หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม แต่งรูป คำคม Glitter สเปซ ไดอารี่ เกมถอดรหัสภาพ เกม วิดีโอ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

Dawn of the Night (รุ่งอรุณแห่งรัตติกาล) บทที่ 3 ยอมรับ

โพสท์โดย TRUMPED

        ฉันเดินมาถึงหน้าโรงเรียนที่เต็มไปด้วยมนุษย์อ่อนแอ แต่ทว่าสิ่งที่ทำให้ฉันประหลาดและรู้สึกประหม่า คือการที่ฉันต้องมายืนรอเรียวทุกเช้า แต่วันนี้กลับเป็นเช้าที่แปลกเมื่อเรียวเดินมากับหญิงสาวที่ฉันไม่เคยรู้จักแถมยังสนิทสนมกันจนหน้าขยะแขยง

        “โอกิ เธอมารอฉันทุกเช้าไม่เบื่อเหรอ” เสียงเรียวดังขึ้น จนฉันต้องรีบซ่อนอาการความสงสัย

        “ก็ไม่นิ  นายนั้นแหละหัดชินได้แล้ว!!!!”  ยังไม่ทันที่ฉันกับเรียวจะได้พูดอะไรต่อ เด็กสาวที่รุ่นราวคราวเดียวกับฉันหันมาเอยด้วยน้ำเสียงสดใสและเป็นกันเองปนอาการที่ตื่นเต้นตอนนี้

“       เออ โอกิ สินะคะ ฉันชื่อ อากิโนะ ยู เรียกว่า ยูจังก็ได้ค่ะ  ฉันชอบคุณในตอนนั้นมากตอนที่คุณเกือบโดนพวกเพื่อนในห้องทำร้าย แววตาสีแดงข้างซ้ายนั้นสวยจังนะคะ ถ้าไม่รังเกียจ เออคือว่า เรามาเป็นเพื่อนกันจะได้ไหม”

        เธอพูดจบก็ค่อยเงยหน้ามองฉันด้วยสายตาที่อ่อนโยน แต่ทว่า สายตาที่เย็นชาของฉันกลับสั่นไหว นานแล้วที่ไม่มีใครพูดว่าตาสีแดงของฉันสวย แม้กระทั่งเรียว

        ฉันกลับมาทำหน้าปกติก่อนเอยด้วยน้ำเสียงเหมือนทุกครั้ง

        “ฉันเคยบอกแล้วไม่ใช้เหรอ ว่าฉันไม่ต้องการเพื่อน และฉันก็ไม่อยากปกป้องมนุษย์อ่อนแอ” สิ้นเสียงพูดของฉันแววตาที่ดูตื่นเต้นนั้นกลับเปลี่ยนเป็นเศร้าหมองแต่แฝงไปด้วยรอยยิ้ม

        “งั้นเหรอ” เธอพูดประโยคนี้แผ่วเบาจนฉันแทบไม่ได้ยิน ก่อนหันไปยิ้มให้เรียวแล้ววิ่งหายเข้าไปในโรงเรียน ฉันหันไปหาเรียวก่อนก่อนเตือนให้รีบเข้าโรงเรียนเพราะเสียงอ๊อดมันดังนานแล้ว แต่ทว่าเรียวกับเอยในสิ่งที่ฉันไม่อยากได้ยินที่สุด

        “โอกิ ไปขอโทษยูซะ ทำไมพูดแบบนั้นหละ โอกิไม่อยากมีเพื่อนเหรอ”

        “นี้ใช้ไหมคือสิ่งที่นายจะพูด”

        “ใช่ และวันนี้ โอกิต้องไปขอโทษยู ซะ!!!” ฉันไม่ตอบอะไรได้แต่ยืนมองเรียวด้วยสายตาที่ไม่เข้าใจ ฉันหันหลังกลับโดยไม่พูดไม่จา แต่เสียงที่ทำให้ฉันต้องหยุดอีกครั้ง

        “โอกิจะไปไหน ไม่เข้าเรียนรึไง !!”

        “วันนี้ฉันจะไม่เรียน 1 วัน เพราะฉะนั้นนายไปซะ แล้วอย่าให้ฉันเห็นหน้าภายในวันนี้ไม่งั้น ฉันจะฆ่านายซะ” สิ้นเสียงของฉัน ก็ไม่มีเสียงตอบกลับใด ๆ จากเรียว แต่ทว่า มือของเรียวตอนนี้กำมือฉันแน่น

        “ฉันบอกให้เธอไปเรียน และไปขอโทษยูซะ นี้เป็นคำสั่ง”

        “เดียวนี้นายกล้าออกคำสั่งกับฉันแล้วรึไง”

        “ก็เธอคือผู้รับใช้ ในเมื่อฉันเป็นเจ้านาย สิ่งเธอควรทำควรเชื่อฟังฉัน” ยังไม่ทันที่ฉันจะได้พูดอะไรต่อ เรียวก็ดึงมือฉันเพื่อให้ฉันเดินตาม แต่ทำไมกันนะแววตาหมอนั้นเปลี่ยนไปไม่เหมือนคนเดิม หรือว่านี้จะเป็นพลังแฝงของหมอนั้น ความกล้า ความอ่อนโยน ที่อยู่ในตัวหมอนี้ คือสิ่งที่คนอย่างฉันไม่มี

        ในที่สุดเราก็มาถึงห้องเรียน ห้องเรียนที่เต็มไปด้วยเสียงเอะอะโวยวาย ฉันหันไปสอบตากับยูพอดี แต่ทว่าเธอกลับยิ้มให้ฉันเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ทว่าฉันกลับเมินหน้าหนี้เธอ โดยที่ไม่หันกลับไปมองว่าตอนนี้เธอกำลังทำหน้ายังไงอยู่

        ฉันนั่งอยู่ริมสุดของหน้าต่างนั่งคิดสิ่งที่ยัยนั้นพูด เพื่อนงั้นเหรอ คนสำคัญงั้นเหรอ เพราะมนุษย์นั้นอ่อนแอมีแต่จะทำให้เป็นตัวถ่วงงานฉัน ฉันจะไม่สนหน้าไหนแม้แต่เรียวก็เถอะ

        ฉันนั่งคิดอะไรเพลินๆ แต่เสียงที่ทำให้ฉันต้องหันกลับมาฟังนั้นมันคือเรียว

        “นี้นายมานั่งตรงนี้ตังแต่เมื่อไหร่”

        “ก็ปกติที่ตรงนี้มันคือที่ฉัน แต่เพราะเธอแย่งที่นั่งฉันไปแล้วก็ถือซะว่าให้ฉันนั่งข้างๆแล้วกันนะ”

        “แล้ววันนี้ไม่สอนรึไง”

        “จะสอนได้ไง ผมยังแค่เด็กมอต้นเองนะ ที่สอนก็จะสอนเฉพาะแทนปู่เท่านั้นแหละ” ฉันหันหน้ากลับมาทางหน้าต่างเหมือนเดิม แต่ทว่าฉันสัมผัสได้ถึงที่อบอุ่นที่ตอนนี้กำลังจับมือฉันอยู่

        “โอกิ ผมไม่รู้ว่าโอกิผ่านอะไรมาบ้าง ไม่รู้ว่าโอกิคือใคร และเป็นคนแบบไหน แต่ผมขอให้โอกิเชื่อในตัวผม เพราะไม่ว่ายังไงผมก็จะยืนข้างยูกิเสมอ” ยังไม่ทันที่ฉันจะได้พูดอะไร เสียงของนักเรียนหญิงในห้องก็ดังขึ้น

        “ยัยลูกครึ่งปีศาจนี่เอาอีกแล้ว จะอารวาทอีกแล้วรึไง เป็นแบบนี้ที่ไร มีคนตายทุกที” ฉันหันไปมองเด็กผู้หญิงคนที่ถูกเรียกว่าครึ่งปีศาจ แต่นั้นยิ่งทำให้ฉันแทบช๊อคเพราะครึ่งปีศาจที่ว่านั้นคือ ยู

เรียวปล่อยมือฉันและรีบวิ่งไปหายู แต่ทว่ายูผลักเรียวกระเด็นแล้วพูดด้วยเสียงสั่นเครือ

        “เรียวอย่าเข้ามาใกล้ฉันนะ ฉันไม่อยากฆ่านาย ฉันไม่อยากย้ายโรงเรียนอีกแล้ว ขอร้องหละ อย่าเข้ามานะ”

        ยูกระโดดลงจากหน้าต่างในทันที ทำให้ฉันต้องรีบตามไป แต่นั้นกลับทำให้ปีศาจที่ไม่เคยปรากฏตัวยามรุ่งอรุณโผล่ออกมานั้นเพราะมีครึ่งปีศาจที่พวกมันสามารถดูดกลืนพลังวิญาณและพวกมันจะกลายเป็นอัมตะนิรันดร์

        ฉันกระโดดตามยูมาได้สักพัก เหมือนยัยนั้นเหมือนจะรู้ตัวว่าฉันตามมา

        “โอกิจัง ขอฉันเรียก โอกิจังได้ไหม” น้ำตาของยัยนั้นไหลออกมาพรั่งพรูแต่ทว่าฉันกลับยังคงทำหน้าเย็นชาเหมือนทุกครั้ง ฉันนิ่งไม่ตอบอะไรได้แต่ฟังสิ่งที่ยัยนั้นพูด

        “โอกิจัง ฉันหนะนะดีใจที่สุดที่ได้เจอโอกิจัง เพราะเธอเหมือนกับฉัน  แต่ฉันกลับอ่อนแอ ไม่มีแม้แต่พลังที่จะปกป้องใคร ฉันถูกมองว่าเป็นปีศาจ มาตั้งแต่จำความได้ เพราะเวลาที่ฉันคุมสติไม่อยู่ฉันจะทำร้ายผู้คนและเพื่อนๆ จนฉันต้องย้ายโรงเรียนอยู่บ่อยๆ แต่ถ้าเป็นตอนนี้ฉันจะไม่ย้ายหรือไม่หนี้อีกแล้ว เพราะฉันจะยอมให้พวกปีศาจแห่งรัตติกาลนี้กลืนกิน ฉันจะได้ไม่ต้องเจ็บปวดอีกแล้ว”

        สิ้นเสียงของยู ปีศาจสวะที่แห่มารวมตัวกันก็พุ่งชนร่างของยูและค่อยกัดกินจิตวิญญาณ มันทำให้เส้นเลือดใหญ่ของฉันทำงานและสูบฉีดขึ้นทันที

        “ฉันยังไม่อนุญาตให้เธอตาย เพราะฉะนั้นอย่ารีบตาย เพราะคนอย่างเธอฉันก็คงหาจากที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว”

        ฉันดึงอาบออกจากฝั่งแล้วเดินเข้าไปหายู ก่อนเอยด้วยน้ำเสียงเย็นชาแต่ทำให้คนฟังดีใจ

        “ถ้าเธอรีบตายฉันจะไม่มีวันยกโทษให้เธอ” แววตาของฉันเปลี่ยนไปเหมือนทุกครั้งที่ฉันเข้าสู่ความเป็นปีศาจ ฉันตะหวัดดาบไปมา แต่ทว่าปีศาจพวกนี้กลับเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยเพราะ การปรากฏตัวของครึ่งปีศาจทั้งสองตน  แต่ทว่ากลับมีแสงสีฟ้าพุ่งเข้าหาปีศาจทำให้พวกปีศาจลดจำนวนลงไปมาก แต่ทว่าว่านั้นกลับเป็นธนูปราบปีศาจของเรียว  นี้เหรอคืออาวุธของเรียว ฉันคิดในใจก่อนที่เรียวจะกระโดดมาทางฉัน

        “เป็นอะไรหรือเปล่า โอกิ  รีบถอยออกไปก่อน ฉันจะใช้พลังขั้นสูงสุด”

        “แต่ว่า..”

        “ไม่มีแต่ นี้เป็นคำสั่งของเจ้านาย” และทุกครั้งที่เรียวสั่งฉันจะขัดเขาไม่ได้เพราะนั้นถือเป็นคำสั่งที่ศักด์สิทธ์

        เรียวใช้ธนูปราบปีศาจยิ่งเข้าใส่ปีศาจในครั้งเดียวไม่เหลือแม้แต่ตัวเดียว มันทำให้ฉันสงสัยในพลังของเรียวนิดหน่อยว่าเรียวนี้คือนักล่าปีศาจมือสมัครเล่นจริงรึเปล่า ทุกอย่างจบลงแสงสีฟ้าก็หายไปพร้อมปีศาจ แต่ฉันยังคงมองดูเรียวที่ตอนนี้เก่งกว่าเมื่อก่อนมาตั้งแต่เมื่อไหร่

        สุดท้ายเราสองคนก็พายูมาโรงพยาบาล และเดินทางกลับบ้าน แต่จะว่าไปวันนี้คือวันที่ฉันไปอยู่บ้านเรียวนี้นะ ในระหว่างทางกลับบ้าน เรียวเอยด้วยน้ำเสียงอบอุ่น

        “ อ่อนโยนจังนะ โอกิ” ฉันหันไปมองหน้าหมอนั้น ด้วยสายตาแบบเดิมทุกครั้ง  แต่ทว่าหมอนั้นกลับเข้าใกล้ตัวฉันมากขึ้น  เรียวใช้มือลูบเส้นผมฉัน แล้วก็พูดอีกครั้งว่า “อ่อนโยนจังนะ โอกิจัง” แล้วหมอนั้นก็จูบที่หน้าผากฉัน มันทำให้ฉันตอนนี้หน้าถอดสี ได้แต่เดินก้มหน้าโดยมีมือคู่นั้นของเรียวจับมือฉันแน่น ราวกับว่าฉันเป็นของเขา

เนื้อหาโดย: TRUMPED
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
TRUMPED's profile


โพสท์โดย: TRUMPED
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
iPhone รุ่นประหยัดมาแล้ว!ชาวลาวไม่ทน! หลังหนุ่มจีนโพสทิ้งเงินกีบลงในถังขยะ ทำคนลาวถึงกับไม่พอใจ?พ่อของ "น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์" เสียชีวิตแล้วเขมรอ้างศิลปะป้องกันตัว "โบกาตอ" มีมากว่า 2,000 ปีแล้ว! หลักฐานจากภาพสลักโบราณโดยบรรพบุรุษเขมร?ไปซื้อน้ำแข็งแต่สิ่งที่ได้มาด้วยคือเจ้าตัวนี้อันตราย! อย่าใช้ "พัดลมคล้องคอ"..เพราะอาจเสี่ยงเป็นมะเร็งได้เขมรแสบ! นำภาพเก่าสถานท่องเที่ยวไทย ที่เต็มไปด้วยกองขยะมาเล่นไทย?ลูกค้าหนุ่มเศร้า หลังรีวิวชุดกีฬาที่ซื้อมา แต่ดันพลาดเห็นหนอนน้อย
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
อิหร่านขู่ถล่มที่ตั้งนิวเคลียร์ ของอิสราเอลด้วยขีปนาวุธเขมรอ้างศิลปะป้องกันตัว "โบกาตอ" มีมากว่า 2,000 ปีแล้ว! หลักฐานจากภาพสลักโบราณโดยบรรพบุรุษเขมร?เพื่อน "ออกัส" ซัดแหลก..พระเอกดังต่างหาก ถูกข่มขู่ให้กราบเท้า!!ปูทะเลที่หนักที่สุดในโลก
กระทู้อื่นๆในบอร์ด นิยาย เรื่องเล่า
สาวทำคอนเทนต์ เต้นบนรถหรู "ลัมโบร์กินี"..ไม่รู้งานนี้ประกันรับเคลมมั๊ย ?"ลาบูบู้" ไม่รอด โดนเขมรเคลมเรียบร้อยแล้ว..บอกรากเหง้ามาจาก "หน้ากาล"ชาวเน็ตท้าหนุ่มกินกาแฟทุกยี่ห้อ..ไม่น่าเชื่อเลยว่า เขาจะรับคำท้าสาวสงสัยว่าบ้าน หรือร้านขายพัดลมกันแน่..เพราะเล่นติดถึง 14 ตัวทั่วบ้าน
ตั้งกระทู้ใหม่