ซึ้งใจ “หนุ่มพิการ” ทำความดีด้วยหัวใจ อาสาดับไฟป่าดอยอินทนนท์
จากสถานการณ์ไฟป่าจ.เชียงใหม่ ที่ลุกไหม้ต่อเนื่อจนทำให้ควันจากไฟป่าพัดเข้าสู่ในตัวเมืองเชียงใหม่ ซึ่งก็ได้เจ้าหน้าที่ระดมกำลังพร้อมจิตอาสาช่วยกันดับไฟป่า แต่การดับไฟเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากอุปสรรคพื้นที่ที่มีทั้งชะง่อนผาและหุบเขาลึก ทำให้เจ้าหน้าที่เข้าถึงยาก ล่าสุดมีผู้ใช้เฟซบุ๊คชื่อว่า Sasiphon Saknarin ที่ได้ทำการโพสต์ข้อความพร้อมรูปภาพเกี่ยวกับ อาสาสมัคร รายหนึ่งซึ้งพิการทางขา แต่ได้มาช่วยดับไฟป่า ที่ถาโถม หมอกควันคละคลุ้ง โดยผู้โพสต์ได้ระบุข้อความทั้งหมดเอาไว้ว่า
“น้องเสือ” อาสาดับไฟป่า แม้พิการทางขา..แต่ร่างกายไม่ใช่อุปสรรค ของการทำความดี…หัวใจนายหล่อมาก เยี่ยมครับ ❤✌ #เชียงใหม่ วันนี้หัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ คุณกริชสยาม คงสตรี ..ได้เล่าเรื่องราวความประทับใจเล็กๆ ที่เกิดขึ้นว่า “ท่ามกลางสถานการณ์ไฟป่าที่ถาโถม หมอกควันคละคลุ้ง ว่า…
มี “น้องเสือ” สมศักดิ์ เกสรเสาวคน.. เด็กหนุ่มรูปหล่อผู้พิการขา แห่งบ้านแม่กลางหลวง บนดอยอินทนนท์ ที่ทำหน้าที่เป็นอาสาดับไฟป่า ซึ่งเราจะเห็นน้องเสือทุกครั้ง ที่มีควันไฟป่าเกิดขึ้น “น้องเสือ” จะรีบไปถึงที่นั่นทันที พร้อมรถมอไซด์ ของพี่น้องผู้รักป่าทุกคน ภาพที่เราเห็นน้องเสืออยู่บ่อยครั้ง คือ.. มือหนึ่งน้องเสือจะเดินถือไม้เท้าประคองตัว อีกมือหนึ่งจะตะปบดับไฟป่า ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจจริง
สำหรับเหตุนี้ ทำให้เราเห็นถึงจิตใจที่เข้มแข็ง จิตอาสาของการอนุรักษ์ แม้ร่างกายของน้องเสือ จะไม่พร้อมเหมือนคนอื่นทั่วไป แต่นั่นไม่ใช่ปัญหา หรือข้ออ้างของการทำความดี …ขอชื่นชมทุกๆคนครับ..!! ❤👏 #หยุดเผา #พบเห็นไฟป่าโทร1362 #อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์
โดยล่าสุดหมอกควันไฟป่าเชียงใหม่ขั้นวิกฤตฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐานล้มป่วยเฉลี่ยวันละ 1.5 พันราย
สถานการณ์หมอกควันในจังหวัดเชียงใหม่หลายพื้นที่เริ่มวิกฤต โดยเบื้องต้นพบว่ามีปริมาณฝุ่นละอองในอากาศสะสมติดต่อกันหลายสัปดาห์ นายวัฒนา กาญจนกามล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ปัจจุบันตั้งแต่ต้นเดือนมี.ค. จนถึงปัจจุบันมีผู้ป่วยแล้วกว่า 18,406 ราย ขณะที่แต่ละเดือนจะมีผู้ป่วยเฉลี่ยเดือนละ 2 หมื่นราย
โดยแต่ละวันจะมีผู้ป่วยเข้าทำการรักษาวันละ 1,500 คน ทั้งนี้สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ได้ประกาศเตือนให้กลุ่มผู้ป่วย โรคระบบทางเดินหายใจ โรคหอบหื่น โรคหลอดลมอักเสบ โรคผิวหนัง และโรคตาอักเสบ ได้ระมัดระวังฝุ่นละอองในอากาศที่จะกระทบต่อสุขภาพ อย่างไรก็หากค่าปริมาณฝุ่นละอองในอากาศเกิน 320 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร วอนให้ทางเทศบาลนครเชียงใหม่และหน่วยงานต่างๆได้จัดเตรียมโรงยิม หรือศูนย์ประชุมในการดูแลผู้ที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาหมอกควัน นอกจากนั้นขอให้มีการติดตั้งเครื่องพ่นละอองน้ำตามจุดต่างๆเพื่อบรรเทาปริมาณฝุ่นละอองในอากาศด้วย
แหล่งที่มา: ปชส.กรมอุทยานฯ