ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ VS ลิเวอร์พูล "ใครเก็บ 3 แต้ม" พรีเมียร์ลีกเสาร์นี้...
ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ VS ลิเวอร์พูล "ใครเก็บ 3 แต้ม"
ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์
3 คะแนนที่หล่นหายไปที่ ทำให้สาวก ไก่เดือยทอง ทั้งโลกได้เห็นว่า แนวรับ สเปอร์ส มีปัญหาในเรื่องของลูกกลางอากาศอย่างรุนแรง เช่นเดียวกับการต้องรับมือกับแข้งที่มีความเร็ว แมตช์นี้ นายใหญ่ชาวอาร์เจนไตน์ คงเตรียมปรับเกมรับอย่างน้อยๆ สองตำแหน่ง ไล่มาตั้งแต่ผู้รักษาประตู อูโก้ โยริส ที่เพิ่งโดนข้อหาเมาแล้วขับ สลัดอาการบาดเจ็บบริเวณต้นขากลับมาเฝ้าเสาทันแน่นอน ส่วนแนวรับสามคนยังคงไม่เปลี่ยน วิงแบ็กสองข้าง นำโดยเจ้าประจำทางกราบขวา คีแรน ทริปเปียร์ ด้าน แดนนี่ โรส จะกลับมาทวงตำแหน่งจาก เบน เดวิส ที่ได้ลงสนามในแมตช์กับ วัตฟอร์ด เพื่อหยุดตัวอันตรายอย่าง โมฮาเหม็ด ซาลาห์
แดนกลาง มุสซ่า เดมเบเล่ หายเจ็บทันบิ๊กแมตช์นัดนี้พอดี ร่วมประสานงานกับ เดเล่ อัลลี่, ลูคัส มูร่า และเพลย์เมคเกอร์ผู้เป็นลมหายใจของ ไก่เดือยทอง อย่าง คริสเตียน อีริกเซ่น โดยวาง แฮร์รี่ เคน ที่ซัดไป 5 ประตูใน 7 นัดหลังสุดกับ ลิเวอร์พูล ยืนล่าตาข่ายในแดนหน้า
สภาพความพร้อม ลิเวอร์พูล
เยอร์เก้น คล็อปป์ ยังคงไว้ใจให้ อลิสสัน ยืนเฝ้าเสาในฐานะนายทวารมือหนึ่งตามเคย ส่วนแผงหลังยังคงไม่มีการเปลี่ยนแปลงทั้ง เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ที่ยิ่งเล่นยิ่งดี ประจำการทั้งสองฟากฝั่ง ส่วนคู่เซนเตอร์ หากไม่เจ็บไม่ป่วย วินาทีนี้ยังไงก็คงต้องเป็น โจ โกเมซ ที่ก้าวขึ้นไปเล่นให้กับทีมชาติอังกฤษแล้วลงสนาม โดยมี เวอร์กิล ฟาน ไดจ์ค นักเตะยอดเยี่ยมประจำเดือนของสโมสร คอยสั่งการคุมแนวรับทั้งหมด แผงมิดฟิลด์ เจมส์ มิลเนอร์, นาบี เกอิต้า จองสัมปทานพื้นที่ 11 ตัวจริงอย่างแน่นอน เช่นเดียวกับ จิจี้ ไวจ์นัลดุม ที่จะกลับมาเบียดกัปตันทีมตัวจริงอย่าง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ไปนั่งที่ม้านั่งข้างสนาม
สามประสานในแนวรุก ถ้าโลกไม่แตก รับรองไม่มีการเปลี่ยนแปลงร้อยเปอร์เซ็นต์ ทั้ง โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่, ซาดิโอ มาเน่ และสตาร์หมายเลขหนึ่งของพรีเมียร์ลีกอย่าง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่มีสถิติอันยอดเยี่ยมยามพบกับ สเปอร์ส เตรียมลงล่าตาข่ายในแดนหน้าเช่นเคย โดยมี เซอร์ดาน ชากิรี่ และแดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์
11 ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ : อูโก้ โยริส, แยน แฟร์ต็องเก้น, ดาวินสัน ซานเชซ, โทบี้ อันเดอร์ไวเรลด์, คีแรน ทริปเปียร์, แดนนี่ โรส, มุสซ่า เดมเบเล่, เดเล่ อัลลี่, ลูคัส มูร่า, คริสเตียน อีริกเซ่น, แฮร์รี่ เคน
ลิเวอร์พูล : อลิสสัน, เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, เวอร์กิล ฟาน ไดจ์ค, โจ โกเมซ, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน, นาบี เกอิต้า, เจมส์ มิลเนอร์, จอร์จินิโอ้ ไวจ์นัลดุม, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่, ซาดิโอ มาเน่, โมฮาเหม็ด ซาลาห์
ความพ่ายแพ้ต่อ วัตฟอร์ด ในเกมล่าสุด ถือเป็นความเสียหายอย่างใหญ่หลวงต่อยอดทีมจากลอนดอนทีมนี้ เนื่องจากบรรดาทีมในกลุ่มลุ้นแชมป์ด้วยกันต่างยังคงโกยแต้มกันได้อย่างต่อเนื่อง รวมถึง ลิเวอร์พูล ที่เอาตัวรอดจาก คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม มาได้ ฉะนั้นเกมนี้ สเปอร์ส เองคงต้องทำทุกวิถีทางเพื่อดับซ่าส์แข้ง หงส์แดง และกลับมาอยู่ในวงโคจรของการลุ้นแชมป์อย่างเหนียวแน่น ส่วน ลิเวอร์พูล เอง ต้องยอมรับว่าพวกเขาทำผลงานได้ไม่ค่อยน่าประทับใจเท่าไหร่ในแมตช์เฉือน เลสเตอร์ แต่สุดท้าย หงส์แเดง ก็ยังเอาตัวรอดจากสถานการณ์ที่ยากลำบากแบบนี้ได้
แฟนบอลต่างรู้ดีว่า สเปอร์ส และลิเวอร์พูล คือทีมที่เน้นเกมรุกเป็นจุดขายด้วยกันทั้งคู่ เชื่อว่าเกมนี้ทุกคนจะได้เห็นการเปิดเกมเข้าใส่กันอย่างบ้าคลั่งเช่นเคย เพราะจากสถิติการพบกันตลอด 10 นัดหลังสุดในศึกพรีเมียร์ลีก จะเห็นได้ว่า พวกเขาต่างซัดกันถล่มทลายไปถึง 32 ประตู เชื่อว่าสุดท้ายแล้ว เกมรับของ ลิเวอร์พูล จะยังดีพอที่จะหยุดแนวรุกอย่าง แฮร์รี่ เคน, คริสเตียน อีริกเซ่น และลูคัส มูร่า ได้อยู่หมัด...