อดีตดารา “ยงยุทธิ์ งามศิลป์” ชีวิตพลิกผัน เลี้ยงดูคนที่รักจนป่วยหนัก เงิน 15 ล้าน เหลือเพียงเศษเหรียญในกระป๋อง
วันนี้ PPVT จะพาทุกคนมาเปิดเรื่องราวชีวิตของอดีตดารา “ยงยุทธิ์ งามศิลป์” ที่ชีวิตต้องพลิกผัน ต้องดิ้นรนต่อสู้ชีวิต ครั้งหนึ่งเขาเคยโลดแล่นในวงการบันเทิง แต่ปัจจุบันกลับต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก แผนที่คิดไว้ผิดไปหมด เริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยการต่อสู้ดิ้นรนเลี้ยงดูคนที่รักจนตัวเองล้มป่วย
ล่าสุดเพจช่วยเหลือทำความดีที่ชื่อ Poramet Misomphop ระบุข้อมูลไว้ว่า…”ผมท้อ ผมต้องสู้ ตายไม่ได้ผมเหลือพ่อเพียงคนเดียวถ้าผมตายแล้วใครจะดูแลพ่อ เงิน 15 ล้าน เหลือเพียงเศษเหรียญในกระป๋องบางสิ่งที่เห็นอาจจะไม่เป็นอย่างที่คิดครับน้องเมศ”
ถ้าเกิดยืนอยู่นอกบ้านแล้วมองเข้าไปในบ้านจะเห็นบ้านหลังนี้ปกคลุมด้วยต้นไม้รก เศษใบไม้ร่วงหล่นบนพื้น เต็มไปหมดสภาพบ้านคล้ายๆ จะไม่มีคนอยู่ แต่พอลองเดินเข้าไปในบ้าน จะเห็นผู้ชายวัยกลางคนยืนเคียงข้างก้มๆ เงยๆ ข้างเตียงผู้ป่วยนั่นคือนาย ยงยุทธ์ งามศิลป์ วัย 51 ปี อดีตนักแสดงค่ายใหญ่แห่งหนึ่ง
เคยเล่นหนัง เรื่อง มหัศจรรย์วันเสาร์ ตอน เกมส์สยอง ต่อจากนั้นมาเล่น ละครเรื่อง เจ้าสาวของอานนท์ต่อด้วยมารับบทเป็นตัวประกอบ หนังเรื่อง ทั้งดวงใจให้เธอหมดเลยอีกทั้งยังรับงานเดินแบบ ถ่ายแบบ
ย้อนกลับไปในอดีต “มันคงเป็นมรสุมพายุชีวิต ของผม” พี่ยงยุทธ์ เล่าให้ฟังว่า… คุณพ่อของเขาเดินทางมาจากเมืองจีนด้วยเรือสำเภา และได้มาพบรักกับแม่ที่ย่านสามย่านจึงใช้ชีวิตร่วมกันและคุณพ่อเป็นผู้ร่วมบุกเบิก มูลนิธิแห่งหนึ่งคอยช่วยเหลือผู้คนอย่างต่อเนื่อง
แต่หลังจากนั้นมีเหตุจำเป็นต้องย้ายที่อยู่เพราะบ้านโดนเวรคืน แม่จึงไปซื้อทาวน์เฮ้าเล็กๆ ตอนผมโตขึ้น ก็เข้าเรียนที่ ม.รามคำแหง ได้มีโอกาสเล่นหนัง เล่นละคร ถ่ายแบบ เดินแบบ โดยที่ไม่รู้เลยว่า ชีวิตหลังจากนี้จะมีมรสุมพายุเข้ามา
ระหว่างนั้นผมคิดว่า ไม่อยากเป็นภาระของพ่อและแม่จึงพักการเรียนและทุ่มเทกับงาน แต่ระหว่างนั้นงานแสดงเริ่มลดลง แต่ผมก็ยังสู้โดยไปทำงานที่บริษัทขายรถ มีรถขับ ตำแหน่งผู้จัดการ หน้าที่การงานตอนนั้นเติบโต จนเค้าตัดสินใจมุ่งมั่นที่จะทำงานเพื่อเลี้ยงดูพ่อกับแม่และตัดสินใจแต่งงานสร้างครอบครัว
แต่แล้วมรสุมชีวิตเริ่มเข้ามาหาวิกฤติต้มยำกุ้งปี 40 ยอดขายไม่ได้ตามเป้าตำแหน่งผู้จัดการหายไป น้าสาวก็ล้มป่วย น้องชายของแม่ก็มาเสียชีวิตต้องแบ่งมรดกกันได้ 15 ล้าน เค้าจึงนำเงิน 15 ล้านมาซื้อบ้านที่ จ.นนทบุรี และพยายามก่อร่างสร้างตัวทำธุรกิจแต่สิ่งที่คิดก็ต้องล้มอย่างไม่เป็นท่ามรสุมที่เจอต่อมา…
ภรรยาขอหย่า สมบัติที่ร่วมกันหามาถูกแบ่งกรรมที่ถูกลิขิตยังไม่หมดแม่ของเค้าป่วยเป็นโรคเส้นเลือดหัวใจตีบ ผมหมดกับค่ารักษาแม่ไปหลายล้านแต่ก็ไม่สามารถเอาชนะความตายได้จนถึงปี 54 คุณแม่ต้องเสียชีวิต
หลังจากนั้น มรสุมพายุเข้ามาอีกผมต้องดูแลน้าสาวที่ป่วยเงินเป็นล้านก็เอาไม่อยู่ไม่สามารถรั้งชีวิตไว้ได้เงินที่มีเริ่มหมด จนตัวเองเริ่มท้อแต่ก็ไม่หมดความพยามยามหันหน้าสู้ โดยไปรับงานร้องเพลงตามร้านอาหาร และคนขับรถ แต่ทุกอย่างติดขัดในการทำงานไปหมด
มรสุมชีวิตพัดเข้ามาอีกครั้ง พ่อของเค้าเกิดล้มป่วยหนัก ตัวเองเงินก็แทบไม่มีคิดมากจนตัวเองล้มป่วยเป็นอัมพฤษครึ่งซีก ในเมื่อชีวิตนี้แทบไม่เหลืออะไรแล้วจึงจะคิดฆ่าตัวตาย แต่หันกลับไปมองพ่อที่นอนบนเตียง แล้วคิดคำที่สัญญากับแม่เอาไว้ว่า… จะดูแลป๋าให้ดีที่สุดทำให้ผมคิดได้ว่า “ผมท้อ ผมตายไม่ได้ ผมต้องสู้ ถ้าผมตายใครจะดูแลพ่อ”
ทุกวันนี้เงินที่มีหมดไปเหลือเพียงเศษเหรียญไม่กี่บาทในกระป๋อง ค่าน้ำ ค่าไฟ ก็มีเพื่อนบ้านช่วยเหลือผ้าอ้อมของพ่อ มีเพื่อนๆ ที่ทราบก็นำมาให้บ้าง จากที่เมศพูดคุยทำให้เมศรับรู้เลยว่า… ผู้ชายคนนี้พบเจออะไรมาบ้างชีวิตที่เคยมีทุกอย่างแต่เพราะสิ่งที่เค้าเจอมาทำให้ชีวิตต้องพลิกผันแบบนี้เค้าต้องดูแลคนทั้งบ้านมาโดยตลอด
4 ชีวิตที่ป่วยเค้าดูแลหมดเงินไปทั้งหมดสิ่งที่เมศเห็นอีกอย่างนึงผู้ชายคนนี้เค้าดูแลพ่อทุกวินาที ไม่เคยห่าง ตลอดเวลาที่ผ่านมาแทบจะไม่ออกไปไหนชีวิตนี้ได้แต่รอ รอให้คุณพ่อแข็งแรงขึ้นผู้ชายคนนี้ต้องเผชิญชีวิตต่อสู้ ดิ้นรนทุกอย่างเพื่อพ่อของเค้า จนมีคำพูดที่ว่า… “ผมท้อ ผมตายไม่ได้ ถ้าผมตาย ใครจะดูแลพ่อ น้องเมศ บางทีสิ่งที่เราเห็น อาจจะไม่เป็นอย่างที่คิด”
เบื้องต้นเมศได้นำเบาะลมไฟฟ้า อุปกรณ์ทำแผลให้กับทางพี่ยงยุทธ์เอาไว้ดูแลคุณพ่อหากเพื่อนๆ พี่ๆ ต้องการช่วยเหลือพี่ยงยุทธ์สามารถโอนเงินช่วยเหลือได้ที่บัญชีพี่ยงยุทธ์โดยตรงที่บัญชีธนาคาร กสิกรไทย ชื่อบัญชี นาย ยงยุทธ์ งามศิลป์ เลขที่บัญชี 053-2-28993-9
ล่าสุดเมื่อวันที่ 20 พ.ย. เฟซบุ๊ก Poramet Misomphop ได้โพสต์ข้อความระบุว่า… “เวลานี้คุณพ่อของพี่ ยงยุทธ์ ได้เสียชีวิตลงอย่างสงบ และสวดอภิธรรมศพที่วัด ลาดปลาดุก จังหวัด นนทบุรี”
อย่างไรก็ตามขอแสดงความเสียใจแก่ครอบครัวคุณยงยุทธ์ มา ณ ที่นี้ด้วย
แหล่งที่มา: https://www.saipim.com