คืนดับ(จบในตอน)
สายลมที่พัดแผ่วเบากับสายฝนที่เริ่มโปรดปราย
เด็กชายถือฉมวกออกจากกระท่อมเล็กๆผุพัง ถึงจะรู้ว่าฝนจะตกหนักแต่ในยามนี้หัวใจของเขาคิดถึงแต่แม่และพี่สาวผู้พิการ จะมีอะไรน่าหวาดกลัวไปกว่าความอดอยาก แม่และพี่สาวเขาไม่เคยได้กินอะไรดีๆ กับข้าวประจำบ้านทุกวันคือ น้ำจิ้มผักลวกหน้าบ้าน
มือของเด็กน้อยกุมฉมวกแน่นเดินฝ่าสายฝนด้วยแววตามุ่งมั่นและกล้าหาญคืนนี้เขาจะต้องได้กับข้าวอร่อยไปฝากแม่
นับตั้งพ่อ แม่ พี่สาว ประสบอุบัติทางรถยนต์ ร่วมกับเพื่อนบ้านหลายคนที่กำลังไปรับจ้างตัดอ้อย ทุกอย่างก็ลำบากยิ่งขึ้นกว่าเดิม พ่อเสียชีวิต พี่สาวแขนขาหักเดินไม่ได้ ส่วนแม่ต้องตัดขาทิ้ง เด็กชายวัย 9ขวบต้องเป็นหัวหน้าครอบครัวในทันที แม้เขาไม่รู้ว่าหัวหน้าครอบครัวคืออะไร แต่รู้ว่าเขาจะทำหน้าที่แทนพ่อ
ระหว่างทางได้ยินแต่เสียงอื้ออึงของพายุ กบเขียดร้องระงม น้ำในคลองเริ่มเจิ่งนอง
มีบางสิ่งลอยผลุบโผล่อยู่เหนือกอหญ้าเด็กชายใช้ไฟส่องเผื่อว่าจะเป็นสิ่งที่กินได้เขาค่อยๆเดินเข้าไปไกล้ ในใจภาวนาขอให้เป็นปลาทีเถอะ เขาใช้ฉมวกแทงลงไปในผืนน้ำแล้วค่อยๆดึงขึ้นมา ดวงตาเด็กน้อยเบิกกว้างด้วยความดีใจที่เห็นปลาช่อนตัวใหญ่ติดมามากับฉมวก เขาคิดในใจว่าจะทำห่อหมก นานแล้วที่ครอบครัวเขาไม่ได้กินปลาตัวใหญ่เช่นนี้
เขาจับปลาช่อนใส่ข้องไว้แล้วมัดจนแน่ใจว่าไม่สามารถหลุดออกไปได้พร้อมเร่งฝีเท้ากลับบ้าน เสียงร้องของแมลงยามค่ำคืนดังระงม ลมพัดแรงขึึ้นหนาวจับขั้วหัวใจ รอบตัวเขาได้ยินเสียงฟ้าร้อง เสียงพายุ เด็กน้อยเร่งฝีเท้าเพื่อให้ถึงบ้านเร็วขึ้น แต่ลมพายุโหมกระหน่ำ จนร่างเล็กๆต้านไม่ไหวต้องไปหลบหลังต้นไม้ใหญ่
ลมฝนเทมาเหมือนคืนคลั่ง ในใจเด็กน้อยคิดเพียงว่าเมื่อไหร่จะถึงบ้าน จะได้ทำห่อหมกให้แม่และพี่สาวได้กิน เขาจับปลาช่อนที่กำลังดิ้นไว้แน่น แต่สายน้ำเชี่ยวกรากไหลอย่างรุนแรงและเร็วมาทางเขา ขณะที่เขา
กำลังหนีน้ำ ปลาช่อนที่เขาหวังจะใช้เป็นอาหารคืนนี้ก็หลุดออกจากข้องหายไปในสายน้ำเชี่ยว ใจเด็กน้อยไม่ทันคิดอะไร กระโจนลงไปทันทีเพื่อหาปลาช่อนตัวนั้น เขาคิดเพียงว่า ปลาตัวนั้นบาดเจ็บจากฉมวกเขา คงว่ายไปได้ไม่ไกล
แต่น้ำยังไหลเพิ่มและรุนแรงขึ้นเรื่อยๆพัดพาเด็กน้อยไปเกี่ยวกับกิ่งไม้ หนามคม ลำตัวเขาเต็มไปด้วยบาดแผลและเลือด ลมหายใจเริ่มแผ่วเบา จิตสุดท้ายของเขา คิดถึงแม่และพี่สาว พวกเขาจะอยู่อย่างไรหากปราศจากเขา จิตสุดท้ายดับลง ร่างจมดิ่งหายไปกับสายน้ำวน....