รถยนต์คันแรกในไทย
(ราชยานยนต์คันแรกในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รถยนต์ Mercedes Benz 28Hp )
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหากษัตริย์ไทยผู้ทรงมีคุณูปการอย่างใหญ่หลวงต่อประเทศชาติและประชาชนชาวไทย ทรงสนพระทัยเกี่ยวกับเรื่องรถยนต์เป็นอย่างมาก พระองค์ทรงโปรดเกล้าฯให้มีการตัดถนนในกรุงเทพมหานครเพิ่มขึ้นหลายสาย ในปี พ.ศ. 2447 เสด็จกรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ได้เสด็จไปรักษาพระองค์จากอาการประชวรที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส และได้ทรงมีรับสั่งให้บริษัทเยอรมันในกรุงปารีสทำการประกอบรถยนต์ส่วนบุคคลยี่ห้อ Mercedes Benz ซึ่งนับได้ว่าเป็นรถยนต์ชั้นยอดในเวลานั้น
รถยนต์ Mercedes คันดังกล่าว ปรากฏหลักฐานการสั่งซื้อผ่านสถานเอกอัครราชทูตสยามประจำกรุง ปารีส โดยทำการสั่งซื้อจากออโตโมบิลยูเนียน ปารีส ซึ่งเป็นบริษัทขายรถยนต์ของนายเอมิล เยลลิเน็ค และมาถึงสยามประเทศโดยการบรรทุกมาทางเรือเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2447 ระบุในใบส่งของว่าผู้รับปลายทางคือพระมหากษัตริย์แห่งกรุงสยาม เป็นรถยนต์ Mercedes Benz รุ่น 28 HP 4 สูบเครื่องยนต์ 35 แรงม้าหมายเลขแชสซีส์ 2397 และหมายเลขเครื่องยนต์ 4290 ในขณะนั้นเสด็จกรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ทรงทำการเร่งการประกอบรถยนต์คันนี้แทบทุกวัน พอรถเสร็จก็ทรงว่าจ้างคนขับชาวอังกฤษขับรถคันนี้พาพระองค์ท่าน พร้อมด้วย ม.จ.อมรทัต กฤดากร, หลวงสฤษดิ์ สุทธิวิจารณ์ (ม.ร.ว.ถัด ชุมสาย) ตระเวนไปทั่วยุโรปภาคกลางเพื่อเป็นการทดสอบเครื่องยนต์และตัวรถ จากนั้นจึงวนกลับไปยังนครปารีส เมื่อเสด็จกรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์เสด็จกลับถึงยังเมืองไทยแล้ว ก็ได้ทรงนำรถยนต์คันนี้ขึ้นทูลเกล้าฯถวาย พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งเป็นที่พอพระราชหฤทัยยิ่งนัก และแล้วรถยนต์ Mercedes Benz หมายเลขแชสซีส์ 2397 และหมายเลขเครื่องยนต์ 4290 ก็กลายเป็นรถยนต์พระที่นั่งคันแรกในประวัติศาสตร์ไทย
(รถแก้วจักรพรรดิ จากซ้ายไปขวา พระยาบุษรถ (ฟ้อน ศิลปี) ท้าววรจันทร์-เจ้าคุณพระประยูรวงศ์-ท่านผู้หญิงตลับ-เจ้าจอมมารดาชุ่ม-เจ้าจอมมารดาโหมด-พระราชชายาเจ้าดารารัศมี-เจ้าจอมเลียม บันทึกภาพเมื่อวันที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2448)
ด้วยรถยนต์พระที่นั่งคันดังกล่าวเสมอ ต่อมาทรงเห็นว่ารถยนต์เพียงคันเดียวไม่เพียงพอที่จะใช้งานตามพระราชประสงค์ อันเนื่องมาจากพระบรมวงศานุวงศ์ทั้งฝ่ายหน้าและฝ่ายในก็ทรงโปรดปรานรถยนต์ กันแทบทุกพระองค์และมักจะตามเสด็จไปด้วยในการเดินทางรอบพระนคร จึงได้ตัดสินพระทัยซื้อรถยนต์พระที่นั่งอีกคันหนึ่ง ในครั้งนี้เสด็จกรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ได้เป็นผู้แทนพระองค์ในการสั่งซื้อ อีกครั้ง และทรงเลือกรถ Mercedes Benz เหมือนเดิมโดยสั่งนำเข้าจากเยอรมันโดยตรง เป็นรถเก๋งสีแดงรุ่นปี 2448 เครื่องยนต์ 4 สูบ 28 แรงม้าสามารถวิ่งได้เร็วถึง 73 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งในสมัยนั้นถือได้ว่าเป็นรถยนต์ที่เร็วมาก พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานนามแก่รถยนต์พระที่นั่ง คันที่ 2 ว่า แก้วจักรพรรดิ ในทำนองเดียวกันกับโบราณราชประเพณีที่มีการพระราชทานนามให้แก่ ช้างเผือกคู่พระบารมี คำว่า แก้วจักรพรรดิ มีความหมายเปรียบประดุจหนึ่งในแก้วเจ็ดประการ อันเป็นของคู่พระบารมีแห่งองค์พระมหากษัตริย์
(งานเฉลิมฉลองรถยนต์ครั้งแรกในสยามประเทศ วันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2448)
เมื่อรถยนต์เริ่มเป็นที่นิยมและแพร่หลายในหมู่พระราชวงศ์ตลอดจนพ่อค้าคหบดี พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงทรงพระดำริว่าสมควรจะจัดงานเฉลิมฉลองสักครั้งหนึ่ง จึงทรงกำหนดให้วันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2448 เป็นวันชุมนุมรถยนต์ครั้งแรกในกรุงรัตนโกสินทร์
(ถนนราชดำเนินในปี พ.ศ. 2448)
พระราชบัญญัติฉบับนี้กำหนดให้เจ้าของรถจดทะเบียนกับกระทรวงมหาดไทยโดยเสียค่าธรรมเนียมคันละ 10 บาท ซึ่งในช่วงเวลานั้นมีรถยนต์นั่งส่วนบุคคลและรถบรรทุกทั้งในบางกอกและตามหัวเมืองต่างๆ ทั่วประเทศที่จดทะเบียนรวมทั้งหมด 412 คัน จากพระมหากรุณาธิคุณของล้นเกล้าฯรัชกาลที่่ 5 ที่ทรงมีต่อไพร่ฟ้าประชาชนจากการที่ทรงมีพระราชดำริให้สร้างถนนหนทาง และการออกพระราชบัญญัติจราจร ทำให้คนไทยนิยมการใช้รถยนต์เพื่อการเดินทางเพิ่มมากขึ้น รถยนต์ที่นำเข้ามาในประเทศไทยมีมากมายหลายยี่ห้อ ทั้งจากเยอรมัน ฝรั่งเศส สหรัฐอเมริกา และอิตาลี รวมไปถึงธุรกิจการจำหน่ายรถยนต์มือสอง จวบจนถึงปี พ.ศ. 2474 มีรถยนต์ที่จดทะเบียนทั้งหมดถึง 3,222 คัน
ภาพ : หอจดหมายเหตุ