Share Facebook LINE Twitter
หน้าแรก เว็บบอร์ด Chat ตรวจหวย ควิซ คำนวณ Pageแชร์ลิ้ง
หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
News บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ตำนานการสร้างโลกและน้ำท่วมโลก ของจีน

โพสท์โดย warrior B

 



โลกใบนี้ที่ว่ามีลักษณะเหมือนผลส้มที่เราอาศัยอยู่นั้น ถึงปัจจุับันทางวิทยาศาสตร์จะมีข้อพิสูจน์ว่า โลกและจักรวาล
เกิดมาจากซูเปอร์โนวา หรือ บางทฤษฎีว่าเกิดมาจากการรวมตัวของอะตอม แต่อย่างไรก็ตามก็ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า
โลกของเราใบนี้เกิดขึ้นมาอย่างไีร เพราะมันเป็นเำพียงแค่การสมมุติของนักวิทยาศาสตร์เท่านั้นเอง 


มนุษย์บรรพชนของเราก็สงสัยเรื่องนี้เช่นกันนะ เรื่องของตำนานการกำเนิดโลกจึงมีอยู่ทุกชนชาติต่าง คราวนี้เรามาดู
ในตำนานเทพเจ้าของชาวจีนซึ่งมีอารยธรรมมาอย่างยาวนานก็มีความเชื่อเรื่องนี้เช่นกัน ชาวจีนจินตนาการและเชื่อว่า 
โลกและจักรวาลเกิดขึ้นจาก เทพยักษ์ตนหนึ่ง นามว่า "ผานกู่"  


เทพผานกู่ เทพบิดรแห่งชนชาติชาวจีน



ตอนเริ่มแรกยังไม่มีสรรพสิ่งเกิดขึ้น ชาวจีนจินตนาการว่าจักรวาลนั้นเสมือนไข่ฟองหนึ่ง ภายในเปลือกไข่นั้น
ก็มีแต่ความมืดมัวมืดมน และแล้วภายในไข่นั้นก็มีสิ่งๆหนึ่งอาศัยอยู่นั้นคือ ผานกูนั้นเอง ผานกูอยู่ในไข่เป็นเวลามานาน
กว่า 18000 ปี จึงตื่นขึ้นจากการนิทรามา 


เมื่อผานกูตื่นขึ้นมาก็พบกับความมืดและความอึดอัด ผานกูไม่ชอบในสภาพอย่างนี้เขาเลยทำการทลายไข่ฟองนี้โดยใช้ขวาน
ที่เป็นอาวุธคือกาย ฟันจนไข่นั้นแตกออกจากกันเป็นสองซีก ละอองควันภายในไข่ที่ถูกกักขังมานานก็ลอยขึ้นไปเป็นท้องฟ้า 
และเปลือกไข่ก็จมสลายจนกว่าเป็นดิน 





และเมื่อ ฟ้า-ดินได้บังเกิดขึ้น และแยกออกจากกันแล้ว แต่ผานกูก็ยังกลัวว่าฟ้ากับดินจะกลับมาร่วมตัวกันอีกและตนเองก็ต้อง
อึดอัดเป็นอีกแน่ ผานกูจึงค่ำฟ้าโดยใช้มือดันฟ้าขึ้น ส่วนดินใช้เท้าเหยียบไว้เขาทำเช่นนี้เป็นเวลานานกว่าหมื่นปี จนฟ้าและดิน
แยกออกจากกันอย่างถาวรแน่นอน แต่ผานกู่ก็ได้หมดพลังลง หลังจากการใช้ร่างของตนแยกฟ้ากับดินมานานกว่าหมื่นปี 
ร่างกายของผานกู่ ก็กลายเป็นโลกใบนี้ 


 


ซึ่งมีผู้บรรยายว่า ร่างกายของผานกูกลายเป็นโลก ซึ่งส่วนต่างๆแม้อวัยวะบางอย่างก็เป็นส่วนหนึ่งของโลกได้แก่ 

- ดวงตาทั้งสองข้างกลายเป็นดวงอาทิตย์กับดวงจันทร์
- เส้นผมกลายเป็นดวงดาว 
- กระดูกกลายเป็นภูเขา
- ผิวกลายเป็นดิน
- ฟันกลายเป็นแร่ทองคำ 
- ไขข้อกลายเป็นมุกและหยก 
- เลือดกลายเป็นน้ำไหลไปเป็นแม่น้ำลำคลองและมหาสมุทร 
- เหงื่อกลายเป็นบ่อน้ำและฝน
- ลมหายใจกลายเป็นสายลม 


ซึ่งว่าได้ว่าโลกของเราก็คือผานกู่นั้นเอง ท่านยังคงทำหน้าที่ของท่านเพื่อสรรพสิ่งทั้งหลาย เมื่อร่างของผานกู่กลายเป็นโลกแล้ว ร่างทิพย์ของผานกู่ ก็ลอยไปในห้วงอากาศเดินทางไปในที่ต่างๆกลายเป็นเทพ และแล้วผานกู่ก็พบเข้ากับเทพธิดานามว่า "ไท่หยวน" ซึ่งนางกำลังบำเพ็ญเพียรอยู่บนยอดเขาสูง เทพผานกู่ยินดีเ้ป็นอย่างยิ่งที่พบเทพธิดาไท่หยวน และพระองค์ก็เนรมิตร่างกลายเป็นลำแสงสีขาวพุ่งเข้าปากของเทพธิดา จากนั้นเทพธิดาก็ทรงท้องนานถึง 12 ปี (เทพเขาอุ้มท้องกันนานจริงๆ) แล้วให้กำเนิดเป็นบุตรชาย นามว่า "ง่วนสีเทียนกุ๋น" ต่อมาก็กลายเป็นเทพสูงสุดแห่งลัทธิเต๋า (ตีได้ว่า ง่วนสีเทียนกุ๋นนั้นก็คือเทพผานกู่ หรือไม่ก็เป็นโอรสของเทพผานกู่ก็ได้) 




อีกตำนานหนึ่งของเทพผานกู่ โดยตำนานนี้เกิดขึ้นมาหลังจากที่จีนรับพระพุทธศาสนาเข้ามาในสมัยราชวงศ์ถัง ตำนานนี้มีอยู่ว่า 
เทพผานกู่ทรงเป็นศิษย์แห่งพระพุทธองค์ (พระสมณโคดมพุทธเจ้า ก็คือพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน หรือรู้จักกันในนาม 
พระศากยมุนีพุทธเจ้านั้นเอง) พระพุทธองค์ทรงเลเห็นว่าแผ่นดินทางทิศใต้นั้นยังคงมืดอยู่ พระองค์จึงจะให้ศิษย์คนใดคนหนึ่ง
เดินทางไปเบิกฟ้าเปิดดิน มีเพียงผานกู่เท่านั้นที่รับอาสาจากพระพุทธองค์ พระพุทธองค์ทรงถามผานกู่ว่า


"เธอจะทำหน้าที่นี้สำเร็จได้หรือไม่?"
"ข้าแต่ท่านอาจารย์ศิษย์ทำได้สำเร็จแน่ แต่ศิษย์เกรงแต่ว่าศิษย์จะหลงไหลในดินแดนใหม่นี้"
"เมื่อเธอมั่นใจแล้วจะกลัวอันใด เธอจะได้กลับมายังที่นี้อีกครั้งเมื่อเสร็จภารกิจ"

ผานกู่น้อมรับพุทธโองการแล้วเหาะไปยังดินแดนทิศใต้ที่มืดสนิืท ผานกู่เนรมิตร่างของตนให้กลายเป็นมนุษย์ที่มีร่างกายใหญ่โต 
นามว่า "พนโกสีย์" โดยมีขวานเป็นอาวุธ และใช้ขวานนั้นเจาะลงบนความมืดผ่าออกเป็นสองส่วน มีแสงสว่างลอยออกมาจาก
ความมืดกลายเป็นท้องฟ้า และความมืดนั้นก็ค่อยๆสลายกลายเป็นดิน แล้วสลักเป็นอักษรทิ้งไว้ว่า 

"ข้า พนโกสีย์ได้ทำการเบิกฟ้าเปิดดินเป็นอันสำเร็จแล้ว" 

หลังจากนั้นพอเสร็จหน้าที่ผานกู่ก็ไม่ยอมกลับไปยังแดนสุขาวดี ยังคงหลงระเริงอยู่ในดินแดนทิศใต้นี้ พระพุทธองค์ทรงโปรด
ให้พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร (เจ้าแม่กวนอิม) ไปเตือนผานกู่และพากลับแดนสุขาวดี พระโพธิสัตว์เสด็จมายังดินแดนทิศใต้
และเข้าโปรดผานกู่ให้เขารำลึกได้ว่าตนเองคือ ผานกู่ โดยพระองค์ชโลมน้ำทิพย์จากแจกันหยดลงบนศีรษะของผานกู่ 

เมื่อผานกู่จำความได้ ก็พบว่าตอนนี้เขาไม่บริสุทธิ์ดั่งแต่เดิมเพราะหลงในโลกียะในดินแดนทิศใต้ ผานกู่จึงขอพระโพธิสัตว์
รดน้ำทิพย์จากแจกันนั้นเพื่อชำระมลทิน และผานกู่ก็กลายเป็นผลท้อ พระโพธิสัตว์ทรงนั้นผลท้อนั้นไปถวายพระพุทธองค์ 
ด้วยความเ้มตตาของพระองค์ จึงทรงช่วยผานกู่ให้กลับคือร่างเดิม หลังจากนั้นผานกู่ได้รับภารกิจของพระพุทธองค์ต่างๆ เช่น 
สร้างพระอาทิตย์ สร้างพระจันทร์ สร้างดวงดาวเป็นต้น 

แต่ด้วยชาวจีนเป็นคนกตัญญูรู้คุณ รู้ในพระคุณของผานกูซึ่งชาวจีนเชื่อว่าเป็นผู้สร้างโลก ด้วยพระคุณที่พระองค์ทำให้มีโลก
ให้เราได้อยู่อาศัย ชาวจีนจึงเคารพนับถือในตัวเทพผานกู่ ถูกยกย่องเป็นเทพเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ 

ผานกูเทพผู้แยกฟ้าแยกดิน ผานกูเทพบิดร ผานกูปฐมเทพ.... 



น้ำท่วมโลกในตำนานจีน



ตำนานจีน เจ้าแห่งสวรรค์คือเทียนเฉิน (Tien Shen) ที่ไทยเรียกว่า เง็กเซียนฮ่องเต้ ได้ทำให้เกิดน้ำท่วมใหญ่ในโลก
เพื่อลงโทษมนุษย์ที่ชั่วร้ายผู้คนต้องไปซ่อนตัวตามภูเขา แย่งอาหารและที่อยู่กับสัตว์ร้าย ทำให้ต้องทนทุกข์ทรมาน 
มีเทพเจ้าเพียงองค์เดียวในสวรรค์คือกุน (Gun) ซึ่งมีเมตตาต่อมนุษยชาติและรู้สึกว่าการลงโทษนี้รุนแรงเกินไปจึงขอร้องให้เง็กเซียนฮ่องเต้ทำให้น้ำลด แต่ไม่เป็นผล




วันหนึ่งกุนไปพบนกฮูกและเต่าโดยบังเอิญ และเล่าปัญหาของเขาให้ฟัง สัตว์ทั้งสองแนะนำว่าเง็กเซียนมีวัตถุกายสิทธิ์
ซึ่งดูเหมือนก้อนดินธรรมดา หากกุนสามารถเอาวัตถุนี้โยนลงไปในน้ำ มันจะขยายตัวกลายเป็นเขื่อนกั้นน้ำได้ ซึ่งกุนก็
ฝ่าฟันอุปสรรคหาดินนี้มาได้ก้อนหนึ่งแล้วจึงลงไปยังโลกมนุษย์โยนก้อนดินลงไปในน้ำ ทันใดนั้นดินก็เริ่มโก่งตัวขึ้น
ไม่ช้าก็กลายเป็นภูเขากั้นน้ำเอาไว้ น้ำจึงแห้งสนิทเหล่ามนุษย์พากันปีติยินดี แต่เง็กเซียนโกรธมากจึงส่งเทพแห่งไฟ
ลงมาฆ่ากุน แล้วนำดินที่เหลือกลับไปสวรรค์ น้ำจึงท่วมโลกอีกครั้งหนึ่ง แม้กุนจะถูกฆ่าแต่วิญญาณของเขายังอยู่
เพื่อทำภารกิจให้เสร็จสิ้นมีชีวิตใหม่เกิดขึ้นในร่างของเขา 




หลังจากเวลาผ่านไป 3 ปี โดยที่มนุษย์ที่เศร้าโศกคิดถึงกุนเฝ้าระวังร่างของเขาอยู่ เง็กเซียนก็ส่งเทวดาถือดาบลงมา
เพื่อทำลายร่างของกุน เมื่อคมดาบต้องร่างของเขามังกรร้ายก็โผล่ออกมา มังกรนี้คือ กู่ (Gu) ผู้เป็นลูกของกุนนั่นเอง 
กู่ได้สานต่อภารกิจของบิดาจนสำเร็จและสามารถควบคุมน้ำท่วมได้ ตัวกู่เองกลายเป็นมังกรเหลืองและลงไปอยู่ที่ก้นทะเล


จะเห็นได้ว่า สาเหตุส่วนใหญ่ของน้ำท่วมโลกเนื่องมาจากความชั่วร้ายของมนุษย์ หรือเทพเจ้าต้องการทำลายล้างมนุษย์ 
แต่ก็มีคนดีจำนวนหนึ่ง ที่จะรอดจากมหาภัยนั้นและเป็นผู้สืบเผ่าพันธุ์มนุษย์ต่อไป โดยที่เขาได้รับการเตือนล่วงหน้าให้
เตรียมตัวรับมือกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น ผู้ที่เตือนอาจเป็นพระเจ้า เทพเจ้า หรือสัตว์เลี้ยงของมนุษย์ จำนวนวันที่ฝนตกก็จะ
แตกต่างกันไปแต่ละชาติ 




จะมีตำนานอินเดียที่ค่อนข้างจะแปลกไปตรงที่สาเหตุที่น้ำท่วมไม่ได้เกิดจากความชั่วร้ายของมนุษย์ ตำนานที่เกี่ยวกับ
น้ำท่วมใหญ่นี้อาจมาจากข้อเท็จจริงที่ว่ากระแสน้ำและพายุฝนอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันขึ้นได้ในท้องที่บางแห่ง
โดยเฉพาะในที่ลุ่ม สามารถทำลายชีวิตและทรัพย์สินได้ในเวลาอันรวดเร็ว และส่วนใหญ่ผู้คนในสมัยโบราณก็จะ
ตั้งบ้านเรือนอยู่ใกล้แม่น้ำซึ่งสะดวกต่อการคมนาคม

การสิ้นโลกนี้ มีความเชื่อมาแต่โบราณว่าโลกเสื่อมลงตามลำดับ นาน ๆ ทีก็ต้องมีการชำระล้างสร้างใหม่กันเสียที 
ตำนานที่เกี่ยวกับการสิ้นโลกนี้แพร่หลายทั่วไป บางครั้งกลายเป็นส่วนหนึ่งของศาสนา


หนังสือสกุลไทย ปีที่ ๕๔ ฉบับที่ ๒๗๘๐
ประจำวันอังคารที่ ๒๙ มกราคม พ.ศ.๒๕๕๑
ห้องสมุดสกุลไทย ความเชื่อ หน้า ๑๓๔ - ๑๓๕ 


⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
warrior B's profile


โพสท์โดย: warrior B
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
มาเป็นคนแรกที่ VOTE ให้กระทู้นี้
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
เกาหลีขี่ Harley ตะลุยไทย ถนนไทยคือสวรรค์ของไบค์เกอร์จริงไหม คลิปนี้มีคำตอบวิธีแก้ไอง่าย ๆ ตามภูมิปัญญาสมัยโบราณ พร้อมแนะนำสมุนไพรที่ช่วยบรรเทาอาการไออย่างได้ผลไทยเร่งขึ้นทะเบียน วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร ที่เก่าแก่กว่านครวัด ทำเขมรเครมยากขึ้นแค่เห็นก็หนาววูบๆแล้ว การตั้ง "แค้มป์ริมผา" (Cliff Camping) เขาโรไรมา ที่สุดท้าทายแผ่นดินไหวขนาด 6.3 เขย่าเมืองเอสเมรัลดัส เอกวาดอร์ – ประชาชนแตกตื่นNASA ได้ระบุวันสิ้นโลกเอาไว้แล้วหนุ่มปริศนาโผล่กลาง "โหนกระแส" หล่อจน "หนุ่ม กรรชัย" ทักเหมือน "กงยู"สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ เชียงใหม่เคล็ดไม่ลับ ลดไขมันหน้าท้องส่องบ้านใหม่เจ๊ มิ่ง! ช่างซ่อมพัดลมคนดัง จากน้ำพักน้ำแรงล้วนๆคิดและทำแบบนี้ เราจะลดความอ้วนได้ถาวร!"ปราสาทตาเมือนธม" มรดกแห่งประวัติศาสตร์ขอมกลางพรมแดนไทย–กัมพูชา กับปริศนาเขตแดนที่ยังไม่คลี่คลาย
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
เด็กชายวัย 11 ปี น้ำหนักพุ่งถึง 150 กิโลกรัม พบมีพฤติกรรมผิดปกติ “กินดิน” แพทย์ชี้อาจเกี่ยวข้องกับภาวะออทิสติกโพสต์ไม่คิด ชีวิตไม่สวยคิดและทำแบบนี้ เราจะลดความอ้วนได้ถาวร!สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ เชียงใหม่แค่เห็นก็หนาววูบๆแล้ว การตั้ง "แค้มป์ริมผา" (Cliff Camping) เขาโรไรมา ที่สุดท้าทาย
กระทู้อื่นๆในบอร์ด ข่าววันนี้
แผ่นดินไหวขนาด 6.3 เขย่าเมืองเอสเมรัลดัส เอกวาดอร์ – ประชาชนแตกตื่นชายที่ทำให้ลูกตายื่นออกมาจากเบ้าตาได้ยาวที่สุดในโลกอินเดียล่ากลุ่มติดอาวุธหลังเหตุโจมตีในแคชเมียร์ – ปากีสถานงานเข้าสหรัฐฯ บอกคุยกับจีนแล้ว แต่จีนบอก... ไม่เคยคุย!?
ตั้งกระทู้ใหม่
หน้าแรกเว็บบอร์ดหาเพื่อนChatหาเพื่อน Lineหาเพื่อน SkypePic PostตรวจหวยควิซคำนวณPageแชร์ลิ้ง
Postjung
เงื่อนไขการให้บริการ ติดต่อเว็บไซต์ แจ้งปัญหาการใช้งาน แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม ข่าวประชาสัมพันธ์ ลงโฆษณา
เว็บไซต์นี้ใช้ Cookie
เพื่อประสบการณ์ที่ดีและการใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ดูข้อมูลเพิ่มเติม อ่านนโยบายการใช้งาน
ตกลง