แจงเป็นแค่ "โครงการเกษียณอายุ" หลังข่าวลือช่อง3ปลดพนักงานฟ้าผ่า!
ช่อง 3 แจงกรณีข่าวปลดพนักงานกว่า 80 คนคลาดเคลื่อน ชี้เป็น โครงการเกษียณอายุ แก่พนักงานอายุ 60 ปีขึ้นไป ส่วนการลดจำนวนพนักงานอยู่ในระหว่างพิจารณาอัตรากำลังที่เหมาะสม ยังไม่มีตัวเลขชัดเจน อีกทั้งยังไม่ปลดพนักงานอายุ 40-55 ปีแต่อย่างใด
3 ธ.ค. 2561 จากกรณีที่มีกระแสข่าวสะพัดในโลกออนไลน์ว่า ช่อง 3 เลิกจ้างพนักงานนับร้อยคน ส่วนใหญ่เป็นพนักงานฝ่ายข่าวราว 80 คน ที่เหลือเป็นฝ่ายอื่นๆ โดยได้จ่ายค่าชดเชยตามกฎหมายแรงงาน 10 เดือน และค่าเลิกจ้างโดยไม่แจ้งล่วงหน้า 2 เดือน มีผลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปนั้น
ด้านไทยทีวีสีช่อง 3 ระบุกระแสข่าวดังกล่าวมีความคลาดเคลื่อนในเนื้อหาที่นำเสนอ ดังนี้
1. ในช่วงที่ผ่านมา ไทยทีวีสีช่อง 3 ได้ดำเนินการปรับโครงสร้างองค์กรให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน โดยพิจารณาถึงจำนวนพนักงานและการตอบแทนพนักงานหลังเกษียณอายุ เนื่องจากไทยทีวีสีช่อง 3 มีจำนวนพนักงานจำนวนหนึ่งที่อายุเกินกว่า 60 ปี ดังนั้น โครงการเกษียณอายุ จึงถือเป็นทางเลือกให้กับพนักงานกลุ่มนี้ ซึ่งจำนวนผลตอบแทนที่มอบให้ในโครงการเกษียณ ก็สูงกว่าสิ่งที่กฏหมายแรงงานได้กำหนดไว้ พร้อมทั้งยังมีการมอบประกันสุขภาพให้พนักงานที่เข้าโครงการต่อไป เพื่อให้พนักงานยังสามารถมีประกันสุขภาพดูแลตนเองต่อไปแม้จะเกษียณอายุไปแล้ว
2. กรณีที่พนักงานรับเงินตามโครงสร้างการเกษียณแล้ว แต่บริษัทยังเล็งเห็นศักยภาพว่ายังสามารถปฏิบัติภารกิจในตำแหน่งงานนั้นได้ต่อไปอย่างเต็มที่ พนักงานผู้นั้นก็จะได้รับการว่าจ้างต่อไปตามความเหมาะสม
3. ตามที่มีกระแสข่าวออกมาว่า ทางไทยทีวีสีช่อง 3 มีการปลดพนักงานกว่า 80 คนนั้นคลาดเคลื่อนจากความเป็นความจริง เพราะขณะนี้บริษัทยังอยู่ในการพิจารณาอัตรากำลังที่เหมาะสมกับสภาวะเศรษฐกิจของทีวีดิจิตอล ซึ่งยังไม่ได้มีเป้าหมายหรือตัวเลขที่ชัดเจนแต่อย่างใด
4. อีกทั้งกรณีที่มีการเสนอข่าวว่า มีการปลดพนักงานอายุระหว่าง 40-55 ปีนั้นก็ไม่เป็นความจริง เพราะที่จริงแล้วพนักงานในวัยนี้ถือเป็นกำลังสำคัญต่อการผลิตผลงานคุณภาพของไทยทีวีสีช่อง 3
"ไทยทีวีสีช่อง 3 ตระหนักถึงความสำคัญของบุคลากรอยู่เสมอ เพราะพวกเขาเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กรและผลิตผลงานคุณภาพเพื่อผู้ชม สำหรับโครงการนี้ก็เป็นสิ่งที่เราทำเพื่อปรับองค์กรให้เข้ากับสภาวะตลาด และเพื่อให้พนักงานได้มีโอกาสเลือกแผนในการดำเนินชีวิตของเขาต่อไป"






















