"น้ำ"พระราชพิธีบรมราชาภิเษก
#น้ำที่จะใช้ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
"น้ำ" ที่ใช้ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
มีความหมายมงคลแฝงอยู่หลายประการ
สุดจะประมาณ
สำหรับ พระราชพิธีบรมราชาภิเษก
เสด็จขึ้นครองราชย์ อย่างเต็มพระราชอิสริยยศ
ถูกต้องตามโบราณราชเพณี
ไทยเราอาจได้รับอิทธิพลวัฒนธรรมมาจากอินเดียโบราณ ตามความเชื่ออันเกี่ยวข้องกับเทพเทวดาอย่างศาสนาฮินดู อีกทีหนึ่ง
โดย ตั้งแต่ในอดีตของไทย
พระราชพิธีบรมราชาภิเษก ประกอบขึ้นด้วยพิธีพรามณ์และพิธีพุทธ
เข้าด้วยกันได้อย่างลงตัว
สง่างาม สมศักดิ์ศรีของชาติ
"น้ำมงคล" ในการประกอบพระราชพิธี นี้ เรียกว่า
"น้ำอภิเษก" ซึ่งได้ผ่านพิธีบรวงสรวง
พลีกรรมตักขึ้น
จากสถานที่สำคัญหลายแห่งในราชอาณาจักร ซึ่งล้วนแล้วแต่มีบทบาทความสำคัญ รวมถึงมีประวัติที่มาเรื่องเล่า
เหนือธรรมชาติมากมาย อีกด้วย
ยังไม่แค่นั้น หลังจากตักแล้ว จะต้องมีพิธีสมโภชน์น้ำที่ตักนั้น ตาม พระอารามสำคัญของ จังหวัดต่างๆที่ตักน้ำ แล้วจึงอัญเชิญมายัง วัดพระแก้ว ที่ กทม.
เพื่อรอประกอบพิธีอีกครั้งหนึ่ง
ต่อหน้าพระแก้วมรกต
"น้ำ"นั้นคือ ธาตุสำคัญอันมีบทบาทต่อการดำรงค์ชีพของทุกสิ่งในโลก เกือบจะทุกเรื่อง ก็ว่าได้
เมื่อ กรุงรัตนโกสินทร์ เป็นราชธานี มาจนถึงยุคปัจจุบันนี้ ที่ท่านกำลังอ่านอยู่ขณะนี้
ก็เรียกว่า สมัยกรุงรัตนโกสินทร์
พระราชพิธีบรมราชาภิเษก ได้ประกอบด้วย
"น้ำอภิเษกศักดิ์สิทธิ์" จาก แม่น้ำ 5 สาย
ได้แก่ แม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำป่าสัก แม่น้ำบางปะกง แม่น้ำเพชรบุรี แม่น้ำราชบุรี
หรืออาจที่ใดตามแต่ทางราชการจะเห็นสมควร
ซึ่งเรียก น้ำสำคัญทั้ง 5 นี้ว่า "เบญจสุทธิคงคา"
ทั้งนี้ยังประกอบด้วยน้ำศักดิ์สิทธิ์ ลำดับรอง อาทิ
-ทะเลแก้วและสระแก้ว พิษณุโลก
-บ่อโชกชมภู่ น้ำบ่อแก้ว น้ำบ่อทอง สุโขทัย
-แม่น้ำนครชัยศรี นครปฐม
-บ่อปากนาคราช บ่อวัดหน้าพระลาน
บ่อวัดเสมาชัย
บ่อวัดเสมาเมือง บ่อวัดประตูขาว
ห้วยเขามหาชัย
จ.นครศรีธรรมราช
-บ่อน้ำทิพย์ หริภุญชัย ลำพูน
ซึ่งรวมความหมายถึง
เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา ลำปาง
-บ่อวัดพระธาตุพนม นครพนม
และอีกหลายจังหวัด ทั้ง 6 ภาคของไทย
เช่น
นครราชสีมา
อุบลราชธานี
ชัยนาท
เพชรบูรณ์
ฉะเชิงเทรา
ปราจีนบุรี
จันทบุรี
ปัตตานี
นราธิวาส
เป็นต้นอีกหลายจังหวัด ซึ่งขณะนี้
อยู่ในพิจารณา
อีกกว่า 100 แห่ง
ส่วน น้ำอภิเษก ใน
พระราชพิธีบรมราชภิเษก
ที่จะเกิดขึ้นนี้ อาจใช้ประกอบพระราชพิธี
ในวันที่ 5 พฤษภาคม พุทธศักราช 2562 นี้