บ้านแลกน้ำตาคนบ้า
บ้านที่แลกมาด้วยน้ำตา
ปี 2557 ได้กลับบ้านหลังจากไม่ได้กลับสองปีกว่า เพราะมัวแต่ใช้ชีวิตสนุกไปกับตลอดเวลาช่วงกลับบ้าน บ้านผมเป็นบ้านไม้ยกสูง ช่วงที่กลับบ้านผมไม่ได้ขึ้นไปนอนบนบ้านเลย นอนอยู่ใต้ต้นลำไยหน้าบ้านทะเลป่าเขาลำน้ำอ่างเขื่อน555 ได้กลับไปกราบแม่ กอดแม่ คุยกับแม่ นั่งทานข้าวแป๊บหนึ่ง555 เพราะก็ตามเคยเป็นคนสนุกก็ร่ำสุราเพราะเมาตลอด เมาแล้วนอน
ตื่นมาก็ชัดต่อ555 แต่ช่วงที่ดื่มอยู่ก็จะมีแม่นี่แหล่ะหาข้าวให้กิน หาของที่ผมชอบ แต่ก็จะมียกกับมาทานกันที่ใต้ต้นลำไย ก็ได้คุยกันบ้าง แต่หนักไปทางคุยไม่รู้เรื่อง555 ที่สำคัญตั้งแต่ถึงบ้านอาบน้ำแค่ตอนที่ถึงบ้าน ตอนนี้ผ่านมาหลายวันแล้วยังไม่ได้อาบน้ำ สรุปอาบน้ำตอนถึงบ้านกับตอนก่อนกลับเข้ากรุง แต่ผมเป็นคนชอบสังเกตทุกสิ่งอย่าง
ผมไม่ได้กลับบ้านสองปีกว่าสังเกตเห็นชัดเลยว่าแม่แก่ขึ้นมากจากที่ได้เจอกันล่าสุด สองปีกว่าแม่เราแก่ขึ้นขนาดนี้เลยเหรอ จำได้เช้าวันหนึ่งตื่นจากการเมา ตื่นเช้ามากเบียร์ในตู้เย็นหมดร้านค้าก็ยังไม่เปิดน่าจะตี 4 เกือบตี 5 เลยบุกเข้าห้องครัวก็ไม่ผิดหวัง555 มีทั้งเหล้าต้มและยาดองของแม่ เลยชัดแต่เช้ามืดแถมล้างถ้วย นึ่งข้าวเรียบร้อยแต่ก็ยังไม่อาบน้ำ
เนื้อตัวมันคงจะเหม็นมาก555 ข้าวไม่ทันสุกแม่ก็ตื่นลุกจากที่นอน ตอนนั้นยังไม่เมามากมายเลยคิดถึงเรื่องความแก่ของแม่ แม่จะจะเดินขึ้นลงบ้านสูงขนาดนี้อีกนานแค่ไหน เลยพูดกับแม่ว่าเรารื้อบ้านไหม แล้วปลูกบ้านชั้นเดียวติดดิน เพราะผมคิดว่าแม่แก่มากแล้ว แก่กว่านี้แม่จะเดินขึ้นลงไม่สะดวก คำพูดสวยสวยออกมาชะ555 แม่สวนมาคำหนึ่งแล้วจะเอาเงินไหนมาปลูกบ้าน5555 ไปไม่ถูกเลยครับกับคำพูดของแม่ จากเมาหน่อย ๆ ตอนนี้หายเมาเลย
เลยถามแม่ต่อว่า ”แล้วแม่มีเงินเท่าไร” แม่ตอบมาว่าประมาณ 7 หมื่น 555 หลักจากนั้นก็หันไปจัดเหล้าต้มกับยาดองต่อสว่างออกไปซื้อเบียร์มาดื่มต่อ555 แล้วก็ผ่านไปกับการกลับบ้านแล้วก็เข้ากรุง ผ่านไปเกือบเดือนผมเลยสั่งให้เพื่อนไปที่บ้านแล้วดูว่าจะใช้ดินมาถ่มที่บ้านกี่คันรถ555 แม่งงเลยสิ เลยโทรคุยกับแม่ว่าให้รื้อบ้านผมจะปลูกบ้านใหม่555 แม่ยังเชื่อใจ จะไหวเหรอ555 แล้วแม่ก็รื้อบ้าน แล้วไปอยู่บ้านตา ถมที่ทิ้งไว้ 8 เดือน ช่วง 8 เดือน
ผมหาสมัครงาน ได้งานแล้วก็เก็บเงิน ทำเรื่องกู้ธนาคาร จัดการอะไรยุ่งพอสมควร เงินแม่จาก 7 หมื่น ตอนนี้เป็น 110,000 บาท ผมเก็บได้อีก 160,000 บาท รวม 270,000 บาท ตัวเลขกลมกลมโดยประมาณ เขียนแบบออกมายอดบ้าน 1,197,000 บาท แถมยังได้วัสดุเกรดต่ำอีกจากวิศวกรที่เขียนแบบ สุดท้ายธนาคารอนุมัติ 689,000 บาท 555 เนื่องจากที่ดินบ้านผมราคาถูกด้วยเลยได้น้อย แต่ยังดีบ้านหลังเดิมเป็นไม้เลยเอามาใช้ได้เลยช่วยไปอีกเรื่อง
ส่วนคนงานผมจ้างรายวัน 250 บาท ใครอยากได้ 300 บาท ไปทำที่อื่น555 ส่วนช่างใหญ่ก็แฟนใหม่แม่เลยประหยัดไปได้เยอะเลยเพราะถ้าจ้างช่างคง มีเกิน 2 แสน พอสร้างเราก็ใช้ของดีคุณภาพ ต้องเสร็จภายใน 6 เดือน แถมคนที่มาเป็นคนงานหายากอีกเพราะเรากดค่าแรง ช่วง 6 เดือน ผมส่งให้แม่เดือน 18,000-20,000 บาท ธนาคารแบ่งจ่าย 4 งวด สำคัญคืองวดที่ 4 บ้านต้องเสร็จถึงจะได้เงินงวดสุดท้าย ปัญหาเยอะมากเงินไม่พอ เวลาก็จะไม่ทัน
ผมทำเรื่องกู้เงินอีก เรื่องเงินผ่านไป เหลือเรื่องเวลาถ้าส่งงานไม่ทัน 30 ธันวาคม คือจะเบิกเงินงวดสุดท้ายไม่ได้ นั่นคือเงินที่ไปกู้มาจะเป็นเรื่องที่จะก่อปัญหาตามหลัง ผมโทรคุยกับธนาคารที่ กทม. ว่าจะให้เจ้าหน้าที่ที่จังหวัดผมมาตรวจงานช้าที่สุดได้วันที่เท่าไร ก่อนนี้ธนาคารโทรมาตามผมแล้วว่าเวลาใกล้สิ้นสัญญา ธนาคารบอกว่า 25 ธันวาคม แล้ว 28-30 ถึงส่งเอกสารมาที่ กทม. ผมร้อนใจสุด ๆ
ตอนนั้น โทรไปที่บ้านเช้ากลางวันเย็นว่างานถึงไหนแล้ว 22 ธันวาคม โทรแจ้งธนาคารว่า 24 ธันวาคม ให้เจ้าหน้าที่มาตรวจ พอประสานงานกัน 24 -25 ธันวาคม เจ้าหน้าที่ไม่ว่างครับ คราวนี้หนักกว่าเดิมบอกว่าว่าง 23 ธันวาคม ช่วงบ่าย โทรกลับไปที่บ้านเลยบอก 11.00 น. วันที่ 23 ธันวาคม บ้านต้องเสร็จ
พอถึงเวลาเจ้าหน้าที่ธนาคารมาตรวจ งานเสร็จและผ่าน ต้องขอบคุณคนงานที่ทำจนดึกแทบไม่ได้นอน สียังไม่แห้งเลยก็ว่าได้ เจ้าหน้าที่ใจดีด้วยเลยผ่านไปด้วยดี ก่อนหน้านี้คุยกับแม่ว่า แม่ผมจะขึ้นบ้านใหม่วันที่ 1 มกราคม 2559 แม่ก็ตกลง หลายผ่านไปแล้วแม่ก็โทรมาบอกว่าวันที่ 1 มกราคม เป็นวันไม่ดี ไม่ให้จัดงาน ผมถามกลับใครบอก แม่ตอบพระ ผมพูดมันมีวันดีวันไม่ดีด้วยเหรอ แล้ววันดีคือวันไหน
พระนี่เป็นพระศาสนาพุทธไหม พระพุทธเจ้าเคยตรัสไหมว่าวันไหนดีวันไหนไม่ดี วันดีคือวันที่เราจะทำดี แล้วถ้ามันจริงพระที่บอกแม่มา พระเคยไปบอกญาติของพระไหมว่าให้กิจกรรมจัดงานวันดี เพราะถ้ามันจริงเขาคงรวยไปแล้ว เวลาจะทำเกษตรต้องไปถามพระไหมว่าวันไหนดี หรือว่าถ้าฝนพร้อมแล้วเราก็รีบปลูก จะทำดีต้องเลือกวันด้วยเหรอ
ฤกษ์ดีคือฤกษ์สะดวกนะ หรือแม่ไม่อยากให้ผมมางานขึ้นบ้านใหม่บอกเลยได้นะ เพราะผมทำงานมันหยุดสิ้นปีพอดีแล้วจะให้ผมหยุดกลางเดือนมกราคมอีกผมคงไม่สะดวก เลยบอกแม่ไปว่าถ้าไม่ขึ้นวันที่ 1 มกราคม 2559 ก็ไม่ต้องขึ้นอยู่มันแบบนั้นแหล่ะ เข้าใจนะ จบ ผมก็เลยลงใต้ไปพักสมอง แต่แล้วเรื่องที่ไม่คาดคิดก็เกินขึ้นเพื่อนโทรมาบอกว่าไม่มาขึ้นบ้านใหม่เหรอ
ขึ้นเลยตอนนั้น ลางานเลย เย็นนั้นนั่งรถทัวร์กลับบ้าน ถึงบ้านตอนเช้า กลางถนนและลานเต็มไปด้วยโต๊ะและเต็นท์ น้ำตาไหลเลยแบบไม่มีใครรักผมเลยใช่ไหม ไม่เข้าบ้านออกไปเบิกเงินมา 2 แสน กับกดบัตรเครดิตอีก 2 แสน เงิน 2 แสน พึ่งได้จากงวดบ้านงวดสุดท้ายว่าจะเอาไปปิดเงินกู้ ซื้อน้ำมัน 2 แกลลอน ไม่พูดคุยกับใครทั้งนั้น
มีคนถามนั่นนี่ กลับเช้านี้เหรอ เมื่อวานทำไมไม่มา ผมไม่ตอบ เปิดแกลลอนเอาน้ำมันราดบ้านเลย ลูกพี่ลูกน้องที่มาช่วยเก็บของที่งานตอนเช้าคงรู้ว่าผมจะทำอะไร เลยตะโกนว่าผมจะเผาบ้าน คนวิ่งมาห้ามผม ผมไม่สน จนพี่ชายมาล็อกคอผมไว้ไม่งั้นคงไม่เหลือ แล้วญาติก็มาพูดคุยถามว่าเกิดอะไรขึ้น
ผมเลยบอกว่าเรื่องขึ้นบ้านใหม่ แม่พูดขึ้นมาว่าก็พระบอกแล้วว่าวันไม่ดี ผมเลยส่วนไปทำไมแม่ไม่เชิญพระมาอยู่ที่บ้านเลยถ้าเชื่อพระมาก เงินบาทมีไหมที่พระเอามาช่วย ไม่แม่ก็ไปอยู่กับพระเลยเชื่อดีนัก ญาติพี่น้องของพระมีคนไหนรวยบ้างเห็นแต่ติดหนี้บ้านหน้าฝนแทบจะไม่ได้นอน ถ้าเขารู้วันดีเขาคงบอกให้ญาติเขาแล้วเจริญไปแล้ว แล้วผมก็เอาเงิน 4 แสนให้แม่ แล้วให้แม่ไปอยู่บ้านตา แล้วค่อยปลูกบ้านใหม่ถือว่าส่วนแรกแม่ช่วยจ่าย 110,000 บวกกับ ค่าไม้บ้านหลังเก่าบางส่วน ค่านั่นนี่ ผมจะยอมผ่อนเถ้าถ่านเอง
แม่เอาเงินไปถึงยังไงผมก็ไม่อยู่บ้านหลังนี้ หรือถ้าแม่จะอยู่ก็จ่ายเงินมา 3 แสน แล้วเอาบ้านไป แม่มีเงินไหม นั่งอยู่นี่ไงลูกชายแม่ (พี่ชาย) ลุง ป้า น้า อา ญาติ มาครบเลยตอนนี้ขอยืมสิ จะมีให้แม่ไหม ทุกคนเงียบ ผมต้องแลกอะไรมากมายกว่าจะได้บ้านนี้มาแต่แม่กลับทำให้มันเป็นแบบนี้ แม่พูดว่าไม่คิดว่าลูกจะขนาดนี้ ผมพูดทำไมแม่ไม่คิด แม่ก็รู้ว่าผมเป็นไงพุดจริงทำจริง แม่พูดจะให้แม่ทำไง ผมบอกแม่ก็หามา 3 แสน ไม่ได้ผมก็เผา ผมให้เวลา 1 เดือน แม่หาได้ไหม
แม่พูดทำไมถึงพูดไม่รู้เรื่องพูดไม่รู้เรื่องแบบนี้ ผมพูดรู้เรื่องแม่ต่างหากไม่ฟังไม่คิด แม่ควรจะรู้ว่าจะเกิดไรขึ้น ไม่มีใครเข้าข้างแม่เลยตอนนี้สงสารแม่นะแต่การยึดมั่นถือมันของผมมันมากกว่าสิ่งใด พี่ก็พูดว่าให้แม่อยู่ไปเถอะ ผมถามใครจะผ่อน ไอ้คนผ่อน แล้วมันขัดความรู้สึกมันทรมานนะ มีน้าพูดไม่รักแม่เหรอ รักส่วนรักแต่สิ่งที่แม่ขัดผมล่ะ ถ้าแม่รักผมแม่จะไม่ทำแบบนี้ ไม่พออีกไม่บอกผมสักคำว่าจะขึ้นบ้านใหม่ ถ้าเพื่อนไม่โทรบอกผมคงเป็นไอ้โง่ สมบัติผมไม่มีสักชิ้น ที่ดินผมไม่มี
ตั้งแต่พ่อตายแม่ก็ขายส่งพี่เรียนหมดผมไม่ได้อะไรเลยในส่วนที่เป็นของพ่อ อันนี้เป็นอีกเรื่องที่ทุกคนเงียบไม่กล้าพูด เพราะถ้าผมพูดออกมากระทบหลายคน 555 ผมยื่น 4 แสน ให้แล้วผมจะเผาบ้าน กับ ขอ 3 แสน แล้วเอาบ้านไป คุยกันอยู่นาน จนพี่ชายพูดว่าขอนะให้แม่อยู่เถอะแม่แก่แล้ว ผมร้องไห้หนักมาเพราะผมเป็นฝ่ายแพ้
แม่พูดถ้ามันทำให้ลูกเป้นขนาดนี้แม่จะไม่ทำ แล้วแม่ก็มากอดผม พี่มากอด ผมพูดที่สร้างบ้านก็เพราะรักแม่ แต่ผมไม่อยากให้ใครขัดใจผม เลยมีประโยคให้แม่ว่า แม่จะขัดใจคนทั้งโลกก็ขัดไปแต่อย่าขัดใจผม ทุกวันนี้กลับบ้านก็จะนอนใต้ต้นลำไย หรือกางเต็นท์ลานบ้าน ไม่ก็ธารน้ำข้างป่าช้า ไม่นอนในบ้านมันยังเป็นแผลทิ่มแทงความรู้สึก ตอนนี้ซื้อที่ไว้แล้วเตรียมปลูกกระต๊อบไว้กันแดดกันฝนพอ