ไข้หวัด เรื่องใกล้ตัวที่คุณควรรู้
ไข้หวัดเป็นโรคที่ต้องบอกว่าไม่ได้ไกลตัวขอคุณมาก ซึ่งเป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสบริเวณทางเดินหายใจส่วนต้น เช่น จมูก คอ ไซนัส และกล่องเสียง โดยเชื้อที่ก่อให้เกิดไข้หวัดมักเป็นเชื้อไวรัสชนิดไม่รุนแรง ไข้หวัดที่เราเป็นกันโดยส่วนใหญ่นั้น กว่า 80 เปอร์เซ็นเป็นไข้หวัดที่เกิดจากเชื้อไวรัสซึ่งมีอยู่หลากหลายสายพันธุ์บนโลก และมีจำนวนมากถึงขนาดที่ว่าถ้าเราเป็นหวัดปีละ 3 ครั้งก็ยังเป็นหวัดจากเชื้อไวรัสได้ไม่ครบทุกชนิดที่มีบนโลกนี้เลยทีเดียว
อาการของไข้หวัด
1. เจ็บคอ
2. น้ำมูกไหล
3. คัดจมูก หายใจได้ไม่สะดวกเนื่องจากจมูกบวม และมีน้ำมูกอุดตันภายในจมูก
4. ไอ และจาม
5. เสียงแหบ
6. อ่อนเพลีย และรู้สึกไม่สบายตัว
7. ไข้สูง 37-39 องศาเซลเซียส
8. ปวดศีรษะ หรือปวดหู
9. ปวดกล้ามเนื้อ
การดูแลและป้องกันตนเองจากไข้หวัด
วิธีการรักษาไข้หวัดที่ดีที่สุดนั้น นอกจากจะต้องกินยาตามแพทย์หรือเภสัชกรกำหนดให้แล้ว ผู้ป่วยมีความจำเป็นต้องรับประทานอาหารให้ถูกต้องตรงเวลา และนอนหลับพักผ่อนให้มากขึ้นอีกสักนิด ทั้งนี้เพื่อให้ร่างกายของเราสร้างภูมิต้านทานที่แข็งแรงเพื่อต่อสู้กับไข้หวัด ในส่วนของวิธีป้องกันการเป็นไข้หวัดนั้นก็ไม่ได้ยากอย่างที่คิด เพียงรับประทานอาหารหลากหลายให้ครบ5หมู่ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ และต้องไม่ลืมออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพียงเท่านี้ท่านก็จะห่างไกลจากโรคหวัดแล้ว
การรักษาไข้หวัด
ไข้หวัดเป็นโรคที่ไม่มีวิธีรักษาได้โดยตรง แต่บรรเทาอาการของไข้หวัดลงได้ด้วยวิธีต่อไปนี้
1. พักผ่อนมาก ๆ การนอนหลับจะช่วยให้อาการของไข้หวัดดีขึ้นได้ อีกทั้งยังหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมหนัก ๆ เพราะอาจทำให้ผู้ป่วยยิ่งอ่อนเพลียมากกว่าเดิม
2. ดื่มน้ำให้เพียงพอ ผู้ป่วยไข้หวัดนั้นมักจะสูญเสียน้ำจากเหงื่อที่เกิดขึ้นจากไข้ และน้ำมูกที่มากพร้อมกับอาการคัดจมูก การดื่มน้ำให้มากขึ้นจะทำให้ผู้ป่วยรู้สึกสดชื่นได้
3. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ อาหารที่มีประโยชน์จะช่วยสร้างเสริมระบบภูมิคุ้มกัน และช่วยให้ผู้ป่วยฟื้นฟูจากอาการเจ็บป่วยได้เร็วยิ่งขึ้น
4. ใช้ยาเพื่อรักษาไข้หวัดเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้อาการป่วยหายได้เร็วขึ้น โดยยาใช้รักษาไข้หวัดที่อาจเป็นยาที่ซื้อมาทานเองอย่างพาราเซตามอล เป็นต้น
5. หากอาการหนักควรไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษา
จบกันไปแล้วสำหรับโรคไข้หวัด ที่ต้องบอกว่าไม่ได้ไกลตัวทุกคนเลย หวังว่าทุกท่านจะได้ประโยชน์จากบทความนี้