เปิดชีวิตปัจจุบัน นักร้องเสียงดี “ปาน ธนพร” ใช้ชีวิตสุดเรียบง่าย หันหน้าเดินเส้นทางธรรม
วันนี้เราจะพาเพื่อนๆ มาติดตามชีวิตล่าสุด นักร้องเสียงดี “ปาน ธนพร” หลังจากที่เป็นนักร้องอิสระ ก็ไม่ค่อยได้เห็นนักร้องสาวเสียงทรงพลังอย่าง ปาน ธนพร ร้องเพลงกัดจิกเหมือนเมื่อก่อน ถึงจะมีงานแสดงคอนเสิร์ตอยู่เป็นระยะๆ แต่ในชีวิตประจำวันของ ปาน ธนพร เธอกลับใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย เดินทางตามรอยธรรม และปฏิบัติธรรมอยู่ตลอด
เป็นอีกหนึ่งนักร้องสายบุญที่แท้จริง และในช่วงวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา ปาน ธนพร ได้ไปใช้ชีวิตสันโดษเพื่อเตรียมความพร้อมในการใช้ชีวิตต่อไป
@parnthanaporn โดดเดี่ยวเพื่อดูใจ เห็นคุณค่าของความลำบาก ทุกข์ที่ปรากฏ ความคิด ความฟุ้งซ่าน ความกลัว การปรุงแต่ง ความเพียรที่อยากพ้นทุกข์ กราบขอบพระคุณในความเมตตาของอาจารย์ปุ้ม ที่มอบประสบการณ์การธุดงค์ในระดับเตรียมอนุบาลครั้งนี้ให้ได้เรียนรู้เข้าไปที่จิตที่ใจ 10 วันแห่งความยากลำบาก
ที่มีศีลแปดคุ้มครองใจ อยู่อย่างสันโดษ กินมื้อเดียว นอนน้อย ปฏิบัติให้มาก ความลำพัง ความมืด สร้างความเพียร สร้างใจที่เด็ดเดี่ยว และที่สำคัญที่สุด การเห็นการปรากฏตัวแห่งทุกข์อย่างแท้จริง
และจิตใจที่ปลิ้นปล้อนตอแหล หลอกตัวเอง ทีสุดท้ายประสบการณ์ครั้งนี้สอนให้เห็นว่า ทั้งหมดที่ผ่านมาในชีวิต เราไม่เคยมีความสุขจริงๆ เลย และที่เราเป็นทุกข์เป็นสุขนั้น
เป้าหมายของชีวิตนับจากนี้ไปของคุณปานคืออะไรคะ
ถ้าชีวิตนี้ผ่านพ้นเรื่องคู่ไปได้ก็จะทํางานรับใช้ศาสนานี่คือเป้าหมายสุดท้าย เพราะค้นพบแล้วว่าเป็นสิ่งที่ทําให้มีความสุขเป็นอาหารใจ ถ้าไม่มีคู่ก็ไม่มีอะไรต้องห่วงพี่น้องก็สบายหมดแล้ว พ่อแม่ท่านแก่แล้ว
วันหนึ่งก็ต้องจากไปไม่เขาก่อนก็เราก่อนอาจบวชอาจไปอยู่วัด มองไว้แล้วว่าชีวิต บั้นปลายเราอาจไปปฏิบัติจริงจังอยู่กับตัวเอง อยู่กับครูบาอาจารย์ ชนิดเก็บตัวไปเลย
สําหรับปานคือ “ความจริงใจในการทํางาน” แต่ความจริงใจของเราอาจไปทําร้ายคนบ้างก็มีนะคะเพราะมันจริงเกินไปตรงเกินไป บางทีเราจริงมาก จริงทั้งหมดก็ไม่ได้ ก็ต้องเรียนรู้เพราะคนอื่นไม่ได้คิดเหมือนเรา ใจเขาไม่ได้หนาเหมือนเรา ก็ต้องเรียนรู้กันไป
ปานยึดหลักว่าความจริงใจอาจไม่ถูกใจคนมากนัก แต่เมื่อวันเวลาผ่านไปคนเราเติบโตขึ้น เขาจะนึกขอบใจเราเองแหละ เรื่องบางเรื่องต้องไม่กลัวคนเกลียด
มันมีอยู่แล้วที่ว่าคนรักเป็นร้อย คนเกลียดเป็นล้าน แต่ต้องไตร่ตรองดูว่าสิ่งที่เราทําเกิดประโยชน์กับเขาอย่างไร เขาอาจเกลียดเรา แต่ถ้าเกลียดแล้วได้พัฒนาตัวเอง ปาน ว่าคุ้ม เราเป็นคนทํางานแบบนี้
ถ้าบอกไป อาจไม่ถูกใจบางกลุ่ม แต่ก็ไม่กลัวรู้สึก ว่าการถูกเกลียดเป็นเรื่องธรรมดาของคน ของสัตว์โลกถ้าเราเปรียบเทียบว่าเราเป็นสัตว์โลกเหมือนกันเป็นสิ่งมีชีวิตเหมือนกันไม่มีแก่นสารอะไรให้ยึดสักอย่าง พอคิดได้แบบนี้ก็ทําให้ใจคลายความยึดติดและทํางานกับคนอื่นได้ง่ายขึ้น