ทรัพย์สินของสามผู้นำเผด็จการยุคก่อน 14 ตุลาคม 2516
ภายหลังเหตุการณ์การชุมนุมของนิสิตนักศึกษาและประชาชนในปีพ.ศ. 2516 ที่ขับไล่จอมพลถนอม กิตติขจรได้สำเร็จ และได้มีการแต่งตั้งนายสัญญา ธรรมศักดิ์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี จึงมีการสอบสวนทรัพย์สินของจอมพลถนอม จอมพลประภาส และพันเอกณรงค์เนื่องด้วยมีทรัพย์สินมากผิดปกติ ซึ่งต่อมานายสัญญา ธรรมศักดิ์นายกรัฐมนตรีได้ทำการยึดทรัพย์สินดังกล่าว โดยอาศัยธรรมนูญมาตรา 17 ออกคำสั่ง "คำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ สลร.40/2516" ลงวันที่ 30 ตุลาคม 2516 โดยให้ทรัพย์สินของ จอมพลถนอม และ ภริยา จอมพลประภาสและภริยา พ.อ.ณรงค์ และภริยา ทั้งหมดตกเป็นของรัฐทันทีในวันที่ออกคำสั่งนี้ โดยมีรายนามดังต่อไปนี้
เงินฝากในธนาคารทั้งหมดจากการยึดทรัพย์สินของครอบครัวจอมพลถนอมในปีพ.ศ.2516 มีจำนวนเงินกว่า 472 ล้านบาท แบ่งเป็น
-จอมพลถนอม กิตติขจร 24 ล้านบาท
- ท่านผู้หญิงจงกล กิตติขจร 98 ล้านบาท
- พ.อ.ณรงค์ กิตติขจร 32 ล้านบาท
- นางสุภาพร (จารุเสถียร) กิตติขจร 32 ล้านบาท
- และรวมทรัพย์สินอื่น ๆ อีก 700-800 ล้านบาท
นอกจากนี้ยังมีการเปิดเผยข้อมูลรายได้จากการเข้ารับตำแหน่งต่าง ๆ ในสถานที่ต่าง ๆ ของจอมพลประภาส จารุเสถียร ขณะที่ดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีดังนี้
- รายได้จากการเป็นกรรมการบริษัท 44 แห่ง
- ค่าวิ่งเต้นจากคนเข้าเมือง 1 แสนบาท
- หุ้นลมบริษัทสหสามัคคีสัตว์ 6 ล้านบาท
- โบนัสจากจากการไฟฟ้านครหลวงต่อเนื่อง 16 ปี รวม 50 ล้านบาท
- ซื้อที่ดินจากภริยาขายให้รัฐแพงกว่าปกติ 1 เท่า เพื่อสร้างสถานีตำรวจบางกอกน้อย