ฉีดโบท็อกซ์ใต้ตา อันตรายไหม อยากสวยแต่ไม่มีความรู้แนะนำให้อ่าน
ฉีดโบท็อกซ์ใต้ตา
ฉีดโบท็อกซ์ใต้ตา เปิดประตูสู่หัวใจ ให้ดวงตาสื่อความหมายที่อยู่ภายในตัวคุณ ดวงตาคือจุดที่ผู้คนมองเป็นอันดับแรก ๆ บนใบหน้า เมื่อพูดคุยกัน คนเราก็มักสบตากันอยู่ตลอดเวลา ดวงตาแสดงสีหน้า และอารมณ์อยู่เสมอวันละหลายร้อย หลายพันครั้ง และดวงตายังเป็นอวัยวะที่บอกถึงอายุได้มากที่สุดอีกด้วย ปัญหารอยตีนกา และถุงใต้ตาเป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากเป็นเจ้าของ แต่ผิวรอบ ๆ บริเวณดวงตากลับเป็นจุดที่บอบบางที่สุด และเกิดริ้วรอยได้ง่ายที่สุด
ทั้งสาว ๆ และผู้ชายหลาย ๆ คนก็สามารถเกิดริ้วรอยรอบดวงตาขึ้นได้ตั้งแต่อายุตั้งแต่ 25 ปีขึ้นไป ยิ่งใครที่ชอบยิ้มตาหยีหรือแสดงสีหน้ามาก ๆ รอยยับย่น และรอยตีนกาก็จะมาเยือนเร็วกว่า เมื่ออายุมากขึ้นเรื่อย ๆ ใต้ตายังมีปัญหามากขึ้นให้เห็นชัดเจน มันคือความหย่อนคล้อยใต้ดวงตาที่เป็นไปตามธรรมชาติ รอยยับเส้นใต้ตา และถุงใต้ตาทำให้ตาดูตก เศร้าโทรมไม่สดใส ส่งผลให้ดูแก่อีกด้วย วิธีที่จะช่วยทำให้ใต้ตากลับมาตึงเรียบไร้ริ้วรอยมีหลายวิธี เช่นการผ่าตัดถุงใต้ตา การดึงหน้าให้ตึง แต่วิธีที่กำลังได้รับความนิยมมากที่สุด ก็คือการ ฉีดโบท็อก ใต้ตา ในทุกวันนี้ทำได้ไม่ยากและมีความปลอดภัยสูง
ฉีดโบท็อกซ์ใต้ตา อันตรายไหม
การ ฉีดโบท็อกซ์ใต้ตา โดยวิธีการ และขั้นตอนก็คือ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะนำสารที่มีคุณสมบัติเป็นโปรตีนชื่อเรียกว่า สารบูโทลินั่มท็อกเอ เป็นสารที่กำเนิดมาจากการเพาะเชื้อแบคทีเรียชนิดหนึ่ง การฉีดสารโบท็อกเข้าไปหลัก ๆ ก็เพื่อให้กล้ามเนื้อในบริเวณที่ฉีดคลายตัวลง มีผลทำให้ริ้วรอยต่าง ๆ ที่เกิดจากการที่กล้ามเนื้อรัดเกร็งตัวลบเลือนไป รวมถึงริ้วรอยที่เกิดขึ้นใต้ดวงตา
คำถาม ฉีดโบท็อกซ์ใต้ตา อันตรายหรือไม่ ? แพทย์ทั่วโลกได้ทำการวิจัย และศึกษาเกี่ยวกับสารตัวนี้ ผลปรากฏว่าสารโบท็อกซ์เองไม่ได้ก่อให้เกิดอันตราย หากใช้ในปริมาณที่เหมาะสม และยังไม่มีการรายงานใด ๆ ว่าสารนี้ก่อให้เกิดอันตรายกับผู้ฉีดแม้แต่น้อย แต่อันตรายในการฉีดโบท็อกซ์จะเกิดขึ้นก็ได้ก็ต่อเมื่อเกิดความผิดพลาดในสองกรณีก็คือ
1.ปริมาณโบท็อกซ์ ที่ใช้ฉีดมากเกินไป
ปริมาณที่ใช้ในการฉีดโบท็อกซ์ โดยเฉพาะการใช้สำหรับฉีดโบท็อกซ์ใต้ตานั้น มีความจำเป็นในการใช้ ในปริมาณเพียงนิดเดียวเท่านั้น และโดยส่วนมากแล้วแพทย์ที่ทำการฉีดให้ จะทราบดีถึงปริมาณที่ควรฉีดให้แก่คนไข้แต่ละคน เพราะรู้กันทั่วไปโดยสากลเป็นมาตรฐานดี ทั้งนี้แพทย์ที่ทำการฉีดต้องมีประสบการณ์
2.ตำแหน่งในการฉีดผิดที่
การฉีดโบท็อกซ์ใต้ตา หากเข้ารับการฉีดจากแพทย์ที่ไม่เชี่ยวชาญพออาจเกิดคามผิดพลาดในตำแหน่งที่ฉีด เช่น ทำให้ตาปิดไม่สนิท ตาผิดรูป ตาสองข้างไม่เท่ากัน ซึ่งการฉีดผิดที่มีความเป็นไปได้ ยิ่งในคนบางคนที่ต้องการของถูก และมองว่าคงไม่อันตรายอะไร จึงเลือกฉีดโบท็อกซ์ใต้ตากับหมอกระเป๋า หรือคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐาน เป็นสาเหตุที่จะเสี่ยงต่อความผิดพลาดและเกิดอันตรายขึ้นได้ง่ายดาย
ฉีดโบท็อกซ์ ใต้ตา ช่วยในเรื่องอะไรบ้าง
การทำงานของสารตัวนี้โดยตรงก็คือ มีฤทธิ์เข้าไปทำให้การทำงานของกล้ามเนื้อในบริเวณที่ได้รับการฉีด ทำงานได้น้อยลง เมื่อแสดงสีหน้าอารมณ์ต่าง ๆ กล้ามเนื้อในส่วนดังกล่าวจะไม่เคลื่อนไหวมาก มีผลทำให้ริ้วรอยที่เกิดจากการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อบริเวณดังกล่าวลดน้อยลง
และทำให้กล้ามเนื้อที่เคยเกร็งตัวอยู่เสมอจากการแสดงสีหน้า เช่น การหยีตา การหรี่ตา การหัวเราะ การเกร็งดงตาเพ่งมอง เกิดริ้วรอยใต้ตา ถุงใต้ตาหย่อนคล้อย กล้ามเนื้อจะคลายตัวลง ริ้วรอยจึงจางหายไป ตีนกาที่เกิดขึ้นขณะยิ้ม หรือตีนกาที่มีอยู่ถาวรบนใบหน้าจะลดเลือนจางลง สำหรับคนที่เพิ่งเริ่มมีริ้วรอยใต้ตา และตีนกาไม่มากก็จะหายเรียบตึงสดใสขึ้นได้
การเตรียมตัวก่อนการฉีดโบท็อกซ์ใต้ตา
เมื่อรู้ว่าจะเข้ารับการฉีดโบท็อกซ์ใต้ตา สิ่งที่ต้องเตรียมตัวก็คือต้องมีการตรวจเช็คร่างกายว่าแข็งแรงสมบูรณ์พร้อมหรือไม่ ไม่มีโรคประจำตัวที่อันตรายต่อการฉีดโบท็อกซ์ใต้ตา หากมีโรคประจำตัวอะไรอยู่ต้องปรึกษาแพทย์ให้แน่ใจเสียก่อน ผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ห้ามเข้ารับการฉีดโบท็อกซ์ใต้ตา และไม่ควรฉีดโบท็อกซ์บริเณใด ๆ เลยขณะตั้งครรภ์ และหากมีการรับประทานยา เช่น วิตามินบำรุงต่าง ๆ หรือสมุนไพร ทางที่ดีก็ควรงดการรับประทานไว้ก่อนอย่างน้อย 2 - 3 วัน ยาแอสไพริน ยาแก้อาการอักเสบต่าง ๆ ต้องหยุดรับประทานก่อนการฉีดโบท็อกซ์ใต้ตาอย่างน้อย 2 สัปดาห์
ฉีดโบท็อกซ์ใต้ตา ต้องฉีดซ้ำไหม อยู่ได้นานเท่าไร
อายุการทำงานของโบท็อกซ์นั้นโดยทั่วไปจะอยู่ได้ประมาณ 4-6 เดือน หลังจากนั้นก็ต้องมาฉีดใหม่เพราะตัวสารโบท็อกซ์จะสลายไปกับกระบวนการทางร่างกาย เราอาจมองว่าตรงนี้เป็นรายจ่ายที่สิ้นเปลือง เพราะว่าต้องเข้ารับการฉีดใหม่ทุก 4 - 6 เดือนก็จริง แต่ก็หมายความว่าโบท็อกซ์ไม่ใช้สารอันตรายแปลกปลอม เพราะสลายไปในระยะเวลาหนึ่ง ไม่ตกค้างเป็นอันตรายแก่ร่างกายนั่นเอง
อ่านข้อมูลเพิ่มเติม 9 ข้อห้ามการฉีดโบท็อก บอกได้เลยว่า ไม่รู้แล้วไปฉีดถือว่าอันตรายมาก
โบท็อกซ์ ใต้ตา ราคา
ราคาของโบท็อกซ์ใต้ตา ในการเข้ารับการฉีดแต่ละครั้งนั้นแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับคลินิกที่ไปฉีด ราคาของการฉีดโบท็อกซ์ใต้ตาขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่นแพทย์ที่ฉีดเชี่ยวชาญมากน้อยขนาดไหน มีชื่อเสียงไหม ถือว่าเป็นราคาจากเครดิตที่น่าเชื่อถือ และขึ้นอยู่กับตัวยาโบท็อกซ์ว่าเลือกยายี่ห้อใดในการฉีด และใช้ปริมาณในการฉีดมากน้อยแค่ไหนด้วย ราคาโดยทั่วไปมีตั้งแต่ระดับราคาที่ 1,000 บาทไปจนถึงราคาหลายหมื่นบาทต่อการฉีด 1 ครั้ง
ฉีดโบท็อกซ์ที่ไหนดี
สำหรับสถานที่ หรือคลินิกที่เหมาะสมในการเลือกฉีดโบท็อกซ์ใต้ตา ก็ควรเลือกสถานที่ที่ได้มาตรฐาน สะอาด ทันสมัย เป็นที่ยอมรับ และมีชื่อเสียง มีผลงาน ตามที่หลาย ๆ คนก็คงได้รับรู้ข่าวการฉีดโบท็อกซ์ราคาถูก ราคาประหยัดกับหมอกระเป๋า หรือคนที่ไม่ใช่แพทย์ การฉีดแบบนี้นับว่าเสี่ยงกับอันตราย และความผิดพลาดที่จะเกิดขึ้นอย่างมาก
เพราะเราจะไม่ทราบเลยว่าคนที่ฉีดมีความเชี่ยวชาญ และเป็นแพทย์จริงหรือไม่ อย่าลืมว่าการฉีดโบท็อกซ์ใต้ตาเป็นการฉีดเข้าไปในบริเวณกล้ามเนื้อใต้ผิว หากเกิดความผิดพลาดนับว่าแก้ไขได้ยากมาก และโอกาสที่จะเกิดความผิดพลาดมีสูงหากไม่ใช่แพทย์ที่เชี่ยวชาญจริง คลินิกที่น่าเชื่อถือแห่งหนึ่งที่ได้รับการยอมรับ และพบเห็นได้บ่อยจากการพูดคุยตามกระทู้ ความสวย ความงาม หรือจากการรีวิวต่างๆ คือ v square clinic ลองเสริชเข้าไปดู หรือหาข้อมูลต่างๆ ได้ หรือขอรับคำปรึกษาได้ฟรี
โบท็อกใต้ตากี่วันเห็นผล
หลังจากที่เข้ารับการฉีดโบท็อกซ์ใต้ตาแล้ว อาจจะมีรอยช้ำ บวมเล็กน้อย แต่ก็เห็นความแตกต่างจากตอนที่ยังไม่ได้ฉีดได้ทันที แม้จะยังไม่ชัดเจนมากนัก หลังจากที่บริเวณใต้ตาหายจากมีอาการช้ำประมาณ 3 วัน ถึง 1 อาทิตย์ ก็จะมองเห็นผลของการฉีดได้ชัดเจนขึ้น และผลจะชัดเจนสมบูรณ์ภายในช่วงเวลา 1เดือนหลังจากฉีด
การฉีดโบท็อกซ์ใต้ตาในปัจจุบัน เป็นการรักษา หรือการแก้ไขริ้วรอยใต้ตา ถุงใต้ตาที่ไม่อันตรายอย่างที่คิด นอกจากนี้ ยังสะดวก และเกิดแผลน้อยที่สุด เพียงแค่รอยปลายเข็มนิดเดียวเท่านั้น หากเป็นการฉีดให้โดยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ และมีความชำนาญสูงก็แทบไม่เกิดรอยช้ำใด ๆ เลย ใช้เลาเพียง 10 - 20 นาทีเท่านั้นก็เสร็จเรียบร้อย
หลังจากฉีดก็สามารถทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้ตามปกติ ข้อแนะนำก็คือ หากต้องการให้ผลของการฉีดโบท็อกซ์ใต้ตาอยู่ทน อยู่นาน ตามอายุของโบท็อกซ์ หลังจากฉีดในสัปดาห์แรกก็ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสแรง ๆ การขยี้ หรือการถูใต้ตา และควรหลีกเลี่ยงแสงแดดร้อน ๆ เพราะแสงแดดจะไปเร่งให้ผลของโบท็อกซ์ลดน้อยลง และสารโบท็อกซ์จะสลายไปเร็วขึ้น