เรียนจบมาแล้วอยู่ที่เราเลือก “ขี้ข้าห้องแอร์ หรือ นายตัวเอง” หนุ่มเผยแง่คิดชีวิต ชีวิตอยู่ที่เราจะเป็น
เป็นอีกหนึ่งความคิดดีๆ ที่ได้ผลตอบรับจากโซเชียลจนเป็นกระแสดีมากๆ และ มีผู้มาแชร์เรื่องราวนี้แล้วเกือบสองหมื่นครั้ง สำหรับแง่มุมคิดของผู้ใช้เฟซบุ๊ก Tine Xaou ที่โพสต์ไว้ในเฟซบุ๊กตัวเอง โดยระบุว่า…
3 ปีเรียนอนุบาล 6 ปีเรียนประถม 6 ปีเรียนมัธยม 4 ปีเรียนมหาวิทยาลัย 19 ปีเรียนมา หมดเงินไปไม่รู้เท่าไร จบมาเป็นขี้ข้าห้องแอร์เงินเดือน 15,000
เจ้านายก็หน้าหม้อ เพื่อนร่วมงานก็ขี้อิจฉาไหนจะลูกค้างี่เง่า!! ทนๆๆๆๆทนมา3ปี กะจะหาที่ทำงานใหม่พอได้อ้าว!!ที่ใหม่ก็ไม่ต่างจากที่เก่าเราแค่เปลี่ยนที่ทุกข์!! ตื่นมาแทนที่จะได้กินกาแฟอ่านหนังสือที่ชอบก่อนต้องรีบร้อนวิ่งไปหาเครื่องตอกบัตร
เที่ยงอยากกินร้านโปรดก็ไกลทำได้แค่กินข้าวแกงข้างออฟฟิตเพราะกลัวกลับเข้างานไม่ทันเวลา! อยากออกจากงานวันละ3เวลาหลังอาหารก็ทำไม่ได้เพราะ…ผ่อนรถ ไหนจะค่าบัตรเครดิตอีก2-3ใบ ลาออกไปมีหวังกลับไปนั่งรถเมลล์เหมือนเดิม!! ชีวิตค่อยๆเดินลงทะเล ทีละก้าวผ่านไป 10 ปี
มีลูกยิ่งต้องระวังตกงานมาไม่ใช่เราคนเดียวที่อด ไปทำงานด้วยความจำยอมเจ้านายว่ายังไงก็ต้องทน แต่ก็แปลกอีกนะ….เราเจอแบบนี้มา เราก็ดันไป สอนลูกเราต่ออีกว่า
“ตั้งใจเรียนนะโตขึ้นจะได้ทำงานดีๆ”สุดท้ายเราไม่ได้ทิ้งอะไรใว้ให้ลูกเลยแต่เราทิ้งลูกจ้างใว้ให้โลกไว้ทำงานให้บริษัทคนอื่นให้คนอื่นรวยนั้นคือ ลูกเรา นั้นเอง
คิดง่ายๆนะอาเฮียร้านจักรยาน เขาทิ้งกิจการร้านจักรยานใว้ให้ลูกลูกรุ่นต่อไปเป็น…เถ้าแก่ ลุงดำ ทำงาน ร้านจักรยานของอาเฮีย ลุงดำจะมีอะไรทิ้งใว้ให้ลูก?คนจะรวยคนจะจนมันไม่ได้ต่างกันที่จำนวนเงินมันต่างกันที่วิธีคิด!!คุณอยากเห็นตัวเองตอนอายุ 60 เป็นยังไงมันขึ้นอยู่กับการคิดการทำในวันนี้
เริ่มจากสิ่งที่ตัวเองชอบอยากทำทำแล้วมีความสุขแรกๆอาจจะเจ๊งเจ๊งก็ช่างมันยิ่งเจ๊งยิ่งเก่งเหมือนหัดขี่จักรยานนั้นแหละต้องมีล้มบ้างเลือกเอาจะล้มตอนนี้ตอนที่ยังมีแรงลุกได้เร็วหรือล้มตอนอายุ60 ล้มมานี่แย่เลยนะ
อ่านจบแล้วเรียกว่าได้แง่คิด ได้มุมมองใหม่ๆอยู่เหมือน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นนอยู่กับผู้อ่านเองแล้วละครับ ว่า เราจะเลือกทางไหนดี อาจจะต้องลองไปทั้งสองทาง เพราะยังไงแล้วชีวิตก็คือการเรียนรู้ไปเรื่อยๆ นั่นละครับ
แหล่งที่มา: https://www.khaosocial.net