ทำไมเรียก “โรงพัก” แทน “สถานีตำรวจ”? ย้อนรอยที่มาจากยุครัชกาลที่ 4
ทำไมเรียก “โรงพัก” แทน “สถานีตำรวจ”? ย้อนรอยที่มาจากยุครัชกาลที่ 4
หลายคนคงเคยสงสัยว่าเหตุใดในภาษาปากของไทย เราจึงนิยมเรียก “สถานีตำรวจ” ว่า “โรงพัก” ทั้งที่ในเอกสารราชการและป้ายชื่ออย่างเป็นทางการนั้นใช้คำว่า “สถานีตำรวจ” มาโดยตลอด คำตอบของเรื่องนี้มีรากเหง้ามาจากประวัติศาสตร์ไทยในยุครัชกาลที่ 4 ซึ่งถือเป็นช่วงเริ่มต้นของการจัดตั้งกิจการตำรวจตามอย่างยุโรป
ในสมัยนั้น ตำรวจถูกเรียกว่า “พลตระเวน” มีหน้าที่เดินตรวจตราความสงบเรียบร้อยในเขตพระนคร เมื่อพลตระเวนเดินตรวจไปตามถนนหนทาง หากพบศาลาริมทางหรือต้นไม้ใหญ่ ก็มักใช้เป็นที่หยุดพัก บางครั้งเมื่อเกิดเหตุร้ายหรือสามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้ ก็จะพาผู้ต้องสงสัยมาพักรอบริเวณนั้นเพื่อรอการส่งตัวหรือสอบสวน
เมื่อเวลาผ่านไป ทางราชการจึงได้ก่อสร้างที่ทำการถาวรของพลตระเวนขึ้นในพื้นที่ที่เคยใช้เป็นที่พักเหล่านี้ ชาวบ้านซึ่งคุ้นชินกับการเห็นตำรวจหยุดพักในจุดเดิม ก็ยังคงเรียกที่ทำการใหม่ว่า “โรงพัก” ตามความเข้าใจเดิม แม้ในเวลาต่อมา “กรมพลตระเวน” จะถูกยกระดับขึ้นเป็น “กรมตำรวจ” และเปลี่ยนชื่ออย่างเป็นทางการเป็น “สถานีตำรวจ” แต่คำว่า “โรงพัก” ก็ยังติดปากคนไทยมาจนถึงปัจจุบัน
นอกจากนี้ คำว่า “ขึ้นโรงพัก” ที่เราได้ยินกันบ่อย ๆ ก็มีที่มาที่น่าสนใจเช่นกัน เนื่องจากในอดีตอาคารโรงพักนิยมสร้างเป็นแบบยกพื้นสูง เพื่อป้องกันน้ำท่วมหรือสัตว์ป่า เวลาจะเข้าไปต้องปีนขึ้นบันได จึงเกิดวลี “ขึ้นโรงพัก” ที่หมายถึงการไปยังสถานีตำรวจนั่นเอง
คำว่า “โรงพัก” จึงไม่ใช่แค่คำเรียกเล่นหรือภาษาปาก หากแต่สะท้อนถึงร่องรอยของประวัติศาสตร์การก่อตั้งและวิวัฒนาการของตำรวจไทยที่มีมาตั้งแต่กว่า 150 ปีก่อน
















