หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม แต่งรูป คำคม Glitter สเปซ ไดอารี่ เกมถอดรหัสภาพ เกม วิดีโอ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

“เลือกเดินทางผิด แต่แม่ก็ยังซื้อข้าวมันไก่กับน้ำเป๊ปซี่ที่ชอบมาฝาก” สละอ่านสักนิด แล้วคุณจะรักแม่มากขึ้น

“เลือกเดินทางผิด แต่แม่ก็ยังซื้อข้าวมันไก่กับน้ำเป๊ปซี่ที่ชอบมาฝาก” สละอ่านสักนิด แล้วคุณจะรักแม่มากขึ้น

“แม่” คือ ผู้ที่มีพระคุณยิ่งใหญ่ไพศาล หากวันที่ลูกหลงเดินทางไปในทิศทางที่ผิด คนเป็นแม่ก็พร้อมที่จะให้อภัยลูกได้เสมอ ดังเช่นเรื่องราวในวันนี้ที่เราได้นำมาให้เพื่อนๆ ได้อ่านกัน

เป็นคำสารภาพของชายหนุ่มคนหนึ่ง ที่เคยหลงผิดจนชีวิตจะต้องเปลี่ยนไป จากผู้ที่ตั้งใจเล่าเรียน มีความฝันและเป้าหมายอันยิ่งใหญ่ แต่เขากลับก้าวเข้าสู่ช่วงชีวิตที่ดำมืด แต่ไม่ว่าอะไรก็ตาม คำว่าแม่ จะอยู่ในใจเขาเสมอ จะเป็นคนที่คอยเคียงข้าง แม้ว่าในวันที่เขาไม่เหลืออะไร

ในวันนี้เราขอนำเสนอเรื่องราวของแม่ลูกคู่หนึ่ง เป็นเรื่องราวที่ลูกเดินทางผิด แต่แม่ก็พร้อมที่จะให้อภัย เรื่องราวนี้ซึ้งมาก อ่านจบถึงกับต้องน้ำตาไหลกันเลย

“เลือกเดินทางผิด แต่แม่ก็ยังซื้อข้าวมันไก่กับน้ำเป๊ปซี่ที่ชอบมาฝาก” สละอ่านสักนิด แล้วคุณจะรักแม่มากขึ้น

เขาได้เล่าเรื่องราวว่า วันๆ เขาไม่ต้องคิดอะไรเลย ไม่ต้องเดือดร้อน ไม่ต้องทำอะไรมากมาย คิดแค่ว่าในวันนี้แม่จะทำอะไรให้เขากิน หรือจะเอาเงินไปโรงเรียนวันละเท่าไหร่ สมัยเด็กแม่เคยถามเขาว่า โตขึ้นมาลูกอยากจะเป็นอะไร เขาจึงตอบไปว่า ผมอยากจะเป็นตำรวจครับ จะได้ช่วยเหลือสังคม ถึงแม่ก็รับปากว่าจะส่งเสียให้เขาเรียนหนังสือสูง

จนกระทั่งวันเวลาผ่านไป เลยมาปี 2538 นายชัยเวศ ผู้ที่เป็นลูกชายได้เล่าเรียนจนถึงระดับอนุปริญญา ในตอนนั้นเขามีเพื่อนเยอะมากๆ แต่เขาก็ไม่รู้เลยว่าเพื่อนคนไหนบ้างที่จริงใจกับเขา เขารู้เพียงอย่างเดียวว่า ปีนั้นคือปีสุดท้าย เขาจะต้องเรียนให้จบ จะต้องได้เกรดเฉลี่ยที่สูง จะต้องทำให้แม่ของเขานั้นภูมิใจ

แต่อย่างไรก็ตามในช่วงปีเดียวกัน แม่ของเขาเกิดล้มป่วย เขาต้องพาแม่ของเขาไปหาหมอ และก็ได้ทราบว่าแม่นั้นเป็นโรคหัวใจ หมอบอกว่าแม่ไม่สามารถทำงานได้อีก แม้แต่เดินขึ้นสะพานลอยก็ยังรู้สึกเหนื่อยเลย

“เลือกเดินทางผิด แต่แม่ก็ยังซื้อข้าวมันไก่กับน้ำเป๊ปซี่ที่ชอบมาฝาก” สละอ่านสักนิด แล้วคุณจะรักแม่มากขึ้น

ซึ่งในขณะนั้นเองเขานั้นสับสนมาก เพราะอยากจะเรียนจบ และอีกทางหนึ่งก็สงสารแม่ จนในที่สุดเพื่อนที่เคยคบหากันมาตั้งแต่ตอนเรียน ก็ได้แนะนำบางสิ่งบางอย่าง เขาบอกว่าเมื่อกินเข้าไปแล้วจะทําให้เรียนเก่งขึ้น จะทำให้ร่างกายของเราแข็งแรง จะทำให้ไม่เครียด ทำให้เขานั้นหลงใหล และได้ลองสิ่งเหล่านั้นดู

แต่อย่างไรก็ตามในช่วงปีเดียวกัน แม่ของเขาเกิดล้มป่วย เขาต้องพาแม่ของเขาไปหาหมอ และก็ได้ทราบว่าแม่นั้นเป็นโรคหัวใจ หมอบอกว่าแม่ไม่สามารถทำงานได้อีก แม้แต่เดินขึ้นสะพานลอยก็ยังรู้สึกเหนื่อยเลย

ซึ่งในขณะนั้นเองเขานั้นสับสนมาก เพราะอยากจะเรียนจบ และอีกทางหนึ่งก็สงสารแม่ จนในที่สุดเพื่อนที่เคยคบหากันมาตั้งแต่ตอนเรียน ก็ได้แนะนำบางสิ่งบางอย่าง เขาบอกว่าเมื่อกินเข้าไปแล้วจะทําให้เรียนเก่งขึ้น จะทำให้ร่างกายของเราแข็งแรง จะทำให้ไม่เครียด ทำให้เขานั้นหลงใหล และได้ลองสิ่งเหล่านั้นดู

“เลือกเดินทางผิด แต่แม่ก็ยังซื้อข้าวมันไก่กับน้ำเป๊ปซี่ที่ชอบมาฝาก” สละอ่านสักนิด แล้วคุณจะรักแม่มากขึ้น

ตอนนั้นเขายอมรับว่ารู้สึกกลัวมาก ทั้งกลัวว่าแม่จะไล่ออกจากบ้าน หรือจะไม่ให้เรียนต่อแล้ว แต่แม่ไม่เคยพูดคำเหล่านั้นเลย แม่นั่งร้องไห้ เรียกผมเข้าไปหา ถามผมว่า ลูกติดมานานแล้วหรือยัง เลิกได้ไหม ไหนลูกเคยสัญญากับแม่ว่าลูกอยากเป็นตำรวจ

ผมรับปากแม่ว่าผมจะเลิก แต่คำพูดของผม ผมไม่เคยได้ปฏิบัติตาม กลับกันเขาเพิ่มปริมาณมากกว่าเก่า หากวันใดแม่ไม่อยู่เขาก็จะกลับเข้าบ้านไปขโมยเครื่องใช้ไฟฟ้าที่บ้านมาขาย แล้วบอกว่าพี่เอาไป ทำให้ในบ้านมีแต่เรื่อง

แต่ในที่สุด วันที่ 19 มิถุนายน 2538 ก็ได้เกิดเหตุการณ์ที่เขาไม่เคยลืมเลือน และจะไม่ขอลืม วันนั้นเป็นวันเสาร์ เขาขอเงินแม่เป็นจำนวน 200 บาทโดยอ้างว่าจะนำไปซื้ออุปกรณ์จัดการเรียนเพิ่ม แม่บอกว่าพรุ่งนี้ได้ไหมลูก พรุ่งนี้วันอาทิตย์ ลูกไม่ได้ไปโรงเรียนไม่ใช่หรือ เดี๋ยวแม่จะหาให้ นี่แม่เหลือแค่ 300 และต้องไปหาหมอ

“เลือกเดินทางผิด แต่แม่ก็ยังซื้อข้าวมันไก่กับน้ำเป๊ปซี่ที่ชอบมาฝาก” สละอ่านสักนิด แล้วคุณจะรักแม่มากขึ้น

“ผมไม่ฟังคำพูดของแม่ เข้าไปแย่งเงินจากแม่ ผลักแม่ผมล้มลงเข้าไปแย่งเงิน เอาเงิน 200 บาทไปซื้อ..กับเพื่อนอย่างมีความสุข แต่เวรกรรมมีจริง วันนั้นตอนเย็นผมกลับถึงบ้าน มีผู้ชาย 2 คน เดินเข้ามาหาผม เขาจับผมเอาหน้าคว่ำกับพื้น เอาเท้าเหยียบที่หลังผม ใส่กุญแจมือ พาผมไปที่โรงพัก

ตั้งข้อหาผมว่ามียาไว้ในครอบครอง ระหว่างที่อยู่ที่โรงพัก ผมคิดเสมอว่าเดี๋ยวเพื่อนต้องมาเยี่ยมผม เพื่อนต้องไม่ทิ้ง แต่ความคิดของผมผิด”

คนที่โผล่มาเยี่ยมเขาในตอนนั้นก็คือน้อง น้องบอกกับเขาว่าแม่คงไม่มาเยี่ยมแล้ว เพราะเขาทำแม่แขนหัก เขายอมรับว่าตอนนั้นเขารู้สึกไม่อยากอยู่แล้ว

“เลือกเดินทางผิด แต่แม่ก็ยังซื้อข้าวมันไก่กับน้ำเป๊ปซี่ที่ชอบมาฝาก” สละอ่านสักนิด แล้วคุณจะรักแม่มากขึ้น

แต่แล้วในวันเดียวกันนั้น เวลา 22.00 น. แม่ก็เดินเข้ามาหาเขา ในสภาพแขนข้างหนึ่งเข้าเฝือก และอีกข้างหนึ่งหิ้วข้าวมันไก่กับน้ำอัดลม คำพูดแรกที่แกพูดกับผม แกถามว่า

ลูก หิวข้าวไหม ไม่ต้องกลัว แม่ซื้อข้าวมันไก่กับน้ำเป๊ปซี่ที่ลูกชอบมาฝาก แม่จะหาทางช่วยลูก แม่ไม่ทิ้งลูก
คืนนั้นแม่ทำทุกอย่างที่จะช่วยผม แม้กระทั่งก้มกราบตำรวจแม่ก็ทำ แต่ในที่สุด..

คนที่เป็นลูกชายยังพูดไม่ทันจบ แม่ของเขาก็เดินเข้ามากอดทั้งน้ำตา บอกลูกว่าไม่ต้องพูดอีกแล้ว และในขณะที่ผู้ชมกำลังปรบมือด้วยความซาบซึ้งและให้กำลังใจกับคนนี้ นายชัยเวศก็ทรุดตัวลง ก้มกราบเท้าผู้เป็นแม่ทั้งน้ำตา จนกลายเป็นภาพที่ชวนซาบซึ้งและประทับใจไปอีกแสนนาน

โพสท์โดย: joo jung
แหล่งที่มา: https://www.item2day.com
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
ลูกสาวอบต's profile


โพสท์โดย: ลูกสาวอบต
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
8 VOTES (4/5 จาก 2 คน)
VOTED: Guffy, แสร์
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
รวบแล้ว 1 มือวางเพลิงป่วนใต้
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
รพ.แม่ลาน แจง! "บังชาติ"หรือ"แม่หญิงลี" ไม่ได้เป็นบุคลากรรพ.แม่ลาน หลังบุคคลดังกล่าวทำให้เกิดความเข้าใจผิด!อ่านนิยายไร้สาระจริงหรือ"ซีอิ๊วแบบเม็ด" ฉีกทุกกฎของซอส..นวัตกรรมใหม่จาก "เด็กสมบูรณ์""บิ๊กเต่า" รับหลักฐาน "ทนายตั้ม" ลั่น ใหญ่แค่ไหนก็จับ ไม่มีใครใหญ่กว่าประตูห้องขัง
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
แม่น้ำที่อันตรายที่สุดในโลก“กางเกงท้องถิ่นไทย” คุณประโยชน์ด้าน Sustainable Fashionปัญหาใหญ่ที่สุดในลาวตอนนี้ ที่อาจจะไม่สามารถเเก้ไขได้disgusting: น่าขยะแขยง น่ารังเกียจ
ตั้งกระทู้ใหม่