หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ไข้ไทฟอยด์

โพสท์โดย yellowgreen8404

ไทฟอยด์ หรือไข้ไทฟอยด์ หรือไข้รากสาดน้อยเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย Salmonella typhi(ซาโมเนลลา ไทฟี) ทางการกินทำให้เกิดอาการไข้สูง, ท้องร่วง, ปวดหัว, ปวดท้อง หากได้รับการรักษาอาการจะดีขึ้นภายใน 2อาทิตย์ แต่ถ้าไม่รักษาอาจมีอาการุนแรง และ 20%ของผู้ป่วยที่ไม่ได้รับการรักษาจะเสียชีวิตได้

การรักษา
การรักษาจะใช้ยาฆ่าเชื้อแบคทีเรียตัวใดตัวนึงดังต่อไปนี้(ขึ้นกับดุลยพินิจของแพทย์)
1.Co-trimoxazole ให้ครั้งละ 2เม็ดวันละ 2ครั้งหลังอาหารเช้าเย็น
2.Amoxicillin ให้กินครั้งละ 1 เม็ดขนาด 500mg วันละ 4ครั้ง หลังอาหาร เช้า กลางวัน เย็น ก่อนนอนโดยในเด็กจะให้ขนาดยา 50mg/น้ำหนักตัว 1กิโลกรัม นาน14 วัน
3.Ciprofloxacin ส่วนใหญ่แพทย์จะจ่ายเมื่อพบว่าเชื้อแบคทีเรียดื้อต่อยาอื่นๆ โดยให้ขนาดยา 500mg ให้กินครั้งละ 1เม็ดวันละ 2ครั้ง เช้า เย็น หลังอาหาร นาน 14 วัน
4.การให้สารน้ำเกลือแร่ และการรักษาตามอาการเช่นให้ยาลดไข้ พาราฯ และให้เกลือแร่แก่ผู้ที่มีอาการท้องร่วง
5.ในผู้ป่วยบางรายที่หายจากโรคแต่ยังมีเชื้อแบคทีเรียหลบอยู่ในร่างกาย จะกลายเป็นพาหะของโรคต้องใช้ยา ต่อเนื่องนาน 4สัปดาห์(ก่อนได้รับยาต้องตรวจทางห้องปฎิบัติการก่อน)

โรคนี้เป็นโรคที่รักษาให้หายได้ แต่หากไม่ได้รับการรักษาอาจทำให้เสียชีวิตได้โดยอัตราการเสียชีวิตสูงถึง 10-20% แต่หากรักษาจะมีอัตราการเสียชีวิตแค่ 1%

อาการของไข้ไทฟอยด์
อาการเด่นของโรคคือ
1.มีไข้ต่ำๆก่อนแล้วค่อยๆไต่ระดับ สูงขึ้นในแต่ละวันโดยเฉพาะเวลางกลางคืนไข้อาจจะสูงได้ถึง 40.5 องศาเซลเซียส และจะหายไปในตอนเช้า
2.ไข้จะคงที่เมื่อมีไข้ผ่านไป 7วันโดยจะเฉลี่ยนประมาณ 39-40องศาเซลเซียส
3.อาการจะค่อยเป็นค่อยไปเริ่มจากปวดเมื่อยตามตัว ปวดหัว เบื่ออาหาร เพลีย คล้ายไข้หวัดใหญ่ แต่ไม่มีน้ำมูก และอาจมีอาการไอเล็กน้อย 
4.บางรายอาจมีอาการท้องผูก แต่บางรายอาจท้องเสีย
5.อาเจียน
6.หากไม่ได้รับการรักษาอาการไข้อาจอยู่นานถึง 3สัปดาห์
7.อาจมีผื่นแดงเกิดบริเวณลำตัวเรียกว่า Rose spots มักพบหลังมีไข้ราวๆ 5วัน แต่ไม่ได้พบในทุกคน
8.อาจพบม้าม ตับโตได้หากเป็นเรื้อรัง

อาการแทรกซ้อนที่อาจเจอได้
หากปล่อยไว้ไม่ได้ทำการรักษามักพบอาการแทรกซ้อนได้หลายๆจุด โดยส่วนมากจะพบหลังสัปดาห์ที่ 3โดยมากพบอาการลำไส้อักเสบ ลำไส้เล็กทะลุ อุจจาระเป็นเลือดสดๆ หากไม่ทำการรักษาอาจส่งผลระยะยาวให้มีอาการทางระบบประสาทได้เช่นประสาทหลอน ซึมเศร้า

การแยกโรค
เนื่องจากไทยฟอยด์เป็นโรคนึงที่มีไข้สูงคล้ายกับหลายๆโรคเช่น ไข้หวัดใหญ่, ฉี่หนู, ไข้จับสั่น, แพทย์จึงจำเป็นต้องซักประวัติและตรวจทางห้องปฎิบัติการอย่างละเอียดเพื่อการรักษาที่แม่นยำ

การป้องกันโรค
1.กินอาหารที่สะอาด ปรุงสุกแล้ว
2.ดื่มน้ำสะอาดผ่านการต้ม การกลั่น ไม่ดื่มน้ำคลอง น้ำบ่อตื้นๆ น้ำแข็งที่ไม่สะอาด
3.ผักและผลไม้ควรล้างให้สะอาดเพราะอาจปนเปื้อนเชื้อจากปุ๋ยคอกได้ง่ายๆ
4.มีสุขลักษณะที่ดี เช่นการใช้ส้วมซึม, ไม่ทิ้งสิ่งปฎิกูลลงแหล่งน้ำสาธารณะ
5.การฉีดวัคซีนในบุคคลที่มีความเสี่ยง เช่นบุคคลากรทางการแพทย์, นักวิจัยที่ทำงานกับเชื้อ Salmonela typhi หรือ คนที่เดินทางไปประเทศที่มีโรคระบาด

Credit pic: www.thehealthsite.com
ขอบคุณข้อมูลจาก wiki

โพสท์โดย: yellowgreen8404
แหล่งที่มา:https://th.wikipedia.org/wiki/ไข้รากสาดน้อย
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
yellowgreen8404's profile


โพสท์โดย: yellowgreen8404
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
เด็กสาวสุดธรรมดา พบรักกับเจ้าชาย จากเบลเยียม
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
ไข่ไดโนเสาร์ผุด หลังเกิดเหตุน้ำท่วมหนักที่จีนความมักง่ายหรือเกมการเมือง ทิ้งยางรถยนต์ลงท่อ ทำให้น้ำท่วมกระบี่สิ่งที่ชาวอเมริกันได้เรียนรู้จักกับคนไทย และอาจจะเข้าใจผิดเกี่ยวกับนิสัยคนไทย เมื่อมาที่ประเทศไทย!สาวพนักงานปั๊ม ขับรถไล่ตามลุงเติมน้ำมันเเล้วชิ่ง ไกลถึง 3 จังหวัด สุดท้ายลุงไม่รอด งานนี้ไม่คุ้มค่าน้ำมัน...เเต่สะใจ
กระทู้อื่นๆในบอร์ด ถามตอบ พูดคุย
ไลน์กลุ่ม 🔞💯 มีค่าเข้า ไอดีไลน์ kyncpt990สนใจทักไลน์ kyncpt990 ไลน์กลุ่ม 🔞💯 ไม่เข้าฟรีนะคะไลน์กลุ่ม 💯🔞 มีค่าเข้าหกมีนา
ตั้งกระทู้ใหม่