แ ค่ ม า ล า
เรื่องราวนี้ได้ผ่านมาหลายปีแล้ว แต่ผมยังไม่เคยลืมมันเลยตอนนั้นผมอยู่ในช่วงปิดเทอม พ่อกับแม่ไปต่างจังหวัด ผมต้องอยู่บ้านคนเดียว รู้สึกเบื่อๆ จึงนัดเพื่อนออกไปเที่ยวตอนกลางคืน
แต่ก่อนที่จะไปนั้นเหมือนมีลางมาบอกเหตุ เหตุเกิดกับแชมป์ เพื่อนคนหนึ่งของผม เราเดินเล่นกันอยู่ 4 คน แถวๆบ้าน คุยกันเล่นตามปกติ ผมรู้สึกว่าแชมป์เริ่มมีบางอย่างที่ผิดปกติ เดินช้าๆ ลูกตาสีดำสนิท ไม่มีแวว ขอบตาแดง หน้าหมองคล้ำ และดูคร่ำเครียด เหมือนคนอ่อนแรง ดูไม่เหมือนเพื่อนคนเดิมของผม ตอนแรกผมนึกว่าแชมป์คงไม่สบาย ผมจึงไม่คิดอะไรมาก
ขณะที่เราเดินผ่านหน้าวัด พระรูปหนึ่งเดินผ่าน ท่านทักเพื่อนผมว่า
"โยมคนนี้หมั่นทำบุญบ้างนะ"
แต่แชมป์ก็ไม่ได้สนใจ แล้วเราก็ชวนกันไปกินเหล้าที่ร้านเจ้าประจำ อยู่ๆแชมป์ก็พูดขึ้นมาว่า
"อากาศก็ไม่ร้อนแต่ทำไมค่าร้อนเหมือนคนเอาไฟมาเผาเลย"
ผมคิดว่าแชมป์คงเริ่มเมา จึงรีบชวนกันกลับไปกินเหล้าที่บ้านผมต่อ เพราะถ้าเมาจะได้หลับได้เลย
สักพักออกจากร้าน ขี่มอเตอร์ไซค์มาเรื่อยๆ แชมป์เรียกผมให้จอดรถ
"กล้า เดี๋ยวข้าจะแวะไปบอกแม่หน่อยว่าคืนนี้จะไม่กลับบ้าน"
ผมเริ่มเอะใจเพราะถ้าปกติแชมป์ไปเที่ยวกลางคืนก็จะนอนบ้านเพื่อนเป็นประจำไม่เคยบอกแม่สักทีกลับไปให้แม่เห็นว่าเช้าวันรุ่งขึ้นทุกที
แชมป์เลี้ยวรถกลับบ้าน พร้อมทั้งตะโกนว่าเดี๋ยวตามไปให้ล่วงหน้าไปก่อน
"รีบๆ ตามมาล่ะ" ผมบอก
พอผมไปถึงบ้านก็นั่งดื่มเหล้า ดูทีวีไปพลางๆ รอเกือบๆ 2-3 ชั่วโมง แชมป์ก็ยังไม่มาสักที ผมเริ่มเป็นห่วงแชมป์เพราะเราเพิ่งดื่มกันมาก่อนแล้ว ผมขี่มอเตอร์ไซค์ออกไปตามก็ไม่เจอ จึงตัดสินใจไปที่บ้านแชมป์ พอไปถึงเห็นญาติๆของแชมป์หน้าเศร้าบางคนก็ร้องไห้ พอถามว่าเป็นอะไรกัน ก็ได้คำตอบว่าแชมป์ขี่รถมอเตอร์ไซค์ไปชนกับสิบล้อเสียชีวิตคาที่!
สภาพศพของแชมป์คือ คอหัก แขนขาหัก ไส้ทะลัก เลือดไหลท่วมตัว เละดูไม่ได้เลย
วันแรกของงานศพแชมป์ ผมไม่ได้ไปรดน้ำศพเพราะยังทำใจไม่ได้ คืนที่ 2 พอเริ่มทำใจได้บ้าง ผมจึงไปฟังสวดเพื่อนรักของผม
บรรดาญาติๆ ของแชมป์ต่างไม่ค่อยพอใจผมนัก คิดว่าสาเหตุที่แชมป์ตายเพราะผมมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย เพราะถ้าผมไม่ชวนแชมป์ออกไปเที่ยว ก็คงจะไม่เกิดอุบัติเหตุแบบนี้ขึ้น
ผมไม่ได้โต้ตอบอะไร เพราะในใจก็รู้สึกผิด และเสียใจกับการจากไปของเพื่อนไม่ต่างกัน พอฟังพระสวดจบแล้ว ผมก็กลับบ้าน
ขณะที่เดินออกมาหน้าวัด ลมก็พัดเหมือนมีคนหายใจผ่านหน้าไป ผมขนลุกไปทั้งตัว รีบเดินกลับบ้าน ระหว่างทางผมได้กลิ่นคาวเลือด ลอยมาเตะจมูก
ผมมองตรงไปข้างหน้า เห็นคนจูงรถมอเตอร์ไซค์อยู่ข้างหน้า ผมพยายามไม่คิดว่าเป็นแชมป์ เพราะตอนเสียชีวิตแชมป์สวมเสื้อยืดสีขาว กางเกงยีนส์ แต่ที่ผมเห็นเป็นเสื้อเชิ้ตสีแดง
ตอนนั้นอากาศเย็นมาก หมาก็หอนได้หอนดี ผมเริ่มกลัว ใจผมเองยังอยากรู้ว่าใครเป็นคนจูงรถคันนั้น จึงเดินตามไปห่างๆผมตามเข้าไปเรื่อยๆ แบบกล้าๆ กลัวๆ จนกระทั่งเขาจึงรถผ่านหน้าบ้านผมแล้วจอดรถมองเข้าไปข้างในเหมือนมองหาคนรู้จัก แล้วเขาก็ทรุดลงนั่งร้องไห้สะอื้น
ผมรีบเดินเพื่อให้ถึงตัวเขาเร็วที่สุด แต่แปลกมากที่ผมเดินไม่ทันเขา และเขาก็ไม่หันมามองผมเลย ทั้งๆที่เขาน่าจะรู้ว่ามีคนเดินตามหลังเขามา ผมจึงตัดสินใจตะโกนถาม
"พี่ครับ พี่จะไปไหน"
เขาก็ไม่สนใจหรือว่าเขาไม่ได้ยินที่ผมพูดก็ไม่รู้ ผมจึงตะโกนไปอีกครั้ง แต่เขาก็เงียบไม่ส่งเสียงใดๆตอบกลับมา ผมจึงตัดสินใจวิ่งตามไปให้ทัน วิ่งหันหลังดูทางที่ตัวเองเดินมา ก็คิดว่าจะต้องกลับบ้านคนเดียว ดึกมากไปกว่านี้ไม่ค่อยจะดีนัก ผมเริ่มกลัวขึ้นมาเองอีกครั้งเพราะหันกลับไปอีกที
เขาก็หายไปแล้ว!!!
หมาหบุดหหอนทันที ผมงงว่าเขาขายไปตอนไหน เพราะทางที่เขาเดินเป็นทางตรง วินาทีนั้นผมไม่คิดอะไรแล้ว วิ่งกลับบ้านทันที
คืนต่อมาผมไม่ได้ไปงานศพ เพราะญาติๆแชมป์ไม่ค่อยชอบหน้าผม ผมจึงออกไปหาเหล้ากินแก้เซ็งร ะหว่างทางกลับบ้านขี่รถมาเรื่อยๆ พอใกล้จะถึงบ้าน หมาเริ่มหอนและได้กลิ่นคาวเลือดเหมือนเมื่อวาน พอผมมองจ้องไปก็เห็นผู้ชายคนที่ใส่เสื้อเชิ้ตสีแดงคนเดิมยืนอยู่หน้าบ้านผม
ผมชะลอรถตาจ้องไปที่ผู้ชายคนนั้นเขม็ง พอใกล้จะถึงมีลมพัดแรงจนฝุ่นเข้าตา ผมหลับตาแล้วจึงเบรกกะทันหัน พอลืมตาเขาก็หายไปเหมือนเดิม
หน้าบ้านผมเป็นพื้นทราย เพราะฉะนั้นต้องมีรอยเท้าคนและรอยของรถมอเตอร์ไซค์แน่นอน แต่ผมมองไม่เห็นรอยเท้านั้นเลย
วันต่อมาเป็นพิธีเผาศพของแชมป์ ผมไปร่วมไว้อาลัยเป็นครั้งสุดท้าย ผมยืนอยู่ตอนที่เขาเปิดโรงให้ดูศพแชมป์เป็นครั้งสุดท้าย
ผมตะลึงตาค้าง เพราะชุดที่แชมป์ใส่นั้น คือเสื้อเชิ้ตสีแดง ตัวเดียวกับที่ผู้ชายคนนั้นใส่แสดงว่าผู้ชายคนนั้นคงเป็นแชมป์เพื่อนรักของผมแน่ๆ
หลังจากพิธีเผาศพของแชมป์ ผมเจอกับพระที่ทักแชทก่อนตาย ผมจึงเล่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นให้ท่านฟัง
ท่านบอกว่า แชมป์ตั้งใจมาให้ผมเห็น เขายังรู้สึกตัวทุกอย่าง เขาอยากพูด อยากคุยกับผมเหมือนปกติ แต่กลัวว่าผมจะตกใจ เพราะบางคนถ้าเจอเรื่องแบบนี้อาจจะเป็นบ้าไปเลยก็มี ที่เขาจูงรถไปตามถนนก็เพื่อมาเก็บรอยเท้า เขาจะเดินไปเรื่อยๆ จนหมดที่จะไป และที่ผมเดินตามเขาไม่ทันก็เพราะเขาลอยตามลม จุดประสงค์ที่ฉันทำแบบนั้นแค่ต้องการมาลาผมเท่านั้นเอง
ท่านยังเล่าให้ผมฟังอีกว่า ท่านเห็นแชมป์มาร้องให้ที่หน้าโลงศพทุกคืน ท่านเห็นจึงบอกกับเขาไปว่าไม่ต้องเสียใจ คนเราเกิดมาก็ต้องมีตายทุกคน
ทุกๆปีที่ครบรอบวันตายของแชมป์ถึงจะทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับแชมป์ เพราะผมอยากให้เขาจากไปอย่างสงบสุขไม่ต้องห่วงผมอีกเพราะเขาได้มาปรากฏตัวร่ำลาผมเรียบร้อยแล้ว
ปล.เรื่องเล่าเรื่องนี้ได้นำมาจากหนังสือ โรงเรียนเฮี้ยน : เพชรสีน้ำเงิน
แหล่งที่มา: โรงเรียนเฮี้ยน: เพชรสีน้ำเงิน