วิธีการ ดูว่าผู้ชายกำลังหลอกใช้คุณเพื่อเซ็กส์หรือไม่

3 เมษายน 2562 (12:48) แปลโดย รักสนุก

วิธีที่เขาติดต่อคุณ

1

เขาติดต่อคุณเฉพาะเวลากลางคืน. หากผู้ชายของคุณโทรหาคุณเฉพาะหลังพระอาทิตย์ตกและดาวทะยานขึ้นฟ้านั้นไม่ได้หมายความว่าเขาอยากนอนดูดาวกับคุณแต่อาจจะแปลว่าเขาอยากนอนกับคุณ หากเขาไม่เคยโทรหาคุณก่อนพระอาทิตย์ตกดินก็อาจเป็นเพราะเขามีแต่เรื่องเซ็กส์อยู่ในหัวนอกจากว่าเขาเป็นหมอที่คิวแน่น
2

เขาติดต่อคุณเฉพาะวันธรรมดา. หากเขาโทรหาคุณช่วงคืนวันธรรมดาแต่คุณไม่เคยได้ยินจากเขาช่วงสุดสัปดาห์ก็อาจเป็นเพราะเขาเก็บช่วงสุดสัปดาห์เอาไว้สำหรับสาวที่คัดเกรดแล้วหรือไม่ก็ผู้หญิงที่เขาคิดว่าควรคู่กับการเดท หากเขาเงียบหายไประหว่างวันศุกร์หรือเสาร์และโผล่มาอีกทีตอนวันอังคารก็แปลว่าเขาหวังว่าคุณจะต้อนรับเขาที่ระหว่างขาด้วยเช่นกัน ^[1]
3

เขาติดต่อคุณเป็นระยะๆ. หากเขาติดต่อมาสัปดาห์ละครั้งหรือสองครั้งและไม่ใช่เพื่อนัดไปเดทแต่เพื่อที่จะมาหาคุณทันทีก็อาจเป็นเพราะเขาต้องการมีเซ็กส์กับคุณ หากคุณติดต่อเขาไม่เคยได้เวลาที่คุณอยากรู้ว่าห้าวันที่ผ่านมาเขาเป็นอย่างไรแต่จู่ๆ เขาติดต่อมาตอนเที่ยงคืนของวันพุธก็อาจเป็นเพราะเขาต้องการปฏิบัติการในช่วงดึก
4

เขาไม่ตอบข้อความยกเว้นว่าคุณอยากนอนกับเขา. หากคุณส่งข้อความถามเขาว่า “วันนี้เป็นอย่างไรบ้าง?” หรือ “สอบเป็นอย่างไรบ้าง” และคุณก็ไม่ได้ยินอะไรกลับมานอกจากเสียงจิ้งหรีดในป่าหลังบ้านก็แปลว่าเขาไม่อยากคุยด้วย แต่ถ้าคุณส่งข้อความไปว่า “ฉันอยากเจอคุณ” ในตอนกลางคืนและเขารีบมาหาคุณก็แปลว่าคุณกำลังมีปัญหาแล้ว^[2]
5

เขายุ่งตลอดเวลา. การมีตารางที่แน่นเป็นเรื่องธรรมดาแต่หากเขาไม่เคยมีเวลาสำหรับมื้อเย็นหรือไปดูหนังแต่มีเวลาขึ้นเตียงกับคุณก็แปลว่าเขาไม่ได้ยุ่งจริงๆ หากคุณรู้ว่าเขามีเวลาไปกับเพื่อน ไปดูกีฬาและมีเวลานั่งดูทีวีกับน้องชายหลายๆ ชั่วโมงแต่เขายุ่งเกินกว่าจะไปดื่มกาแฟช่วงบ่ายวันอาทิตย์กับคุณก็แปลว่าเขาไม่อยากมีเวลาไปกับคุณ
6

เขาไม่เคยชวนคุณไปไหนเลย. หากเขาโทรมาเพื่ออยากเจอคุณที่ห้องของคุณหรือนั่งคุยบนโซฟาในอพาร์ทเม้นต์เน่าๆ ของเขาก็แปลว่าเขาแค่อยากจะคุยกับร่างกายของคุณเท่านั้น แน่นอนว่าการพาไปทานมื้อเย็นหรือไปดื่มนานทีปีหนก็อาจเป็นวิธีในการชดเชยของเขาแต่หากคุณรู้สึกว่าคุณไม่เคยไปเผชิญโลกภายนอกกับเขาเลยก็แปลว่าเขาไม่อยากให้คุณเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันด้วยเหตุผลใดเหตุผลหนึ่ง
สิ่งที่คุณทำด้วยกัน
1. 1
  
  คุณทั้งคู่ไม่เคยพูดเรื่องชีวิตส่วนตัว. หากสิ่งที่คุณพูดถึงมีแต่เรื่องใต้สะดือหรือเรื่องที่ว่าคุณทั้งคู่อยากได้กันมากแค่ไหน ความสัมพันธ์ของคุณก็อาจมีแต่เซ็กส์ แน่นอนว่าหลายๆ คู่ก็เริ่มแบบนั้น เช่น คุณหมกมุ่นในกันและกัน คุณมีเซ็กส์ตลอดเวลา คุณพลาดคำเชิญในการมีเซ็กส์ เป็นต้น แต่หากคบกันไปสักพักและยังมีแต่เรื่องของเซ็กส์ เซ็กส์และก็เซ็กส์ ความสัมพันธ์ของคุณก็อาจจะมีแค่นั้น หรือคุณเล่ารายละเอียดเกี่ยวกับอดีตหรือความสัมพันธ์ครั้งก่อนๆ ของคุณอยู่ฝ่ายเดียวและเขาไม่เคยปริปากพูดเรื่องของเขาเลยแต่เขาชอบสืบรายละเอียดต่างๆ ของคุณก็จงระวังไว้ว่าเขาอาจจะกำลังหลอกคุณ
  - ดูปฏิกิริยาของเขาเวลาที่คุณถามว่าเขาคิด รู้สึกหรือสงสัยอย่างไร หากเขาถอยห่างทันทีแสดงว่าคุณมีปัญหาแล้ว
2. 2
  
  สิ่งเดียวที่คุณทำคือมีเซ็กส์. คุณใช้เวลาจำนวนมากในห้องนอนหรือไม่? คุณมีเซ็กส์มากเท่าๆกับกิจกรรมอื่นๆ ที่คุณทำร่วมกันหรือมันคือกิจกรรมหลัก (และกิจกรรมเดียว) หรือเปล่า? หากคุณมีเซ็กส์มากกว่าทำกิจกรรมอื่นๆ ก็อาจแปลว่าเขาแค่สนใจที่จะนอนกับคุณ เขาขอให้คุณทำกิจกรรมร่วมเพศอื่นๆ ที่คุณไม่สะดวกใจหรือไม่?
  - แม้เซ็กส์จะไม่ใช่สิ่งเดียวที่คุณทำด้วยกันแต่หากคุณรู้สึกแบบนั้นก็ให้ทำตามสิ่งที่ตัวเองรู้สึก
3. 3
  
  เขาจากไปทันทีหลังจากคุณมีอะไรกันเสร็จ. หรือเขาไม่ค่อยติดต่อหลังจากที่คุณมีอะไรกันแล้ว เขาไม่ค่อยค้างคืนกับคุณหรือเปล่า? ถ้าใช่ก็แปลว่าคุณคือคู่นอนชั่วคราวแต่ไม่ใช่คู่รักของเขา หากเขาจูบคุณแบบขอไปทีและเริ่มใส่เสื้อผ้าเตรียมกลับบ้านก็เพราะว่าเขาไม่อยากให้มันรู้สึกเหมือนเป็นความสัมพันธ์แบบจริงจังและมันอาจแย่ไปกว่านั้นหากเขามีข้ออ้างในการจากไปหรือไม่ติดต่อมาหรือที่เขายุ่งตลอดเวลา
  - แน่นอนว่าเขาอาจจะบอกคุณว่าเขาต้องตื่นเช้ามากแต่แล้วทำไมเขาถึงรอจนตีหนึ่งจึงค่อยมาโผล่ที่บ้านของคุณล่ะ?
4. 4
  
  เขาไม่เคยจูบแบบไม่ต้องมีเซ็กส์ตามมา. ในความสัมพันธ์ส่วนใหญ่ผู้คนจูบเพื่อแสดงความรัก ความผูกพันและเพื่อความใกล้ชิดในแบบที่น่าพิสมัย คุณสามารถจูบเมื่อคุณเดินด้วยกัน เมื่อคุณอยู่ในบาร์มืดๆ หรือในช่วงเร่งรีบตอนเช้าวันจันทร์ หากทุกครั้งที่คุณจูบผู้ชายของคุณและเขาเริ่มคลำหาส่วนสงวนนั้นๆ ของคุณก็อาจเป็นเพราะเขาคิดว่าเขาควรจูบเฉพาะเวลาที่อยากมีเซ็กส์กับคุณ
  - สำรวจระดับความชอบของเขา เขาเคยอยากโอบกอดคุณโดยไม่ต้องมีเซ็กส์หรือไม่? หากไม่ก็แปลว่าเขาต้องการแค่สิ่งเดียวจากคุณ
5. 5
  
  คุณไม่เคยไปเที่ยวกับเพื่อนๆ ของเขา. คุณเดทกันมาหลายเดือนแต่คุณไม่เคยเจอเพื่อนของเขาสักคนเดียวหรือไม่? เขาไปเที่ยวกับเพื่อนโดยไม่มีคุณทุกครั้งและก็ไม่เคยชวนคุณไปด้วยหรือเปล่า? นั่นอาจเป็นเพราะเขาอายที่จะเอาคุณไปด้วยหรือเขาไม่อยากทุ่มเทให้กับความสัมพันธ์ในครั้งนี้มากไปหรือไม่ก็เป็นเพราะมีผู้หญิงอีกหลายคนไปด้วยและเขาไม่อยากให้คุณเจอ^[3]
วิธีการ3
สิ่งที่เขาพูด
1. 1
  
  เขาไม่เคยบอกเรื่องส่วนตัวกับคุณ. ผู้ชายที่คบผู้หญิงเพื่อมีเซ็กส์มักให้ข้อมูลเพียงเล็กน้อยเกี่ยวกับตัวของเขาหรือไม่ให้เลย คุณมักจะรู้เรื่องของเขาจากเพื่อนๆ การสังเกตส่วนตัว บทสนทนาทั่วไป การกระทำในอดีตหรือเขาเล่าเรื่องส่วนตัวของเขาให้คุณฟังแบบไม่ต้องรอให้ถาม? สิ่งนี้สามารถบอกได้ทันทีเพราะฉะนั้นคุณควรไตร่ตรองให้ดีๆ
2. 2
  
  เขาเบื่อเวลาที่คุณเล่าเรื่องของคุณให้เขาฟัง. เขาเบื่อง่ายเวลาที่คุณเล่าเรื่องงาน งานอดิเรก กิจกรรมหรือกิจวัตรประจำวันต่างๆหรือเปล่า? เขาพยายามตัดบทสนทนาและหันไปที่ “การคุยกันบนเตียง” หรือไม่? หากใช่ก็แปลว่าเขาอาจต้องการเว้นความผูกพันทางอารมณ์ที่คนคบกันควรจะมีเพื่อที่เขาจะได้หลอกใช้คุณโดยไม่รู้สึกผิด เขาอาจทำตัวเหมือนที่ปรึกษาปัญหาของคุณแต่ไม่เคยปริปากเรื่องส่วนตัวของเขาเพื่อที่คุณจะไม่มีส่วนในชีวิตของเขา
3. 3
  
  เขาไม่ค่อยแคร์ความรู้สึกของคุณ. เขาไม่เคยถามว่าคุณไม่สบายใจ วันนี้เป็นอย่างไรหรือทำไมคุณถึงน้ำตาคลอใช่มั้ย? หากเขาเป็นภูมิแพ้กับอารมณ์ของคุณก็อาจจะแปลว่าเขาไม่แคร์คุณเท่าไหร่ ไม่ใช่เพราะเขาขี้อายเกินไปหรือรู้สึกอึดอัดที่ต้องช่วยคุณแก้ปัญหาแต่อย่างใด หากเขาคบคุณแค่เพราะต้องการมีเซ็กส์ความรู้สึกต่างๆ ของคุณก็จะไม่มีผลอะไรกับเขาทั้งสิ้น
4. 4
  
  เขาบอกคุณว่า “เขาไม่อยากได้แฟน”. คำพูดนี้อาจจะฟังดูไร้สมองแต่สาวๆ หลายคนก็เลือกที่จะมองข้ามความจริงแม้จะเคยได้ยินคำพูดนี้ก็ตาม เขาอาจจะจริงจังเวลาเขาบอกคุณว่าเขาต้องการแค่คบเล่นๆ เขาไม่มีเวลาสำหรับแฟนหรือเขาไม่เหมาะกับการมีแฟน คุณอาจจะทำเป็นหูทวนลมและคิดว่าเขาแค่เล่นตัวหรือคิดว่าคุณจะสามารถเปลี่ยนเขาได้แต่หากเขาเจาะจงว่าเขาไม่ต้องการอะไรมากไปกว่าเซ็กส์ คุณก็ควรทบทวน "ความสัมพันธ์" ของคุณใหม่แล้วล่ะ
5. 5
  
  เขาไม่เคยพูดถึงเรื่องของอนาคตกับคุณ. คุณเดทกันมาหลายเดือนแล้วแต่เขาไม่เคยพูดว่าคุณกับเขาจะทำอะไรต่อไปในเดือนหน้าหรือเปล่า? คุณเดทกันมาเป็นปีแต่ไม่เคยตัดสินใจคบกันจริงจังหรือเปล่า? ถ้าใช่ก็แปลว่าเขาอาจจะเห็นคุณเป็นของชั่วคราวและไม่พร้อมที่จะเป็นแฟนของคุณ
6. 6
  
  เขาพูดถึงแต่เรื่องเซ็กส์. เขาชอบพูดถึงความรู้สึกของเขาหรือไม่? เขาพูดถึงอนาคตของคุณทั้งสองหรือเปล่า? หรือมีแต่คุณที่พูดอยู่ฝ่ายเดียว? เขาสนใจแต่ว่าคุณซื้อชุดชั้นในไร้เป้ามาใหม่หรือไปร้านขายยาเพื่อเตรียมอุปกรณ์แล้วหรือยังใช่มั้ย? หรือเขาสนใจว่าคุณอยากลองท่าร่วมเพศท่าใหม่หรือเปล่า?
วิธีการ4

สัญญาณอื่นๆ
1. 1
  
  มือถือของเขาส่งเสียงตลอดเวลา. หากเขามาหาคุณและมือถือของเขาส่งเสียงตลอดเวลาและเขาชอบมองและกดปิดหน้าจอก็อาจจะเป็นเพราะมีสาวๆ โทรหาเขาตลอด 24 ชั่วโมง หากเขาส่งข้อความทันทีที่คุณเดินออกจากห้องและเก็บมือถือทันทีที่คุณเดินมาก็เป็นไปได้ว่าคุณไม่ใช่ผู้หญิงคนเดียวในชีวิตของเขา และหากเขาไม่เคยทิ้งมือถือไว้ห่างตัวแม้วินาทีเดียวก็อาจจะเป็นเพราะเขาไม่อยากให้คุณเห็นข้อความหวานๆ จากสาวๆ คนอื่นของเขา
2. 2
  
  สำรวจสาวๆ ของเขาบนเฟสบุ๊ค. หากคุณเป็นเพื่อนกับเขาบนเฟสบุ๊คซึ่งคุณก็น่าจะเป็น คุณควรเปิดหน้าโปรไฟล์ของเขาและดูว่ามีสาวๆ จำนวนมากเขียนข้อความหาเขา เขาหยอกเล่นไปทั่วหรือมีรูปเขากำลังเมามายและล้อมรอบไปด้วยสาวๆ ที่แต่งตัววาบหวิว หากเป็นเช่นนั้นคุณก็รู้ได้ทันทีว่าเขาหายไปไหนช่วงที่คุณติดต่อเขาไม่ได้ห้าวันก่อนและนั่นไม่ใช่เพราะเขาทำงานหนักมากจนต้องปลดปล่อย เขาไม่มีกิจกรรมหรือไม่ค่อยเล่นเฟสบุ๊คแต่เขารู้ว่าคุณทำอะไรบ้างบนเฟสบุ๊คหรือเปล่า? สิ่งนี้จะให้คำตอบได้ดี
3. 3
  
  มีคนเตือนคุณ. มีผู้หญิงมาบอกให้คุณเลิกยุ่งกับเขาหรือไม่? เพื่อนของคุณเคยบอกว่าเขาเจ้าชู้และเขาจะไม่มีวันเป็นแฟนของคุณหรือเปล่า? สิ่งเหล่านี้คือสัญญาณเตือนอันตรายว่าคุณควรออกห่างจากเขาให้เร็วที่สุดยกเว้นว่าคุณคิดว่าคุณจะสามารถ “ปราบ” หรือ “เปลี่ยน” เขาได้ (ซึ่งเป็นไปไม่ได้) อย่าคิดว่าคุณแตกต่างจากคนอื่นหรือว่าคนอื่นไม่สามารถรู้ดีไปกว่าคุณ หากมีหลายๆ คนบอกคุณก็อาจจะเป็นเพราะพวกเขาพูดถูก
4. 4
  
  ความสัมพันธ์ของคุณไม่พัฒนาเลย. คุณเดทกันมาหกเดือนแต่ยังไม่เคยเจอเพื่อนของเขาเลย ไม่เคยคุยเรื่องอนาคต ไม่เคยไปช้อปปิ้งด้วยกัน ไม่เคยไปเที่ยวด้วยกันตอนกลางวันหรือทำสิ่งที่คนปกติทำเลยหรือไม่? มันไม่เป็นไรหากเขาใช้เวลาก่อนที่จะบอกว่าเขารักคุณแต่หากเขาไม่เคยพูดแม้กระทั่งว่าเขาชอบคุณมากแค่ไหนและมันก็เป็นเวลานานมาแล้วก็อาจเป็นเพราะเขาเห็นคุณเป็นแค่ของเล่น
5. 5
  
  ทำตามความรู้สึกของตัวเอง. ตื่นได้แล้ว! หากคุณเห็นว่ามันมีความเป็นไปได้แสดงว่าคุณเองก็รู้สึกถึงสิ่งที่พยายามจะเตือนคุณ มองไปรอบๆ และประเมินสถานการณ์ คุณรู้สึกอย่างไรบ้าง? คุณมีความสุขไหม? คุณพอใจกับความสัมพันธ์แบบนี้หรือเปล่า? คุณมองเห็นอนาคตกับผู้ชายคนนี้ไหม? หากคุณตอบว่าไม่เป็นส่วนใหญ่ก็แปลว่าคุณควรจะคิดทบทวนว่าความสัมพันธ์นี้คุ้มค่าการเสี่ยงหรือเปล่า
  - รู้ไหมว่ายังมีคนผู้ชายอีกเพียบเลย เดินหน้าต่อไปกับชีวิตและดึงความรักตัวเองกลับมาวางไว้ในที่ๆ มันควรจะอยู่ หยิบเอาความเคารพในตัวเองกลับมาและเก็บรักษาร่างกายของตัวเอง สุขภาพ อารมณ์และความรู้สึกเอาไว้