หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม แต่งรูป คำคม Glitter สเปซ ไดอารี่ เกมถอดรหัสภาพ เกม วิดีโอ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

“เจนนี่ ปาหนัน” ต่อมน้ำตาแตก! เผยความจริงหมดเปลือก ชีวิตจริงยิ่งกว่าละคร

โพสท์โดย NIXA

“เจนนี่ ปาหนัน” ต่อมน้ำตาแตก! เผยความจริงหมดเปลือก ชีวิตจริงยิ่งกว่าละคร

“เจนนี่ ปาหนัน” ต่อมน้ำตาแตก!เห็นฮาแบบนี้ ชีวิตจริงไม่ได้มีแต่เสียงหัวเราะ

…สิ่งหนึ่งที่เราชัดเจนกับตัวเองเสมอคือตัวตนนะ เราไม่เคยลืมตัวเองว่าเราเป็นอะไร ไม่คิดอยากจะทำอะไรกับตัวเองมากไปกว่าย้อนเวลากลับไปบอกตัวเองตอนเรียนว่า ดูแลตัวบ้างอีกเจนนี่ แล้ว...ก็หัดแต่งหน้าให้เร็วกว่านี้เถอะ (หัวเราะ)…”

นี่คือบทสนทนาก่อนอำลาที่เราได้ยินจากปากของเทพีแห่งเสียงหัวเราะ (ฉายาที่เธอเลือกตั้งให้ตัวเอง) “เจนนี่ ปาหนัน” ศิลปินอารมณ์ดีที่ให้เกียรติมานั่งพูดคุยกับเราในวันนี้ร่วมชั่วโมง ที่ทำให้เรารู้สึกเหลือเกินว่า คงไม่มีบทสรุปของเรื่องราวทั้งหมดไปได้ดีกว่า สิ่งที่เธอเลือกจะสรุปออกมาให้ตัวเอง เพราะทุกเรื่องราว เสียงหัวเราะและหยดน้ำตาของเธอในวันนี้ ทำให้เรารู้สึกเหลือเกินว่า “เจนนี่ ปาหนัน” คือ ศิลปินที่มีตัวตนชัดเจนที่สุดคนหนึ่งที่เราเคยได้สัมผัสมา และนี่คือ 7 เรื่องราวและตัวตนของเธอที่เราอยากจะให้คุณได้รู้จัก และบางที…เมื่ออ่านแล้วอาจจะทำให้คุณรู้สึกรักใน “ตัวตน” ของคุณแบบที่เธอรัก มากยิ่งขึ้นก็เป็นได้

“ตัวตน” – “คนใต้”

เมื่อเราถามเจนนี่ว่าสิ่งแรกที่เธอจะนึกถึงตัวเองคืออะไร เธอตอบอย่างไม่ลังเลใจทันทีว่า “ความเป็นคนใต้” “…หน้าอย่างเราไปบอกใครเค้าว่าเป็นคนสันกำแพงก็ไม่ได้เปล่าวะ (หัวเราะ) จุดเด่นที่สุดของเราไม่มีอะไรจะชัดเจนไปมากกว่าความเป็นสาวใต้ (หัวเราะ) แล้วเราก็ภูมิใจ มีความสุขทุกครั้งที่ได้ Present ความเป็นคนใต้ออกมา มันไม่มีอะไรที่จะทำให้เราแตกต่างจากคนอื่นนอกจากสิ่งที่เราเป็นจริงๆเพราะคนทุกคนเกิดมาก็แตกต่างกันอยู่แล้วดังนั้นแค่เราเป็นตัวของตัวเองหาตัวตนของเราให้เจอว่าสิ่งที่เป็นตัวเราแล้วใช่คืออะไรมันก็ทำให้เราโดดเด่นออกมาจากคนอื่นๆแล้ว สำหรับเรามันคือความเป็นคนใต้ ไม่ว่าจะทำอะไร เราก็อยากจะใส่ตรงนี้ลงไปเป็นส่วนหนึ่งของงานเรา ตั้งแต่ชื่อ ไปจนถึงเวลาคิดรายการ หรือทำโชว์อะไรก็ตาม แล้วมันก็ทำให้เราสนุก มีความสุขขึ้นไปอีกนะเวลาที่สื่อสารออกไปแล้วคนมีความสุขกับสิ่งที่เป็นตัวตนของเรา…” ฟังแบบนี้แล้วเราก็เข้าใจได้ทันที จากสิ่งที่เราได้ยินจากปากของเจนนี่เป็นเรื่องราวแรกในวันนี้ ว่า การแสดงตัวตนความเป็นคนใต้ในทุกงานของเธอนั้น ไม่ใช่แค่เพียง “ลูกเล่น” เพื่อ “ความตลกโปกฮา” ของผู้ชมไปวันๆ แต่เป็น “ตัวตน” และ “เหตุผล” ที่ทำให้เธอเป็นหนึ่งในบุคคลในวงการบันเทิงที่แตกต่างอย่างสร้างสรรค์

เพศที่สาม” กับความเป็นตัวของตัวเอง”

…เรารู้ตัวมาตั้งแต่เด็กว่าเราไม่ใช่ผู้ชายเราชอบเล่นอะไรที่ผู้หญิงเค้าเล่นกันชอบเล่นขายของขายขนมครกใครแย่งกูตบ! (หัวเราะ)” เจนนี่กล่าวถึงตัวตน ที่ชัดเจนต่อความรู้สึกของตัวเองมาตั้งแต่เด็กว่า เธอคือใคร รักที่จะเป็นอย่างไร เพื่อใช้ตัวตนของเธอสร้างประโยชน์และความสุขให้กับคนรอบๆ ข้าง แต่มันก็ต้องมีบ้างเป็นธรรมดา ที่เธอต้องรับมือกับเรื่องแย่ๆ เพียงแค่เธอเป็นเธอ “…มันเป็นเรื่องปรกติอยู่แล้วมั้ย คนที่เป็นตุ๊ด เป็นกะเทย เป็นเพศที่สาม ต้องเคยเจอการเอาความเป็นเพศที่สามมาล้อเลียน ไม่เล่นเพื่อความตลกโปกฮา ก็ใช้เป็นเหตุผล ว่าเราเป็นคนที่สมบูรณ์ไม่ได้ เป็นเหตุผลที่ทำให้เราถูกคัดออก หรือตัดสินในบางเรื่อง ทุกวันนี้ก็ยังเจอนะ (หัวเราะ) มันทำให้เรารู้สึกแต่มันไม่ได้เป็นสิ่งที่เราจะเก็บมาทำร้ายตัวเองเราโชคดีมาก ที่เกิดมาในครอบครัวที่ยอมรับเราได้ พ่อเราเป็นตำรวจนะเฮ้ย ! แต่พ่อไม่เคยว่าเราเลย สิ่งเดียวที่ทางบ้านเราคาดหวังไว้กับตัวเรา ก็คือ ‘ขอให้เป็นคนรักดีนะ’ แค่นี้” เจนนี่กล่าวทิ้งท้ายถึงครอบครัว ที่เป็นเหตุผล ให้เธอยืนหยัดในสิ่งที่เธอเป็นอย่างไม่ต้องอายใคร เพียงแค่มั่นใจว่าสิ่งที่ทำอยู่เป็นสิ่งที่ดีก็เพียงพอแล้ว

มหาวิทยาลัยแหล่งบ่มเพาะตัวตน

“…ตอนเข้ามหาวิทยาลัย ปฏิญาณกับตัวเองไว้เลยว่า ฉันจะเข้ามหาวิทยาลัยที่อยู่ในกรุงเทพมหานครเท่านั้น ฉันจะไปเป็นดอกหญ้าในป่าปูน เป็นสาวสะตอพลัดถิ่นในเมืองหลวง เรามีความรู้สึกว่ากรุงเทพฯ คือที่ที่มีโอกาสเยอะมากกว่าที่อื่น ถึงแม้ว่ามันจะมีการแข่งขันสูงก็ตาม แต่อย่างน้อยมันก็ทำให้เราเห็นว่าโอกาสดีๆ ก็คุ้มค่าที่จะแข่งขัน…”

เจนนี่เล่าให้เราฟังถึงความมุ่งมั่นที่จะเข้าศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯ แต่ทุกสิ่งทุกอย่างก็ไม่ได้เป็นไปอย่างที่เธอต้องการไปเสียหมด บางครั้งชีวิตก็เล่นตลกให้เธอพลาดในสิ่งที่หวัง เพื่อให้ได้รับในสิ่งที่จะสร้างสรรค์ตัวตนของเธอให้ชัดเจนยิ่งขึ้น

“…ตอนแรก เราอยากจะเข้านิเทศศาสตร์ วารสารศาสตร์ แต่คะแนนเราก็ ต่ำเตี้ยเรี่ยดินมากกกก (หัวเราะ) เราก็เลยหันเหไปเลือกคณะที่เกี่ยวกับภาษาฝรั่งเศสไปก่อน ตั้งใจไว้ว่าจะเรียนทางภาษาฝรั่งเศสไปก่อนในปริญญาตรี และค่อยไปต่อโทนิเทศ วารสารเอา ก็เลยเข้าภาควิชาภาษาตะวันตก เอกภาษาฝรั่งเศส คณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร ซึ่งกลายเป็นว่าทุกโอกาสที่ทำให้เรามีวันนี้มาจากที่นี่หมดเลยนะโดยเฉพาะการที่เราได้มารู้จักกลุ่มTrasher, Bangkok ซึ่งเป็นพี่ๆ ในคณะที่เป็นเด็กกิจกรรมตัวเด็ดๆ ทั้งนั้นเลย แล้วก็เป็นกลุ่มที่มีความเป็นครีเอทีฟสูงมาก เริ่มต้นจากการทำ Parody เล็กๆ ไปจนถึงการจัดปาร์ตี้แบบในปัจจุบัน การได้เรียนที่นั่นมันเป็นโอกาสที่เราได้บ่มเพาะความสามารถและตัวตนของเราให้คมขึ้น ได้รู้จักชีวิต รู้จักสิ่งที่ดี และไม่ดี (หัวเราะ) และได้รู้ว่าเราจะทำประโยชน์อะไรจากความเป็นตัวเราได้ยิ่งขึ้นไปอีก…”

เจนนี่กล่าวถึงชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย ก่อนจะทิ้งท้ายไว้ว่า

“…ถ้าให้กลับไปเลือกใหม่ได้ก็ยังจะเลือกที่นี่เหมือนเดิม…”

ตัวตนที่ใช่ตั้งแต่ยังไม่รู้ว่ามันเรียกว่าอะไร

“…ตั้งแต่เด็กเราไม่เคยรู้ว่าตำแหน่งหน้าที่นี้เค้าเรียกว่า“ครีเอทีฟ” เรารู้แค่ว่าเราอยากทำรายการโทรทัศน์หรือสายสื่อรู้ตัวตั้งแต่เด็กเลยนะเพราะเราชอบพูดชอบทำกิจกรรมของโรงเรียนเราชอบมีส่วนร่วมกับทุกอย่าง โตขึ้นก็เลยอยากทำงานอะไรที่ทำให้เราได้มีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็นในงาน จนโตขึ้นมาถึงได้รู้ว่ามันคือครีเอทีฟ เพราะเราตกภาษาอังกฤษ (หัวเราะ) ไม่ใช่ ! เราเป็นคนติด TV ติดละครมาตั้งแต่เด็ก ดูหมดเลยนะ วุ้ยยย (ลากเสียงยาว) ดูมาตั้งแต่ดาวพระศุกร์ ญาติกา แม่อายสะอื้น ถ้าเป็นการ์ตูนก็ดูเซเลอร์มูน อะไรที่ส่งเสริมความเป็นหญิงให้เรา (หัวเราะ) หนังก็ชอบดู เพลงก็ชอบฟังมันเลยทำให้เรารู้ตัวว่าเราอยากทำงานตรงนี้…” เจนนี่เล่าให้เราฟังถึงตัวตนของเธอที่จุดประกายให้เลือกเดินมาทำงานสายบันเทิง โดยเริ่มต้นจากการเป็นครีเอทีฟที่ Channel [V] Thailand และ BANG CHANNEL ก่อนที่จะรับตำแหน่งครีเอทีฟในสังกัด GMMTV ทำรายการแตกฟอง LIVE และรายการเทยเที่ยวไทย ที่ทำให้เธอได้มีโอกาสเดินทางมาสู่เบื้องหน้าอย่างในปัจจุบัน “…ตอนแรกๆที่มาทำงานสายนี้ คือ งงมากเลยนะ อุปกรณ์อะไรก็ใช้กับเขาไม่เป็น เพราะเราไม่ได้เรียนมาไง แต่ก็ต้องเรียนรู้กันไป เวลาคุยวิทยุเค้าคุยกันแบบนี้นะ รายการมันถ่ายกันยังไง แล้วก็ต้องเรียนรู้ให้ได้ไวที่สุด เพื่อให้ทันคนอื่น ไม่เป็นภาระของทีม ซึ่งเราโชคดีมากที่มีต้นทุนในการเป็นคนที่ติด TV มาตั้งแต่เด็ก (หัวเราะ) มันก็ค่อนข้างจะเข้าใจได้ไวว่า เขาทำแบบนี้กัน แล้วข้างหน้างานก็ได้ผลออกมาเป็นแบบนี้ไง แล้วเราเป็นคนเปิดรับสื่อหมด เพลงอะไรมาหมดก็ฟัง เลยไม่มีปัญหามากเวลาคิดงาน ต้องขอบคุณตัวเองไว้ ณ ที่นี้จริงๆ…”

ตัวตนในฐานะ “คนเบื้องหน้า”

“….ตอนนั้นเราไม่ได้เป็นครีเอทีฟอยู่ทีมเดียวกับพี่ป๋อมแป๋ม แต่นางอยากได้คนบ้ามาร่วมทีมเพิ่มมากขึ้น ก็เลยใช้อำนาจดึงรายการของเราไปอยู่ในอาณัติของนาง ทำไปซักพักนางก็พลิกเกมให้เรามาทำรายการเทยเที่ยวไทย เป็นครีเอทีฟคนหนึ่งในรายการด้วยความบ้าอำนาจของยาย…” เจนนี่เล่าให้ฟังถึงจุดเริ่มต้นการเข้ามาทำรายการเทยเที่ยวไทยของเธอก่อนจะเล่าถึงจุดเริ่มต้นของการมาทำงานเบื้องหน้าอย่างเต็มตัวในฐานะพิธีกรของรายการ “…งงมากเหมือนกัน มันน่าจะเหนื่อยหรือน่าจะขี้เกียจมากกว่า (หัวเราะ) ไม่ใช่ ! ล้อเล่น ! คือ พี่แป๋มเค้าก็คงคิดไว้แล้วว่า เค้าจะทำตรงนี้สักพักเพื่อจะขยับขยายไปทำสิ่งใหม่ๆ นั่นก็คือรายการ ทอล์ก-กะ-เทย Tonight ส่วนสาเหตุที่เค้าเลือกให้เรามาเป็นพิธีกรก็ไม่เคยบอกเราตรงๆ อีกอ่ะ แต่นางก็เคยพูดกับคนอื่นว่า เจนนี่มันเป็นคนที่มีลูกบ้าดีต่างจากคนอื่นเช่นการเล่าเรื่องอะไรที่ธรรมดาให้ตลกได้ชอบพูดภาษาท้องถิ่นแล้วตลกเค้าก็เลยมองว่ามันจะเป็นสีสันใหม่ในรายการได้ ก็เลยดึงเรามาทำตรงนี้ ซึ่งมันก็เป็นอย่างที่เห็น ยายก็ได้คนบ้ามาเป็นพิธีกร Rap ใต้กันไป (หัวเราะ)…” แล้วก็ไม่ใช่สิ่งอื่นใดอีก นอกจากตัวตนของเธอ ที่ทำให้เธอได้มายืนอยู่เบื้องหน้าเราตรงนี้ เป็นเจนนี่ ปาหนัน ที่ก้าวไปสู่ความท้าทายใหม่ๆ สู่การสื่อสารความเป็นตัวตนของเธอเพื่อสร้างความสุขให้เราทุกคน “…เมื่อก่อนเราทำเบื้องหลังเราเป็นคนคิด แต่พอเรามาเป็นเบื้องหน้า เรากลายเป็นคนที่ส่งสารจากความคิดของคนเบื้องหลัง ซึ่งมันยากกว่ามากเลยนะ แต่วิธีที่ดีที่สุดก็คือการ เล่าเรื่องที่เค้าอยากให้เราเล่าผ่านตัวตนของเราเอง จะเห็นว่าพิธีกรเทยเที่ยวไทยแต่ละคนก็จะมีจุดเด่นของตัวเอง มีอะไรที่ถ้าพูดถึงเรื่องนี้ปุ๊ป ต้องยกให้พิธีกรคนนี้ เราก็เล่ามันออกมาในแบบของเรา แล้วมันจะทำให้งานราบรื่นทั้งคนคิดและคนสื่อสาร งานเบื้องหน้านี่ เป็นอะไรใหม่ๆ ที่เราก็ไม่เคยทำอย่างนี้เต็มตัวมาก่อน ก็เป็นอีกหนึ่งบทบาทที่สร้างเจนนี่ ปาหนันในมิติใหม่ๆ…”

ตัวตนของคนที่ไม่เคยถูกรัก

“…ตั้งแต่เกิดมาสามสิบปีจนตอนนี้ไม่เคยมีแฟนเลยนะ…” ใครจะไปเชื่อว่าเราจะได้ยินประโยคนี้จากเจนนี่ ปาหนัน ถึงอีกหนึ่งความเป็นตัวตนของเธอ ที่ไม่เคยได้เล่าให้ใครฟังมาก่อน “…เราเป็นคนใยไหมไร้เดียงสามากเลยนะ (สำนักพิมพ์ใยไหม ผู้ผลิตนวนิยายวัยรุ่น) เราเป็นคนไม่มั่นใจในความรักเลย ทุกคนมองเข้ามาจะรู้สึกหมดว่าอีนี่ต้องโชกโชนมาก แต่เปล่าเลย ชีวิตวัยเด็กคือเรามุ่งไปกับการเรียนการทำกิจกรรม แล้วก็มีแต่เพื่อนกะเทย มามีความรัก จริงๆ ต้องเรียกว่าความรู้สึกรัก ก็เอาตอนมหาวิทยาลัย ซึ่งความรักของเราเป็นความรักที่ผิดหวังเสมอคือจบกันตั้งแต่ยังไม่เริ่มเราเป็นคนที่ชอบผู้ชายที่เป็นผู้ชายจริงๆไงแล้วเค้าก็ไม่ได้คู่กับเราอยู่แล้ว ผู้ชายมันไม่ได้คู่กับกะเทย มันเลยเป็นความรู้สึกรักแบบแอบชอบมาตลอด…” นี่คงเป็นครั้งแรกของเราเลยก็ว่าได้ ที่ได้สัมผัสอีกมุมของเจนนี่ ปาหนันที่เปื้อนรอยน้ำตา เธอหยุดคิดสักพักหนึ่ง ก่อนจะเล่าถึงตัวตนของคนที่ไม่เคยได้รับความรัก ที่เธอนับว่าเป็นอีกเรื่องที่สร้างให้เธอเป็นเธอในทุกวันนี้

“…เราไม่เคยรู้ว่าการมีแฟนมันเป็นอย่างไร การได้ไปดูหนังกันสองคนมันเป็นอย่างไร ไปเที่ยวทะเลกันเป็นอย่างไร เคยมีความรักครั้งหนึ่งที่หนักสุดสำหรับเรา เป็นความรักครั้งแรกด้วยมั้ง คือเราชอบรุ่นน้อง เพราะเราชอบคนน่ารักมากกว่าคนหล่อ รู้สึกว่าอยู่กับคนน่ารักแล้วมันทำให้เรายิ้มได้ แล้วก็สนิทกัน เล่นกัน ไปไหนมาไหนด้วยกัน แต่พอเค้ารู้เค้าก็หายไปเลย รู้โดยที่เราไม่ได้บอกด้วยนะ เราก็ Shock มาก แต่ก็ไม่ได้ขนาดร้องไห้ฟูมฟายนะ เพราะเราก็เจียมตัวในความรัก เรารู้ว่าเราเป็นคนหน้าตาประมาณไหน ความจริงกับสิ่งที่อยากให้เป็นมันเป็นไปไม่ได้ เราก็รู้ตัวว่าต้องเจอความผิดหวังอยู่แล้ว แต่มันก็เสียใจไง ไม่คิดว่าจะต้องเจอเร็วขนาดนี้ หลังจากนั้นเราก็เลยไม่เคยคิดที่จะบอกใครเลย…” แม้เจนนี่จะกล่าวออกมาพร้อมมวลน้ำที่หล่อเลี้ยงแววตามากกว่าปกติ แต่เชื่อเหลือเกินว่า เธอไม่ได้จมอยู่กับความรู้สึกผิดหวัง หรือท้อแท้ใจอย่างใดในชีวิต แต่เธอกลับโอบกอดและยอมรับมันเข้ามาเป็นอีกหนึ่งตัวตนของเธอ ซึ่งสะท้อนผ่านสิ่งที่เธอเล่าปิดท้ายเรื่องราวนี้

“…จริงๆ แล้วชีวิตเราที่ไม่ประสบความสำเร็จในความรัก อาจจะเป็นเพราะชีวิตเราไม่ได้ให้ความสำคัญกับความรักเป็นเรื่องแรก เราอยู่กับงาน กับเพื่อน ตอนเรียนเราก็ให้การเรียนเป็นหลัก เพื่อนเป็นรอง ตอนทำงานเราก็ให้งานเป็นหลัก เงินเป็นรอง ความสำคัญในเรื่องความรักมันก็เลยหล่นลงไป แต่ไม่ใช่ว่าเราจะปิดกั้นชีวิตเราจากเรื่องความรักนะถึงแม้มันจะผิดหวังแต่มันก็คือสิ่งที่สร้างความเป็นเราขึ้นมาจนถึงทุกวันนี้ ความรักแม้มันจะผิดหวังแต่มันก็ยังสำคัญสำหรับเราเสมอ ยังอยากจะมีคู่ อยากจะมีความรักแบบที่เราไม่ได้เจอกับมันเลยก่อนตายนะ…” เจนนี่กล่าวกับเราก่อนจะทิ้งท้ายถึงตัวตนของเธอไว้ว่า “…เราเป็นคนๆ หนึ่งที่หัวเราะได้ ก็ร้องไห้เป็น แค่ได้ใช้ชีวิตในแบบที่เป็นตัวของตัวเอง ได้หัวเราะให้เต็มที่ ได้ร้องไห้ให้สุด ไม่ต้องรักตัวเราเองไปทุกเรื่อง แต่ยอมรับทุกอย่างที่เป็นเราให้ได้ เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว…”

โพสท์โดย: NIXA
แหล่งที่มา: www.deemagna.com
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
NIXA's profile


โพสท์โดย: NIXA
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
สาวสงสัยว่าบ้าน หรือร้านขายพัดลมกันแน่..เพราะเล่นติดถึง 14 ตัวทั่วบ้านยิ้มอ่อนกับเขมรรายวัน : สื่อเขมรอ้างว่ามีการซื้อรถไฟญี่ปุ่นความเร็วสูง แต่โลกออนไลน์งง นี่มันรถไฟเก่าปลดระวางรอเอามาซ่อมใช้ใหม่นี่นา....พลังมหัศจรรย์ของ "เกลือ" เปลี่ยนการซักผ้าให้สะอาดง่ายเช้านี้อิสราเอลยิงขีปนาวุธ โจมตีอิหร่านแล้ววว!!ชาวบ้านตาดี พบคู่รักซั่มกันในทะเล ที่ภูเก็ต (มัีคลิป)หลานโฉด เข็นศwลุงไปกู้เงินธนาคารนักวิทยาศาสตร์เผย? “มนุษย์ทุกคนจะมีคนที่หน้าเหมือนเราอีก 7 คน อยู่ทั่วโลก”"กอล์ฟ ฟักกลิ้งฮีโร่" นั่งท้ายกระบะมาคอนเสิร์ต..ทำเอาการ์ดไม่เชื่อว่าเป็นศิลปิน"วงกลมลึกลับ" โผล่เหนือน้ำ..บางหลุมมีปลาอยู่ มันคืออะไรกันแน่ ?
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
ชาวบ้านตาดี พบคู่รักซั่มกันในทะเล ที่ภูเก็ต (มัีคลิป)ครูไพบูลย์ เจ้าของฉายากงยูเมืองไทย โพสหยอดหวาน ลั่น "เมื่อไหร่จะได้ยกเอวเขาน้อ"วัยรุ่นของแทร่ต้องแบบนี้hamper: กีดกั้น ขัดขวางอื้อหือ...เพิ่งเคยเห็นปรากฏน้ำท่วมทะเลทรายที่ ดูไบ งานนี้เป็นน้ำท่วมหนักในรอบ 75 ปีกว่า คือหนึ่งชั่วอายุคน ถึงจะมีน้ำท่วมหนักขนาดนี้เลยนะเนี่ย
กระทู้อื่นๆในบอร์ด บันเทิง ดารา
update ผลงานล่าสุด เจนนี่ BLACKPINK"กอล์ฟ ฟักกลิ้งฮีโร่" นั่งท้ายกระบะมาคอนเสิร์ต..ทำเอาการ์ดไม่เชื่อว่าเป็นศิลปินเคลมอีกแล้ว! อ้างมั่ว "ลิซ่า" ไม่ใช่คนไทย..แต่เป็นคนเขมร"ครูไพบูลย์" ลั่น! ผมแค่โปรโมตเพลง..อย่าโยงอดีตภรรยา
ตั้งกระทู้ใหม่