญ่ธรรมดาที่บังเอิญหล่นลงมากลางแนวสนามเพลาะพอดี
- เมื่อคุณหลับก็อย่าหลับสนิท โปรดจงเงี่ยหูฟังเสียงสักนิด โดยเฉพาะพื้นดินที่คุณนั่งพิงหลังอยู่นั้นอาจจะมีแขกมาเยือนก็เป็นได้ บ่อยครั้งที่ทหารแต่ละฝ่ายหลีกเลี่ยงความสูญเสียในการเข้าตีสนามเพลาะกันโดยตรง และหันไปใช้การขุดอุโมงค์เข้ามาใต้แนวทหารฝ่ายตรงข้าม โดยขุดมุดลงไปให้อยู่ใต้บริเวณแนวสนามเพลาะเป้าหมาย จากนั้นนำเอาระเบิดและดินปืนเข้ามารวมกันก่อนจะจุดระเบิดทำลายทุกๆอย่างที่อยู่ด้านบนให้แหลกละเอียดไปกับแรงของระเบิด
- เมื่อมีคำสั่งให้เข้าตีสนามเพลาะข้าศึก สิ่งที่คุณต้องทำคือการเตรียมตนเองให้พร้อมกับสัมภาระและยุทธภัณฑ์ที่จะต้องนำติดตัวไป อาวุธประจำกายทั้งปืนเล็กยาว ปืนพก ดาบปลายปืน กระสุน ต้องพร้อมที่จะถูกใช้งาน นอกจากนี้ของใช้อื่นๆอย่างเสบียงปันส่วน ผ้าพันแผล กระติกน้ำ และที่สำคัญหน้ากากกันแก๊ส จะต้องติดตัวทหารไปด้วย
- ก่อนเข้าตี ปืนใหญ่ของฝ่ายเราจะระดมยิงสนามเพลาะข้าศึก ระยะเวลาในการยิงถล่มก็แล้วแต่ทางกองบัญชาการจะกำหนด เมื่อการยิงเตรียมจบลงแล้วการเข้าตีของทหารราบก็เริ่มต้นขึ้น หรือในบางครั้งอาจจะมีการปรับพิกัดการระดมยิงปืนใหญ่ให้ขยับไปข้างหน้ามากขึ้น พร้อมกับการเคลื่อนที่ของทหารราบ แนวสนามเพลาะที่ใช้เคลื่อนพลออกตีอาจจะไม่ใช่แนวสนามเพลาะที่เราเคยอยู่ แต่มันอาจจะเป็นแนวสนามเพลาะที่ถูกขุดเข้าไปใกล้แนวสนามเพลาะข้าศึกเพื่อย่นระยะทางในการเข้าตี แต่เมื่อทหารโผล่ออกมาจากสนามเพลาะตนเองแล้ว ความสับสนวุ่นวายก็เริ่มต้นขึ้น
- หากคุณเป็นพลทหาร คุณต้องวิ่งตามหลัง ผบ.หมู่ของคุณไป ขณะเดียวกัน หากคุณเป็น ผบ.หน่วยทหาร คุณจะต้องวิ่งนำทหารของตนเองไป หากคนเป็นนายทหารไม่วิ่งนำหรือออกรบร่วมกับทหารแล้ว ทหารจะพากันขวัญเสียและแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่ทหารจะพากันเคลื่อนพลบุกออกไปได้ หากการวิ่งไปท่ามกลางทหารด้วยกันเป็นเรื่องสับสนแล้ว พื้นที่ไร้การครอบครองที่เรากำลังวิ่งอยู่นั้นก็ไม่ใช่ทุ่งลาเวนเดอร์ หลุมระเบิด ตอไม้ เศษซากต่างๆ จะเป็นอุปสรรคในการเคลื่อนที่ และยิ่งหากพื้นที่แถบนั้นพึ่งผ่านช่วงเวลาที่ฝนตกมาไม่นาน นั่นหมายความว่าคุณกำลังวิ่งฝ่าทะเลโคลน
- อย่าลืมว่าคุณกำลังวิ่งเข้าไปหาข้าศึก และพวกมันจะไม่นั่งรอให้คุณเอาดาบปลายปืนไปแทงมันได้ พื้นที่ไร้การครอบครองจะกลายเป็น “ทุ่งสังหาร” ไปทันที เพื่อนทหารในหน่วยของคุณจะต้องจบชีวิตอยู่ในบริเวณนี้ สิ่งที่สกัดกั้นการรุกเข้ามาคือปืนใหญ่ของฝ่ายตรงข้าม ที่จะยิงถล่มไม่ให้หน่วยของคุณบุกเข้ามาได้ง่าย กระสุนปืนใหญ่จะหล่นลงมาครอบคลุมไปทั่วบริเวณ และส่งสะเก็ดระเบิดออกไปสังหารทุกๆคนที่อยู่ในรัศมีการสังหาร เมื่อเข้ามาอยู่ในระยะยิงของปืนกล มันจะยิงทหารที่กำลังวิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว ทหารฝ่ายบุกจะเสียเปรียบอย่างมากตรงที่พวกเขาจะโผล่ออกมาจากเส้นขอบฟ้า และฝ่ายตรงข้ามสามารถมองเห็นและเล็งยิงอย่างง่ายดาย การวางตำแหน่งของปืนกลตามเทคนิคของแต่ละประเทศก็แตกต่างกัน ยิ่งถ้าเป็นทหารเยอรมัน พวกเขาจะวางตำแหน่งของปืนกลเอาไว้ที่ปีกซ้ายและขวาของแนวสนามเพลาะ จากนั้นรังปืนกลทั้งสองจะยิงออกมาในรัศมีการยิงตัดกัน มันกลายเป็นม่านกระสุนปืนกลที่ฆ่าทหารทุกคนที่เข้ามา
- หากคุณและเพื่อนๆยังมีชีวิตอยู่และบุกเข้ามาใกล้สนามเพลาะข้าศึกได้ ตัวของคุณและเพื่อนๆ ก็จะอยู่ในศูนย์เล็งของปืนเล็กยาวของทหารฝ่ายตรงข้ามที่ปักหลักรอพวกคุณในสนามเพลาะ พวกเขาจะเล็งปราณีตและยิงคุณหรือเพื่อนๆของคุณล้มลงทีละคนอย่างง่ายดาย ตรงกันข้ามกับฝ่ายคุณที่กำลังวิ่งกระหืดกระหอบหลบลูกปืนใหญ่และปืนกล เดี๋ยววิ่งเดี๋ยวหมอบลงกับพื้น แม้จะยิงโต้ตอบแต่โอกาสที่ทหารฝ่ายบุกจะยิงโดนทหารฝ่ายรับที่ตั้งมั่นในสนามเพลาะและมีที่กำบังอย่างดีนั้น โอกาสที่จะยิงถูกนั้นมีน้อยมาก
- เมื่อมาถึงแนวรั้วลวดหนามของสนามเพลาะข้าศึก สิ่งที่ต้องเผชิญคือคุณจะอยู่ในระยะขว้างระเบิดมือของทหารข้าศึก มันจะทั้งยิงและขว้างระเบิดใส่คุณ ขณะที่คุณกับเพื่อนกระเสือกกระสนคลานเข้าไปใกล้แนวรั้วลวดหนามและใช้คีมตัดลวดตัดมันออก หรือถ้าคุณโชคดีปืนใหญ่ของฝ่ายคุณอาจจะยิงทำลายแนวรั้วลวดหนามเหล่านี้ลงได้แล้ว
- เมื่อรั้วลวดหนามถูกตัดออก ก็มาถึงจุดสุดยอดของการรบแบบสนามเพลาะ ผู้บังคับหน่วยจะเป่านกหวีดเป็นสัญญาณ หรือใช้การตะโกนออกคำสั่งให้คุณและเพื่อนทหารที่ยังเหลืออยู่วิ่งเข้าตะลุมบอนทหารข้าศึกที่อยู่ในสนามเพลาะ แต่ลองนึกถึงหลักความจริงอย่างหนึ่งก็คือ ทหารที่วิ่งข้ามพื้นที่เปิดโล่งมาแบบทุลักทุเล ล้มลุกคลุกคลานมาหลายรอบกว่าจะมาถึงแนวสนามเพลาะ กับทหารอีกฝ่ายที่คอยอยู่ในที่มั่นและเตรียมพร้อมประจัญบานอยู่แล้ว ทหารฝ่ายไหนจะมีกำลังวังชาและมีเรี่ยวแรงที่จะต่อสู้กันตัวต่อตัวมากกว่ากัน เมื่อการรบด้วยดาบปลายปืน มีด พลั่ว มือเปล่าเกิดขึ้นแล้ว มันไม่เหมือนการชกต่อยกันแบบนักเลงสุดห้าวจะสาวหมัดใส่กันโดยมีเสียงเชียร์และเสียงห้ามปราม วินาทีนั้นไม่มีใครจะห้ามคุณให้หยุดใช้มีดแทงใครสักคนที่คุณไม่เคยรู้จัก ไม่มีกติกาหรือสามัญสำนึกใดๆให้คุณต้องไตร่ตรอง และจงทำความเข้าใจว่า ขณะที่คุณกำลังปลุกปล้ำกับทหารข้าศึกคนใดคนหนึ่งอยู่นั้น ถ้าคุณโชคดีเพื่อนของคุณอาจจะวิ่งเข้ามาช่วยคุณจัดการกับมัน หรือถ้าโชคร้ายเพื่อนของทหารข้าศึกคนนั้นก็อาจจะมาสังหารชีวิตคุณโดยที่คุณไม่ทันระวังตัว ทุกอย่างจะเกิดขึ้นเร็วและสับสนมาก การรบขั้นประจัญบานจะเกิดขึ้นในสนามเพลาะแคบๆที่ชายหนุ่มจับคู่กันเพื่อฆ่ากัน พวกเขาจะเบียดเสียดผลักดัน กระทืบเหยียบย่ำกันไปมา
- หากโชคดีหน่วยของคุณสามารถขับไล่ทหารข้าศึกที่อยู่ในสนามเพลาะออกไปได้ ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะชนะแล้ว เพราะโดยปกติแนวสนามเพลาะจะมีการขุดขึ้นมาเป็นแนวยาวซ้อนกัน สามถึงสี่แนว โดยแต่ละแนวจะมีแนวสนามเพลาะเชื่อมถึงกันหมด แม้จะขับไล่ข้าศึกในแนวแรกออกไปได้ แต่คุณยังเหลือแนวที่สอง สาม หรือ สี่ ขณะเดียวกันโอกาสที่คุณจะถูกข้าศึกโจมตีโต้ตอบมีสูงมาก เพราะกำลังทหารฝ่ายบุกที่เข้าตีจะเหลือกำลังน้อยลงเพราะเสียชีวิตและบาดเจ็บไปตั้งแต่ตอนวิ่งฝ่าพื้นที่ไร้การครอบครอง คุณจำต้องรอกำลังเสริมและเร่งรีบสถาปนาความมั่นคงในพื้นที่ที่ยึดครองได้ ขณะที่การเคลื่อนพลไปต่อนั้น แม้คุณจะเคลื่อนที่ไปตามแนวสนามเพลาะของข้าศึกที่เชื่อมต่อกัน แต่เส้นทางนี้เมื่อคุณยึดแนวสนามเพลาะแรกได้ ข้าศึกจะเคลื่อนกำลังเข้ามาปิดช่องทางไว้ทันที โดยส่วนมากมักจะมีการนำปืนกลมาตั้งรอยิงทหารทุกคนที่คิดจะบุกไปต่อ
- การยึดแนวสนามเพลาะข้าศึกได้ก็ยังเสี่ยงต่อการโดนทำลายในคราวเดียว เพราะปืนใหญ่ของข้าศึกจะปรับการยิงระดมยิงใส่แนวสนามเพลาะที่ถูกยึด หรือการใช้ปืน ค. สนามเพลาะยิงสกัดการรุกและเข้าตีโต้ตอบ หากเลวร้ายกว่านั้นข้าศึกอาจจะไล่คุณหนีด้วยการใช้แก๊สพิษ
- หากการรักษาสนามเพลาะที่ยึดมาได้มิอาจกระทำต่อไปได้และมีคำสั่งให้ถอย คุณจะต้องวิ่งกลับมาผ่านเศษซากของสิ่งต่างๆ แม้กระทั่งเพื่อนทหารที่เสียชีวิต อาจจะมีบางคนนอนบาดเจ็บอยู่ตรงนั้นและพยายามโบกมือหรือส่งเสียงขอความช่วยเหลือ สามัญสำนึกของคุณอาจจะบอกให้คุณพยุงร่างเขากลับไปด้วย แต่นั่นก็จะเปิดโอกาสให้ข้าศึกเล่นงานคุณได้จากความล่าช้าในการช่วยเพื่อนที่บาดเจ็บ หากคิดว่าเท้าคุณไวและแรงคุณยังมีก็จงนำสหายศึกกลับไปด้วย แต่ถ้าคิดว่าไม่ ก็จงแข็งใจรักษาชีวิตตนเองเอาไว้ก่อนดีกว่า
- เมื่อคุณกลับมาที่สนามเพลาะแล้วก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะได้พัก เพราะมีโอกาสสูงมากที่อีกฝ่ายจะเคลื่อนพลเข้าตีฝ่ายคุณบ้าง เพราะกำลังของฝ่ายคุณลดน้อยลงไปแล้วจากการระดมกำลังเข้าตีในตอนแรก พวกที่ล่าถอยกลับไปและยังเหลืออยู่ย่อมมีจำนวนที่น้อยกว่า หนำซ้ำยังหมดเรี่ยวแรงและเสียขวัญ ดังนั้นทุกคนต้องจับตามองดูสนามเพลาะและเฝ้าระวังการเข้าตีโต้ตอบที่อาจจะเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ
- ลมเย็นๆที่พัดผ่านอาจจะทำให้คุณผ่อนคลายไปกับบรรยากาศ แต่กระแสลมอาจจะพัดพาความตายมาหาคุณได้ทุกเมื่อ เพราะลมพวกนี้อาจจะพัดพาแก๊สพิษที่ถูกปล่อยจากอีกฝั่งหนึ่งของพื้นที่ไร้การครอบครอง และลอยพัดมาที่แนวสนามเพลาะของคุณ หรือกระสุนปืนใหญ่บางชนิดที่สามารถยิงกระสุนแก๊สพิษได้ คุณมีเวลาไม่มากที่จะสวมใส่หน้ากากกันแก๊สให้ทันเวลาก่อนที่วิญญาณคุณจะออกจากร่าง
และนี่เป็นเพียงบางส่วนของสิ่งที่ทหารต้องเจอในสนามเพลาะยุคสงครามโลกครั้งที่ 1
อ้างอิง
Infantry Attacks
All quiet on the western front
Storm of Steel
Some Desperate Glory: The World War I Diary of a British Officer, 1917
https://www.facebook.com/751970104976331/photos/a.751973321642676/1186745521498785/?type=3&theater